กรมส่งเสริมการเกษตร ชี้ระยะนี้ทุเรียนเริ่มติดผล เตือนเกษตรกรระวังหนอนเจาะเมล็ด เพิ่มผลผลิตคุณภาพ

จันทร์ ๑๙ กุมภาพันธ์ ๒๕๖๗ ๑๒:๓๐
นายพีรพันธ์  คอทอง อธิบดีกรมส่งเสริมการเกษตร กล่าวว่า ทุเรียนเป็นหนึ่งในผลไม้สำคัญของไทยซึ่งเป็นที่ต้องการทั้งในและต่างประเทศ ซึ่งในช่วงระยะนี้ทุเรียนกำลังอยู่ในช่วงของการพัฒนาผล กรมส่งเสริมการเกษตร จึงเตือนให้เกษตรกรผู้ปลูกทุเรียนทุกภาคในประเทศไทย เฝ้าระวังการระบาดของหนอนเจาะเมล็ดทุเรียน เนื่องจากเป็นแมลงศัตรูที่สำคัญของทุเรียน ตัวเต็มวัยของหนอนเจาะเมล็ดทุเรียนเป็นผีเสื้อกลางคืนวางไข่เป็นฟองเดี่ยวบนผลทุเรียนในขณะที่ผลยังอ่อน เมื่อไข่ฟักเป็นหนอนจะเจาะรูเล็ก ๆ ที่สังเกตได้ยากเข้าไปกัดกินเมล็ดภายในผลทุเรียน ร่องรอยการทำลายผลทุเรียนจะไม่สามารถสังเกตจากภายนอกได้ โดยหนอนเจาะเข้าไปในผลทุเรียนแล้ว จะถ่ายมูลปะปนอยู่กับเนื้อทุเรียนทำให้เนื้อทุเรียนเสียคุณภาพ และเมื่อหนอนพร้อมเข้าดักแด้จะเจาะเปลือกให้เป็นรูเพื่อออกมา และทิ้งตัวลงบนพื้นดินเพื่อเข้าดักแด้ในดิน ซึ่งจะพบแต่รูไม่พบตัวหนอนบางครั้งพบความเสียหายเมื่อเก็บเกี่ยวผลผลิตแล้ว จึงเรียกหนอนชนิดนี้ในอีกชื่อว่า "หนอนรู" เกษตรกรจึงควรหมั่นตรวจหาตัวศัตรูทุเรียนชนิดนี้นำไปทำลาย
กรมส่งเสริมการเกษตร ชี้ระยะนี้ทุเรียนเริ่มติดผล เตือนเกษตรกรระวังหนอนเจาะเมล็ด เพิ่มผลผลิตคุณภาพ

อธิบดีกรมส่งเสริมการเกษตร กล่าวเพิ่มเติมว่า วิธีการป้องกันกำจัดหนอนเจาะเมล็ดทุเรียนคือ ไม่ควรขนย้ายเมล็ดทุเรียนจากแหล่งอื่นเข้ามาปลูก ถ้ามีความจำเป็นควรคัดเลือกเมล็ดอย่างระมัดระวังหรือแช่เมล็ดด้วยสารกำจัดแมลง เช่น มาลาไทออน83% ECอัตรา 40 มิลลิลิตร หรือคาร์บาริล85% WP อัตรา 50 กรัมโดยเลือกสารชนิดใดชนิดหนึ่งผสมน้ำ 20 ลิตร เมื่อทุเรียนเริ่มติดผล ควรห่อผลระยะยาวโดยใช้ถุงพลาสติกสีขาวขุ่นขนาด 40 x 75 เซนติเมตร เพื่อป้องกันไม่ให้ตัวเต็มวัยมาวางไข่ เจาะก้นถุงเพื่อระบายน้ำ และเริ่มห่อตั้งแต่ผลทุเรียนมีอายุ 6 สัปดาห์ไปจนถึงเก็บเกี่ยว สำหรับการป้องกันกำจัดด้วยวิธีผสมผสาน โดยพ่นสารกำจัดแมลง ได้แก่ แลมบ์ดา-ไซฮาโลทริน 2.5% CS อัตรา 20 มิลลิลิตร หรือคาร์บาริล 85% WPอัตรา 50 กรัม โดยเลือกสารชนิดใดชนิดหนึ่งผสมน้ำ 20 ลิตร พ่นห่างกันครั้งละ 1 สัปดาห์ และการใช้กับดักแสงไฟให้ใช้หลอด black light เพื่อล่อตัวเต็มวัยและจับมาทำลาย กรณีพบตัวเต็มวัยเริ่มระบาดให้ใช้สารคาร์บาริล85% WP อัตรา 50 มิลลิลิตร หรือเดลทาเมทริน 3% ECอัตรา 15 มิลลิลิตร หรือแลมบ์ดา-ไซฮาโลทริน 2.5% CS อัตรา 20 มิลลิลิตร หรือเบตา-ไซฟลูทริน 2.5% ECอัตรา 20มิลลิลิตร โดยเลือกสารชนิดใดชนิดหนึ่งผสมน้ำ 20 ลิตร พ่นห่างกันครั้งละ 1 สัปดาห์ ทั้งนี้ เกษตรกรสามารถขอคำแนะนำจากเจ้าหน้าที่ส่งเสริมการเกษตร ณ สำนักงานเกษตรอำเภอหรือสำนักงานเกษตรจังหวัดใกล้บ้าน

ที่มา: กรมส่งเสริมการเกษตร

กรมส่งเสริมการเกษตร ชี้ระยะนี้ทุเรียนเริ่มติดผล เตือนเกษตรกรระวังหนอนเจาะเมล็ด เพิ่มผลผลิตคุณภาพ

ข่าวประชาสัมพันธ์ล่าสุด

๑๗:๒๑ 60 ปีแห่งความมุ่งมั่น! คาโอ คว้ารางวัลอุตสาหกรรมดีเด่น 2 ประเภทในปี 2567 ชูความสำเร็จด้านสิ่งแวดล้อมและความรับผิดชอบต่อสังคม
๑๗:๒๓ AVATR ก้าวสู่ความสำเร็จครั้งยิ่งใหญ่! ระดมทุนในรอบ Series C ได้มากกว่า 11,000 ล้านหยวน พร้อมก้าวสู่ความเป็นผู้นำในตลาดรถยนต์ไฟฟ้าหรูหราแห่งอนาคต
๑๗:๐๖ Zoom เปิด 10 เทรนด์ ใช้ AI ในการทำงานปี 2568
๑๗:๑๐ เปิดมุมมองอาชีพที่หลากหลายในอุตสาหกรรมกาแฟไทย เจาะลึกบทบาทและแนวทางยกระดับสู่การเติบโตอย่างยั่งยืน
๑๗:๑๔ อนาคตแห่งการเดินทาง: 5 คนขับ AI จากแอปเรียกรถ Maxim
๑๗:๕๕ Well-Being House บ้านชั้นเดียวเอาใจคนวัยเกษียณ
๑๗:๑๖ กทม. แจงเปิดกว้างการแข่งขันโครงการเช่าคอมพิวเตอร์พกพาสำหรับนักเรียน
๑๖:๓๗ รายงาน Ericsson Mobility Report ฉบับล่าสุด เผยผู้เริ่มให้บริการ 5G กลุ่มแรกกำลังมุ่งสู่โมเดลธุรกิจที่เน้นประสิทธิภาพ
๑๗:๒๕ เมดีซ กรุ๊ป ร่วมสมทบทุนสนับสนุนมูลนิธิโรงพยาบาลสมเด็จพระยุพราช ช่วยผู้ป่วยในชนบท ถิ่นทุรกันดารที่ห่างไกล
๑๖:๔๔ CNN จับตา นวัตกรรมล่าสุดจากนักวิจัยไทย พลิกโฉมการตรวจคัดกรองความเครียดด้วย เหงื่อ