นายสุทธิชัย พูนลาภทวี ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท พีซแอนด์ลีฟวิ่ง จำกัด (มหาชน) หรือ PEACE กล่าวว่า ในปี 2566 ที่ผ่านมา บริษัทฯ ได้เปิดโครงการตามที่ได้ตั้งเป้าหมายไว้ ซึ่งเป็นการแสดงให้เห็นว่าการพัฒนาโครงการของ PEACE สามารถตอบโจทย์ได้ตรงตามความต้องการของกลุ่มลูกค้าที่ต้องการหาที่อยู่อาศัยได้อย่างแท้จริง อีกทั้งยังมีความสามารถในการดำเนินธุรกิจท่ามกลางสภาวะตลาดอสังหาริมทรัพย์ที่ไม่แน่นอน สะท้อนให้เห็นถึงแผนธุรกิจระยะยาวของบริษัทฯ ที่มีความชัดเจน และมีการลงทุนอย่างรอบคอบในทุกขั้นตอน
สำหรับผลประกอบการของปี 2566 (ม.ค.- ธ.ค. 2566) บริษัทฯ มีรายได้รวม 1,053 ล้านบาท ปรับตัวลดลงร้อยละ 41 เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันกับปีก่อน และมีกำไรสุทธิ 166 ล้านบาท ลดลงร้อยละ 57 เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันกับปีก่อน โดยสาเหตุหลักเกิดปัจจัยทางด้านเศรษฐกิจที่ขยายตัวต่ำกว่าคาด การปรับขึ้นของอัตราดอกเบี้ย ความเข้มงวดในการปล่อยสินเชื่อของสถาบันการเงิน และจำนวนบ้านคงเหลือขายที่ลดลงจากการที่บริษัทฯ สามารถปิดโครงการได้ถึง 3 โครงการ โดยการเปิดโครงการใหม่นั้นเริ่มเปิดตัวในช่วงครึ่งปีหลัง ส่งผลให้บริษัทฯ เริ่มรับรู้รายได้ในปี 2566 ได้เพียงบางส่วนเท่านั้น อย่างไรก็ดี มองว่าในปี 2567 สถานการณ์เศรษฐกิจจะมีทิศทางปรับตัวที่ดีขึ้น
ทั้งนี้ บริษัทฯ เตรียมเดินหน้าสู่ความสำเร็จที่ยิ่งกว่า เพื่อพัฒนาโครงการที่เป็นที่ต้องการของผู้อยู่อาศัยอย่างต่อเนื่อง เพื่อเป็นการสานต่อความสำเร็จ หลังจากปีที่ผ่านมาบริษัทฯ ได้สร้างผลงานโดดเด่นด้วยการปิดการขายโครงการที่โอนกรรมสิทธิ์ 100% ได้ถึง 3 โครงการ ได้แก่ โครงการ THE GLAMOR เอกมัย - ประดิษฐ์มนูธรรม, โครงการ CHER วัชรพล และโครงการ CHER งามวงศ์วาน - ประชาชื่น โดยเตรียมเดินหน้าเปิดตัวโครงการใหม่ จำนวน 5 โครงการ มูลค่ารวมกว่า 2,600 ล้านบาท ได้แก่ โครงการ CHER เวสต์วิลล์ ราชพฤกษ์, CHER พหลโยธิน - สายไหม, CHER วิภาวดีรังสิต, CORDIZ พัฒนาการ - อ่อนนุช และ CHER ปิ่นเกล้า - วงแหวน เพื่อตอบโจทย์ความต้องการของลูกค้าใน Segment ที่ครอบคลุมมากยิ่งขึ้น
โดยโครงการแรกที่เตรียมเปิดในช่วงกลางปีนี้ ได้แก่ โครงการ CHER เวสต์วิลล์ ราชพฤกษ์ ซึ่งเป็นโครงการทาวน์โฮม 2 - 3 ชั้น ใจกลางย่านราชพฤกษ์ จำนวน 203 ยูนิต บนพื้นที่ 17-3-26.2 ไร่ มูลค่าโครงการ 750 ล้านบาท เป็นทาวน์โฮมโครงสร้างอิฐมอญแดง ที่มาพร้อมการออกแบบภายใต้คอนเซ็ปต์ Modern Tropical และมีการออกแบบ Space ให้เป็นแบบ Semi - Outdoor เพื่อสร้าง Space ที่เชื่อมต่อสถาปัตยกรรมภายในและธรรมชาติภายนอกให้เป็นหนึ่งเดียว มีเส้นสายการออกแบบที่เรียบง่าย ทันสมัย ประกอบกับพื้นที่ส่วนกลางมีสิ่งอำนวยความสะดวกครบครัน อาทิ สวน, Enjoyment Clubhouse, สระว่ายน้ำ, Greenery Fitness, Co-working space, Semi - outdoor และ Alpha joy playground ทั้งยังสามารถเดินทางเชื่อมต่อสู่โซนธุรกิจ หรือใจกลางเมืองได้อย่างสะดวกสบาย ด้วย 3 ถนนหลัก ไม่ว่าจะเป็น ถนนราชพฤกษ์, ถนนบรมราชชนนี และถนนนครอินทร์ ใกล้จุดขึ้นลงทางด่วนศรีรัช และรายล้อมไปด้วยแหล่งรวมไลฟ์สไตล์มากมาย เช่น Central WESTVILLE, The Crystal SB ราชพฤกษ์, HomePro, Villa Market, The Walk, The Circle, Central Westgate และ Central Pinklao เดินทางเพียงประมาณ 5 - 10 นาทีเท่านั้น
นอกจากนี้ บริษัทฯ ยังได้วางงบประมาณการซื้อที่ดินเพื่อสร้างการเติบโตไว้กว่า 1,000 ล้านบาท สำหรับจัดซื้อที่ดินในหลากหลายทำเล เพื่อนำมาพัฒนาโครงการใหม่ ๆ และเพื่อขยายธุรกิจให้เติบโตอย่างมั่นคงและยั่งยืนในอนาคต
ปัจจุบันบริษัทฯ มีโครงการที่อยู่ระหว่างการก่อสร้างและการขายรวม 11 โครงการ ซึ่งมีสินค้าพร้อมขายรวมมูลค่ากว่า 5,300 ล้านบาท โดยเป็นที่อยู่อาศัยประเภททาวน์โฮม บ้านแฝด และบ้านเดี่ยว พร้อมตั้งเป้ายอดขายไว้ 1,300 - 1,500 ล้านบาท ซึ่งมั่นใจว่าจะสามารถสร้างการเติบโตให้กับธุรกิจอย่างต่อเนื่องในปีนี้และปีหน้าได้อย่างแน่นอน" นายสุทธิชัย กล่าวในตอนท้าย
ที่มา: Extravaganza PR