บลจ.อเบอร์ดีน มองหุ้นไทยสิ้นปี 1,560 จุด ชูหุ้นเล็ก-กลางยังเด่น แนะกองตราสารหนี้ หลบความผันผวนเศรษฐกิจโลก

ศุกร์ ๒๓ กุมภาพันธ์ ๒๐๒๔ ๑๑:๒๖
บลจ.อเบอร์ดีน ส่องตลาดหุ้นไทย คาดดัชนีสิ้นปีนี้ 1,406 - 1,560 จุด แนะหุ้นเล็ก-กลาง คุณภาพดี เติบโตก้าวกระโดด น่าสนใจกว่าหุ้นใหญ่ พร้อมกระจายลงกองตราสารหนี้ รับความเสี่ยงของดอกเบี้ยและความผันผวนของเศรษฐกิจโลก
บลจ.อเบอร์ดีน มองหุ้นไทยสิ้นปี 1,560 จุด ชูหุ้นเล็ก-กลางยังเด่น แนะกองตราสารหนี้ หลบความผันผวนเศรษฐกิจโลก

นางสาวดรุณรัตน์ ภิยโยดิลกชัย Head of Equities บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน (บลจ.) อเบอร์ดีน (ประเทศไทย) เปิดเผยว่า กลุ่ม abrdn (อเบอร์ดีน) ยังมีมุมมองในเชิงบวกต่อการลงทุนในตลาดหุ้นไทย และคาดว่าปีนี้ดัชนีน่าจะอยู่ในกรอบ 1,406-1,560 จุด ทั้งนี้เชื่อมั่นว่าเศรษฐกิจไทย น่าจะเติบโตไม่ต่ำกว่า 3% ซึ่งน่าจะเติบโตและดีกว่าปีก่อน ขณะที่ส่วนของกำไรต่อหุ้นของบริษัทจดทะเบียน (EPS) อยู่ที่ 5% ซึ่งเติบโตจากปีก่อนที่ -8% โดยมองว่าหุ้นขนาดกลางและเล็ก จะยังเป็นกลุ่มที่น่าสนใจ โดยเฉพาะกลุ่มที่น่าจะมีโอกาสเติบโตและขับเคลื่อนเศรษฐกิจ เช่นกลุ่มท่องเที่ยว และกลุ่มเฮลธ์แคร์ ซึ่งจะได้รับประโยชน์จากนโยบายการกระตุ้นภาคการท่องเที่ยว ที่ตั้งเป้าจำนวนนักท่องเที่ยวต่างชาติประมาณ 33-35 ล้านคนในปีนี้

อเบอร์ดีนให้ความสำคัญกับการคัดเลือกหุ้นขนาดกลางและเล็กที่มีคุณภาพและศักยภาพในการเติบโตสูง และราคายังอยู่ในระดับต่ำ โดยแนะนำ กองทุนเปิด อเบอร์ดีน สมอล-มิดแค็พ (ABSM) ซึ่งมีความเสี่ยงระดับ 6 เน้นลงทุนในหุ้นที่จดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทยที่มีมูลค่าหลักทรัพย์ตามราคาตลาดไม่เกิน 80,000 ล้านบาท ณ วันทำการก่อนหน้าวันที่ลงทุน และมีนโยบายการลงทุนใน 4 ธีมหลัก ได้แก่ กลุ่มท่องเที่ยว กลุ่มการแพทย์และความงาม กลุ่มอาหารและเครื่องดื่ม รวมถึงกลุ่มที่ได้ประโยชน์จากแนวโน้มการย้ายฐานการผลิตมายังประเทศไทย โดยจะได้ประโยชน์จากการลงทุนโดยตรงจากต่างประเทศ (FDI) ซึ่งในพอร์ตจะมีหุ้น 20-30 ตัว ซึ่ง 5 หุ้นที่กองทุนถือสูงสุดในพอร์ต ได้แก่ SISB , MEGA, WHA ,HUMAN และ PR9 รวมทั้งยังลงทุนหุ้น CENTEL, MOSHI เป็นต้น (ที่มา: abrdn, ณ 31 มกราคม 2567) โดยมีให้เลือกทั้ง ชนิดสะสมมูลค่า (ABSM) ชนิดเพื่อการออม (ABSM-SSF) และชนิดเพื่อการเลี้ยงชีพ (ABSM-RMF)

ด้านนายพงค์ธาริน ทรัพยานนท์ Head of Fixed income and Asset Allocation กล่าวว่า อเบอร์ดีนยังมองว่าภาพรวมเศรษฐกิจโลกในช่วงครึ่งปีแรก น่าจะยังต้องเผชิญกับความผันผวนของเงินเฟ้อ ซึ่งจะส่งผลต่อภาวะการลงทุนให้มีความผันผวนตามไปด้วย คาดการณ์ว่าเศรษฐกิจโลกปีนี้จะชะลอตัวแต่ไม่รุนแรง โดยมองว่าเงินเฟ้อจะอยู่ในช่วงขาลง แม้ระหว่างทางอาจมีความผันผวนจากปัจจัยความตึงเครียดด้านภูมิรัฐศาสตร์ (Geopolitical risks) ขณะที่เศรษฐกิจสหรัฐฯ มีโอกาสเข้าสู่ภาวะชะลอตัวแบบ Soft Landing โดยคาดการณ์ว่าสหรัฐฯ ได้สิ้นสุดวัฏจักรดอกเบี้ยขาขึ้นแล้ว และจะเริ่มเห็นธนาคารกลางสหรัฐฯ ปรับลดอัตราดอกเบี้ยนโยบายลงในช่วงปลายไตรมาส 2 ปีนี้ โดยคาดการณ์ว่าธนาคารกลางสหรัฐฯ จะปรับลดอัตราดอกเบี้ยมากกว่าที่ตลาดคาด โดยประเมินกรอบดอกเบี้ยปี 2567 จะลดลงมาอยู่ที่ 3.25-3.5% และอัตราดอกเบี้ยจะทยอยปรับลดลงจนจบวัฏจักรดอกเบี้ยขาลงที่อัตราดอกเบี้ยประมาณ 2.00-2.25% ภายในปี 2568

ขณะที่ยุโรปได้เข้าสู่ภาวะเศรษฐกิจชะลอตัวตั้งแต่ไตรมาสสุดท้ายของปี 2566 โดยคาดการณ์ว่าเศรษฐกิจยุโรปในปี 2567 จะเติบโตเท่ากับปีก่อนหน้า และคาดการณ์ว่าเศรษฐกิจประเทศตลาดเกิดใหม่จะยังคงขยายตัวเพิ่มขึ้นแต่เพิ่มขึ้นน้อยกว่าปีก่อนหน้า ทั้งนี้ คาดการณ์ว่าแนวโน้มอัตราดอกเบี้ยประเทศตลาดเกิดใหม่จะเข้าสู่วัฏจักรดอกเบี้ยขาลงในช่วงครึ่งปีหลังของปีนี้เช่นเดียวกับประเทศตลาดพัฒนาแล้ว

อเบอร์ดีนแนะนำลงทุนในตราสารหนี้ Investment Grade เนื่องจากน่าจะได้รับผลกระทบไม่มาก หากเศรษฐกิจสหรัฐอเมริกาเกิดภาวะถดถอยแรงกว่าที่คาดการณ์ไว้ โดยปัจจุบัน ผลตอบแทนของ Investment Grade อยู่ในระดับ 6-7% ต่อปี ขณะที่ตราสารหนี้ในประเทศตลาดเกิดใหม่ (Emerging Market) มีความน่าสนใจ และแนวโน้มอัตราดอกเบี้ยอยู่ในทิศทางขาลง โดยเฉพาะในช่วงครึ่งปีหลัง ซึ่งไทยเป็นเป็นหนึ่งในประเทศที่คาดว่าจะมีการลดดอกเบี้ยลง 1 ครั้งในครี่งปีหลัง ทำให้การลงทุนในตราสารหนี้น่าสนใจ

อเบอร์ดีน แนะกองทุนตราสารหนี้และกองทุนหุ้นต่างประเทศ เพื่อกระจายความเสี่ยงรับตลาดผันผวน ได้แก่

  1. กองทุนเปิด อเบอร์ดีน โกลบอล เอนแฮนซ์ ฟิกซ์ อินคัม ฟันด์ - ชนิดสะสมมูลค่า (ABGFIX-A) กองทุนนี้มีความเสี่ยงระดับ 4 โดยลงทุนผ่านกองทุนหลักต่างประเทศ abrdn SICAV I - Short Dated Enhanced Income Fund, Class Z Acc USD โดยพอร์ตการลงทุนของกองทุนหลักเน้นลงทุนในตราสารหนี้คุณภาพสูงทั่วโลก เพื่อเพิ่มโอกาสสร้างผลตอบแทนบนความผันผวนที่ต่ำกว่า โดยกองทุนหลักมี Yield to Maturity ในระดับ 6.00% และมีอายุเฉลี่ยของตราสารหนี้ 1.30 ปี (ที่มา: abrdn, ณ มกราคม 2567)
  2. กองทุนเปิด อเบอร์ดีน โกลบอล ไดนามิค ดีวิเด็น ฟันด์ (ABGDD) ความเสี่ยงกองทุนระดับ 6 เพิ่มโอกาสรับผลตอบแทนอย่างสม่ำเสมอพร้อมการเติบโตของเงินลงทุน เน้นลงทุนในหุ้นเด่นทั่วโลก ผสมผสานลงตัวระหว่างหุ้นเติบโต และหุ้นคุณค่าผ่านกองทุนหลักต่างประเทศ abrdn SICAV I - Global Dynamic Dividend Fund Z Gross MInc USD โดยมีให้เลือกทั้งชนิดสะสมมูลค่า (ABGDD-A) ชนิดเพื่อการออม (ABGDD-SSF) ชนิดรับซื้อคืนอัตโนมัติ (ABGDD-R) และชนิดเพื่อการเลี้ยงชีพ (ABGDD-RMF)
  3. กองทุนเปิด อเบอร์ดีน อเมริกัน โกรท - สมอลเลอร์ คอมพานี ฟันด์ (ABAGS) ความเสี่ยงกองทุนระดับ 6 โดยกองทุนหลัก abrdn SICAV I - North American Smaller Companies Fund Z Acc USD เฟ้นหาหุ้นเล็กอนาคตไกลในสหรัฐฯ ที่มีศักยภาพเติบโตแบบก้าวกระโดด เน้นลงทุนในหุ้นประเทศสหรัฐอเมริกา หรือแคนาดา มีให้เลือกทั้งชนิดสะสมมูลค่า (ABAGS) และชนิดเพื่อการออม (ABAGS-SSF)

ติดต่ออเบอร์ดีนเพื่อสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมหรือรับหนังสือชี้ชวน โทร 02-352-3388

ที่มา: ธามดี พลัส

ข่าวประชาสัมพันธ์ล่าสุด

๓๑ ม.ค. รู้จักโรคอ้วนดีแล้ว.จริงหรือ?
๓๑ ม.ค. บมจ.ไทยเซ็นทรัลเคมี ร่วมกับ MBK ส่งมอบปฏิทินในกิจกรรม ปฏิทินเก่ามีค่า เราขอ
๓๑ ม.ค. BSRC ออกหุ้นกู้รอบใหม่ 8,000 ล้านบาท ยอดจองเกินเป้า ตอกย้ำความเชื่อมั่นของผู้ลงทุน
๓๑ ม.ค. คปภ. ร่วมสัมมนาประกันภัย ครั้งที่ 29 เตรียมรับมือความเสี่ยงอุบัติใหม่ พลิกโฉมธุรกิจประกันภัยสู่ความท้าทายในอนาคต
๓๑ ม.ค. มอบของขวัญให้กับครอบครัวของคุณช่วงวันหยุดพิเศษที่ สเตย์บริดจ์ สวีท แบงค็อก สุขุมวิท
๓๑ ม.ค. OR เปิดตัว CEO คนใหม่ หม่อมหลวงปีกทอง ทองใหญ่ มุ่งผลักดันไทยสู่ Oil Hub แห่งภูมิภาค พร้อมขับเคลื่อนองค์กรด้วยดิจิทัล-นวัตกรรม
๓๑ ม.ค. เดลต้า ประเทศไทย คว้ารางวัล ASEAN's Top Corporate Brand ประจำปี 2567
๓๑ ม.ค. โรงแรมอลอฟท์ กรุงเทพ สุขุมวิท 11 พลิกโฉมใหม่ สุดโมเดิร์น! พร้อมเปิดตัว w xyz bar ตอกย้ำความสนุกในแบบฉบับ
๓๑ ม.ค. PAUL JOE เปิดตัว GLOSSY ROUGE ต้อนรับฤดูใบไม้ผลิ 2025
๓๑ ม.ค. บริษัท โกซอฟท์ (ประเทศไทย) ได้รับเกียรติบัตรศูนย์ รับเรื่องและแก้ไขปัญหาให้กับผู้บริโภคระดับดีเด่น จาก สคบ. และการรับรองมาตรฐาน ISO