EXIM BANK ลงนาม MOU กับองค์การสภาพัฒนาการค้าฮ่องกง สนับสนุนการค้าและการลงทุนไทย-ฮ่องกง

ศุกร์ ๒๓ กุมภาพันธ์ ๒๐๒๔ ๑๓:๐๓
นายจุลพันธ์ อมรวิวัฒน์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการคลัง ดร.ปีเตอร์ เคเอ็น แลม ประธานองค์การสภาพัฒนาการค้าฮ่องกง (HKTDC) และนางสาวมากาเร็ต ฟง กรรมการบริหาร HKTDC ร่วมเป็นสักขีพยานกิตติมศักดิ์ในพิธีลงนามบันทึกข้อตกลงความร่วมมือเพื่อพัฒนาผู้ประกอบการต่อเนื่องเป็นฉบับที่ 3 ระหว่าง ดร.รักษ์ วรกิจโภคาทร กรรมการผู้จัดการ ธนาคารเพื่อการส่งออกและนำเข้าแห่งประเทศไทย (EXIM BANK) กับนางสาวโซเฟีย ชอง รองกรรมการบริหาร HKTDC ณ HKTDC สำนักงานใหญ่ เขตบริหารพิเศษฮ่องกงแห่งสาธารณรัฐประชาชนจีน เมื่อวันที่ 22 กุมภาพันธ์ 2567
EXIM BANK ลงนาม MOU กับองค์การสภาพัฒนาการค้าฮ่องกง สนับสนุนการค้าและการลงทุนไทย-ฮ่องกง

บันทึกข้อตกลงดังกล่าวมีวัตถุประสงค์เพื่อเสริมสร้างความร่วมมือระหว่าง EXIM BANK และ HKTDC ในการยกระดับการสนับสนุนผู้ประกอบการไทยและฮ่องกงให้มีความสามารถในการแข่งขันในระบบเศรษฐกิจ การค้าและการลงทุนระหว่างประเทศ รวมถึงความร่วมมือด้านอื่น ๆ ที่เกี่ยวข้อง อาทิ การบูรณาการความร่วมมือกับหน่วยงานภาครัฐและภาคเอกชนเพื่อสนับสนุนภารกิจของ EXIM BANK และ HKTDC ในการส่งเสริมการค้าและการลงทุนระหว่างไทยกับฮ่องกง การจับคู่ธุรกิจ การให้สิทธิประโยชน์เพื่อส่งเสริมให้ผู้ประกอบการไทยจำหน่ายสินค้าผ่านช่องทางออนไลน์ รวมถึงการแลกเปลี่ยนข้อมูลผู้ประกอบการที่อาจมีโอกาสเป็นลูกค้าของ EXIM BANK และ HKTDC เพื่อสนับสนุนการเข้าถึงบริการทางการเงินและการรับประกันความเสี่ยงทางการค้าและการลงทุนให้แก่ผู้ประกอบการไทยกับฮ่องกง

ปัจจุบันไทยและฮ่องกงมีความตกลงการค้าเสรีภายใต้เขตการค้าเสรีอาเซียน-ฮ่องกง (AHKFTA) ซึ่งมีผลบังคับใช้เมื่อเดือนกุมภาพันธ์ 2564 โดยฮ่องกงยกเว้นภาษีนำเข้าสินค้าจากอาเซียนทุกรายการและผูกพันไม่ขึ้นภาษีสินค้าทุกรายการภายใต้ AHKFTA ในอนาคต ขณะเดียวกัน ฮ่องกงเป็นคู่ค้าสำคัญอันดับที่ 13 ของไทยในปี 2566 โดยมีมูลค่าการค้าระหว่างกัน 1.37 หมื่นล้านดอลลาร์สหรัฐ คิดเป็นสัดส่วน 2.4% ของมูลค่าการค้ารวมของไทย สินค้าส่งออกสำคัญของไทยไปฮ่องกง ได้แก่ อัญมณีและเครื่องประดับ แผงวงจรไฟฟ้า เครื่องคอมพิวเตอร์ โทรศัพท์ และเครื่องยนต์สันดาปภายใน สินค้านำเข้าของไทยจากฮ่องกง ได้แก่ อัญมณี เครื่องประดับ เครื่องจักรไฟฟ้า เครื่องจักรกล และสินแร่โลหะ นอกจากนี้ ฮ่องกงยังเป็นแหล่งรองรับการลงทุนโดยตรงในต่างประเทศ (Thai Direct Investment : TDI) สำคัญของไทย โดยถือเป็นแหล่งลงทุนอันดับ 1 ของไทยในแง่มูลค่าเงินลงทุนโดยตรงสะสมที่ 2.65 หมื่นล้านดอลลาร์สหรัฐ ณ ไตรมาส 3 ปี 2566 โดย TDI Outflow ของไทยไปฮ่องกงอยู่ที่ 2.6 พันล้านดอลลาร์สหรัฐในปี 2565 มากเป็นอันดับ 5 รองจากสิงคโปร์ สหรัฐฯ ญี่ปุ่น และมอริเชียส โดยธุรกิจที่นักลงทุนไทยเข้าไปลงทุนในฮ่องกง อาทิ การเงินการธนาคาร ประกันภัย ค้าปลีกค้าส่ง อาหารและเครื่องดื่ม ขณะที่ธุรกิจที่นักลงทุนฮ่องกงเข้ามาลงทุนในไทย ได้แก่ โลจิสติกส์ อุตสาหกรรมอิเล็กทรอนิกส์ และอุตสาหกรรมดิจิทัล

ที่มา: ธนาคารเพื่อการส่งออกและนำเข้าแห่งประเทศไทย

ข่าวประชาสัมพันธ์ล่าสุด

๒๕ เม.ย. Electronic Nose นวัตกรรมตรวจวัดกลิ่น! เพื่อสิ่งแวดล้อมที่ดี กรมอนามัย ร่วม MOU กรมควบคุมมลพิษ และ 4 หน่วยงานรัฐ - เอกชน
๒๕ เม.ย. ITEL ประชุมผู้ถือหุ้นประจำปี 68 ไฟเขียวอนุมัติแจกวอร์แรนต์ฟรี ลุยขยายธุรกิจ
๒๕ เม.ย. สวทช. โดย นาโนเทค เฟ้นหา 8 ผู้ประกอบการ ต่อยอดนวัตกรรมสมุนไพรสู่ผลิตภัณฑ์มูลค่าสูง
๒๕ เม.ย. คาเฟ่ แคนทารี ชวนมาลิ้มลองเมนูพิเศษประจำเดือนพฤษภาคม - มิถุนายน 2568 อร่อยครบเครื่องทั้งรีซอตโตต้มยำ เครป
๒๕ เม.ย. ซีพี ออลล์ x มูลนิธิชาวปักษ์ใต้ ร่วมสนับสนุนทุนการศึกษาเพื่ออาชีพแก่เยาวชนในจังหวัดภาคใต้
๒๕ เม.ย. ซีพีแรม ดีเดย์ เปิดเวที FINNOVA 2025 : ยกระดับความรู้สู่นวัตกรรมอาหาร ปักหมุดไทยศูนย์กลางนวัตกรรมอาหารโลก
๒๕ เม.ย. ดีไซน์เพื่อชีวิตที่ไม่หยุดนิ่ง: อาดิดาส ออริจินอลส์ เผยโฉม ADIZERO ARUKU พร้อมพื้นรองเท้าแบบโปรเกรสซีฟ
๒๕ เม.ย. พรีโม จับมือ Q-CHANG จัดทัพทีมช่างกว่า 2,000 ทีม! ยกระดับบริการซ่อมห้องชุด ตอกย้ำแนวคิด Primo Happy Maker
๒๕ เม.ย. ครั้งแรก กับ Dance (แดนซ์) Glossy Body Hair Perfume Mist น้ำหอม 2-in-1 พร้อมเปิดตัวพรีเซ็นเตอร์คนใหม่ เก๋ไก๋ บุกใจกลางกรุง ชวนสาวๆ
๒๕ เม.ย. SCB CIO ชี้ 3 ปัจจัยกระทบตลาดการเงินฉุดสินทรัพย์ทั่วโลกผันผวน แนะระวังการลงทุนในสินทรัพย์เสี่ยง เพิ่มน้ำหนักหุ้นกู้ระยะสั้นคุณภาพดี และ