นายนพพร กีรติบรรหาร Chief Marketing Officer - Marketing and Branding Cement and Green Solution Business - เอสซีจี เปิดเผยว่าจากปัญหาการขาดแคลนแรงงานช่างก่อสร้างที่มีทักษะฝีมือแรงงาน อีกทั้งแนวโน้มอุตสาหกรรมก่อสร้างที่ปรับตัวจากสภาวะเศรษฐกิจและรูปแบบวิถีชีวิตของคนรุ่นใหม่ มุ่งเน้นเรื่อง Time, Cost และ Quality ด้วยศักยภาพและเครือข่ายองค์ความรู้ของสถาบันเทคโนโลยีผนังและพื้น ตราเสือ (Tiger Wall and Floor Technology Center) ที่จะช่วยยกระดับมาตรฐานฝีมือแรงงานช่างก่อสร้างไทย โดยเฉพาะสาขางานก่ออิฐ ฉาบผนังและที่เกี่ยวข้องกับปูนซีเมนต์ รวมถึงการสร้างความร่วมมือกับองค์กรพันธมิตรต่างๆ ร่วมพัฒนาโปรแกรมหลักสูตรการฝึกอบรม สร้างองค์ความรู้ ตลอดจนการนำเอาเทคโนโลยี เครื่องมือสมัยใหม่ให้กับอุตสาหกรรมก่อสร้างของไทย ที่จะช่วยให้ระยะเวลาการก่อสร้างรวดเร็วขึ้นแล้ว ยังช่วยบริหารจัดการงบประมาณการก่อสร้าง และส่งมอบงานที่มีคุณภาพ อันตอบโจทย์กลุ่มผู้ประกอบการรับเหมาก่อสร้าง กลุ่มผู้ประกอบการพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ ตลอดจนผู้รับเหมารายใหญ่ กลาง เล็ก ให้สามารถบริหารจัดการเวลา ต้นทุน งบประมาณ และคุณภาพ ได้มาตรฐานและมีประสิทธิภาพมากขึ้น
สถาบันเทคโนโลยีผนังและพื้น ตราเสือ เป็นสถาบันฝึกอบรมเอกชนแห่งแรกในอาเซียนที่ได้นำองค์ประกอบ 4M : Man (การพัฒนาทักษะฝีมือแรงงานของบุคคล) Machine (การพัฒนาเครื่องมือ อุปรณ์ตลอดจนประยุกต์ใช้เทคโนโลยี) Method (การพัฒนาขั้นตอนการทำงาน) และ Material (การพัฒนาปูนซีเมนต์และต่อยอดวัสดุใหม่ๆ) มาประยุกต์ใช้พัฒนาหลักสูตรและบริการ ทำให้ปัจจุบันมีหลักสูตรรองรับมากกว่า 15 หลักสูตร ครอบคลุมความรู้เกี่ยวกับตัวผลิตภัณฑ์และการใช้งานปูนซีเมนต์ มาตรฐานการทำงานก่ออิฐ-ฉาบปูน มาตรฐานการทำงานเทปรับพื้น มาตรฐานการทำงานปูกระเบื้องขนาดใหญ่ งานตกแต่งเพื่อเพิ่มมูลค่าสำหรับงานฉาบ งานฉาบ Decor and Loft Wall และมาตรฐานงานก่ออิฐ ฉาบปูนโดยทีมผู้เชี่ยวชาญ "สมาร์ทไทเกอร์ทีม" (Smart Tiger Team) พร้อมให้คำปรึกษา อบรม สาธิต และบริการ ณ ไซต์งานก่อสร้าง ทั้งช่องทางออฟไลน์และออนไลน์ และอีก 5 หลักสูตร ที่ได้รับการรับรองจากกรมพัฒนาฝีมือแรงงาน กระทรวงแรงงาน เป็นการทดสอบตามมาตรฐานวิชาชีพในหมวดสาขาอาชีพช่างก่อสร้าง
"ความร่วมมือกับกรมพัฒนาฝีมือแรงงานในครั้งนี้ จะช่วยยกระดับมาตรฐานฝีมือแรงงานช่างก่อสร้าง ยกระดับเป็นช่างชั้นเสือ ด้วยการฝึกอบรม สอบเทียบมาตรฐานฝีมือแรงงานได้รับรองจากสถาบันทั้งภาคทฤษฎีและส่วนปฏิบัติการ และยังเป็นศูนย์เก็บตัว เสริมสร้างทักษะให้กับเยาวชนอาชีวะที่เป็นตัวแทนของประเทศไทย ในหมวดสาขาก่ออิฐ ฉาบผนัง สำหรับการแข่งขันทักษะฝีมือแรงงานระดับโลก (WorldSkills Competition)" นายนพพรกล่าว
นายสมชาติ สุภารี ผู้ตรวจราชการกรมพัฒนาฝีมือแรงงาน กระทรวงแรงงาน กล่าวว่า การพัฒนาศักยภาพกำลังแรงงานให้มีคุณภาพ เพื่อรองรับความต้องการของตลาดแรงงานสมัยใหม่ ถือเป็นภารกิจเร่งด่วนของกรมพัฒนาฝีมือแรงงานในการพัฒนาคนให้เป็นคนดี คนเก่ง มีคุณภาพ พร้อมสำหรับวิถีชีวิตในศตวรรษที่21 เพื่อตอบสนองยุทธศาสตร์ในการพัฒนาประเทศให้ก้าวทันต่อการเปลี่ยนแปลงที่ผ่านมา กรมพัฒนาฝีมือแรงงาน และบริษัท ผลิตภัณฑ์และวัตถุก่อสร้าง จำกัด ได้ร่วมกันจัดตั้งศูนย์ทดสอบมาตรฐานฝีมือแรงงานในสาขาอาชีพรวมทั้งสิ้น 5 สาขา ได้แก่ ช่างฉาบปูน ช่างก่ออิฐ ช่างปูกระเบื้องผนังและพื้น ช่างก่อและติดตั้งคอนกรีตมวลเบา และช่างหินขัด ระดับ 1 รวมทั้งจัดการแข่งขันฝีมือแรงงานสาขาการก่ออิฐ ทั้งระดับภูมิภาค ระดับประเทศ ระดับอาเซียน ระดับเอเชีย และระดับนานาชาติ
สำหรับการลงนามความร่วมมือในครั้งนี้ มีเป้าหมายและกลไกในการบูรณาการภารกิจร่วมกัน โดยทั้งสองหน่วยงานจะร่วมกันพัฒนาบุคลากรฝึกของกรมพัฒนาฝีมือแรงงาน จัดทำหลักสูตรฝึกอบรม จัดฝึก อบรมออนไลน์ หลักสูตรการเพิ่มมูลค่างานฉาบด้วยเทคนิคการฉาบลวดลายผ่านแพลตฟอร์ม DSD Online Training และยังเตรียมจัดฝึกอบรมหลักสูตรการพ่นปูนฉาบด้วยเครื่องมือที่ทันสมัย เป็นหลักสูตรนำร่องใช้เวลาการฝึกรวมทั้งสิ้น 18 ชั่วโมง โดยจะเริ่มฝึกให้กับช่างในพื้นที่จังหวัดสระบุรี จำนวน 10 รุ่น รุ่นละ 20 คน รวมทั้งสิ้น 200 คน เพื่อพัฒนากำลังแรงงานให้มีความรู้ความสามารถและทักษะฝีมือที่สูงขึ้น
ได้มาตรฐานฝีมือแรงงาน สอดคล้องกับความต้องการของตลาดแรงงาน จากนั้นจะขยายการอบรมหลักสูตรนี้ไปฝึกอบรมให้กับช่างก่อสร้างทั่วประเทศต่อไป
"ในนามของกรมพัฒนาฝีมือแรงงาน ต้องขอขอบคุณบริษัท ผลิตภัณฑ์และวัตถุก่อสร้าง จำกัด ที่ให้ความสำคัญกับการพัฒนาทรัพยากรมนุษย์ ซึ่งเป็นรากฐานของการพัฒนาประเทศ และให้การสนับสนุนองค์ความรู้ เพื่อช่วยพัฒนากำลังแรงงานกลุ่มช่างก่อสร้างให้มีทักษะ มีความสามารถมากยิ่งขึ้นมาโดยตลอด และมั่นใจว่า ความร่วมมือกันในการดำเนินการตามกรอบบันทึกข้อตกลงในครั้งนี้ จะส่งผลให้ช่างก่อสร้างได้รับการพัฒนายกระดับมาตรฐานฝีมืองานช่างให้ได้มาตรฐานมากขึ้นและสามารถเทียบชั้นมาตรฐานระดับโลกได้ในที่สุด" นายสมชาติกล่าว
สถาบันเทคโนโลยีผนังและพื้น ตราเสือ เป็นสำนักตักศิลา (ศูนย์บ่มเพาะพัฒนาทักษะฝีมือแรงงานช่างก่อสร้าง) (Incubator Center) และแหล่งรวมองค์ความรู้เทคนิคการก่อสร้าง งานปูนซีเมนต์งานผนังและพื้นอย่างครบวงจรแห่งแรกของอาเซียน ตั้งอยู่ที่อำเภอแก่งคอย จังหวัดสระบุรี ให้บริการฝึกอบรม พร้อมบริการให้คำปรึกษาทั้งช่องทางออฟไลน์ ออนไลน์ และ Virtual Tour รวมถึงมีหน่วยรถโมบายเคลื่อนที่พร้อมทีมผู้เชี่ยวชาญ (Smart Tiger Team) ให้บริการถึงหน้าไซต์งาน ครอบคลุมทุกจังหวัดทั่วประเทศ ผู้ประกอบ การ ผู้รับเหมา ช่างก่อสร้าง ตลอดจนผู้ที่สนใจสามารถติดต่อ แจ้งความสนใจ หรือเข้าอบรมได้ทุกที่ทุกเวลา ผ่าน https://tigerbrandth.com/tiger-tech หรือค้นหาข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับสถาบันฯ และหลักสูตรอบรม ได้ที่ ได้ที่ CPAC Contact Center 02 555 5555
ที่มา: อินทิเกรเต็ด คอมมูนิเคชั่น