"คุรุสภา" เปิดแผนพฤติกรรมครูที่ควรและไม่ควรปฎิบัติต่อเด็ก

อังคาร ๒๗ กุมภาพันธ์ ๒๕๖๗ ๐๗:๔๓
ผศ.ดร.อมลวรรณ วีระธรรมโม เลขาธิการคุรุสภา กล่าวว่า วิชาชีพครู เป็นวิชาชีพที่มีความใกล้ชิด ละเอียดอ่อนและมีอิทธิพลต่อคุณภาพการศึกษาที่ส่งต่อถึงคุณภาพของผู้เรียน โดยผู้ประกอบวิชาชีพครู เป็นบุคคลที่สถานศึกษา ผู้ปกครองและสังคมล้วนแต่คาดหวังว่าจะต้องเป็นผู้ที่มีความรู้ ความสามารถ มีคุณธรรมจริยธรรม และมีจรรยาบรรณของวิชาชีพครู จึงให้ความไว้วางใจที่จะฝากบุตรหลานของตนเองให้อยู่ในความดูแลของครู และให้สิทธิครูในการอบรมสั่งสอน ให้ความรู้และเสริมสร้างทักษะความสามารถของผู้เรียนในแต่ละระดับและตามแต่ละช่วงวัย รวมถึงการปรับพฤติกรรมของผู้เรียนให้เป็นคนดี สามารถดำรงชีวิตอยู่ร่วมกับผู้อื่นได้อย่างปกติสุข และสร้างสรรค์สิ่งดี ๆ ให้แก่สังคมต่อไป หากผู้ประกอบวิชาชีพครูไม่เข้าใจหรือไม่ตระหนักรู้ในบทบาทหน้าที่ดังกล่าว อาจใช้วิธีการจัดการเรียนรู้หรือปรับพฤติกรรมของผู้เรียนในทางที่ไม่เหมาะสมและเกิดผลร้ายต่อผู้เรียน ซึ่งขัดต่อจรรยาบรรณของวิชาชีพครู อันจะนำไปสู่การถูกดำเนินการพิจารณาการประพฤติผิดจรรยาบรรณของวิชาชีพครูได้
 คุรุสภา เปิดแผนพฤติกรรมครูที่ควรและไม่ควรปฎิบัติต่อเด็ก

ผศ.ดร.อมลวรรณ กล่าวต่อไปว่า คุรุสภาในฐานะสภาวิชาชีพครูและบุคลากรทางการศึกษาได้กำหนดแบบแผนพฤติกรรมตามจรรยาบรรณของวิชาชีพครู ตามข้อบังคับคุรุสภา ว่าด้วยจรรยาบรรณของวิชาชีพ พ.ศ.2556 และข้อบังคับคุรุสภาว่าด้วยแบบแผนพฤติกรรมตามจรรยาบรรณของวิชาชีพ พ.ศ. 2550 ซึ่งเกี่ยวข้องกับแบบแผนพฤติกรรมที่ผู้ประกอบวิชาชีพครูที่ควรปฏิบัติและไม่ควรปฏิบัติต่อศิษย์หรือผู้รับบริการ โดยแบบแผนพฤติกรรมตามจรรยาบรรณของผู้ประกอบวิชาชีพครูที่มีต่อผู้รับบริการมีดังนี้ ครูต้องรัก เมตตา เอาใจใส่ ช่วยเหลือ ส่งเสริมให้กำลังใจแก่ศิษย์ และผู้รับบริการตามบทบาทหน้าที่โดยเสมอภาค,ครูต้องส่งเสริมให้เกิดการเรียนรู้ ทักษะ และนิสัยที่ถูกต้องดีงามแก่ศิษย์และผู้รับบริการตามบทบาทหน้าที่อย่างเต็มความสามารถด้วยความบริสุทธิ์ใจ ,ครูต้องประพฤติปฏิบัติตนเป็นแบบอย่างที่ดี ทั้งทางกาย วาจา และจิตใจ ,ครูต้องไม่กระทำตนเป็นปฏิปักษ์ต่อความเจริญทางกาย สติปัญญา จิตใจ อารมณ์และสังคมของศิษย์และผู้รับบริการ และครูต้องให้บริการด้วยความจริงใจและเสมอภาค โดยไม่เรียกรับหรือยอมรับผลประโยชน์จากการใช้ตำแหน่งหน้าที่โดยมิชอบ

เลขาธิการคุรุสภา กล่าวอีกว่า ส่วนแบบแผนพฤติกรรมที่พึงประสงค์ ได้แก่ 1.ให้คำปรึกษาหรือช่วยเหลือศิษย์และผู้รับบริการด้วยความเมตตากรุณาอย่างเต็มกำลังความสามารถและเสมอภาค 2.สนับสนุนการดำเนินงานเพื่อปกป้องสิทธิเด็ก เยาวชน และผู้ด้อยโอกาส 3.ตั้งใจ เสียสละ และอุทิศตนในการปฏิบัติหน้าที่ เพื่อให้ศิษย์และผู้รับบริการได้รับการพัฒนาตามความสามารถ ความถนัด และความสนใจของแต่ละบุคคล 4.ส่งเสริมให้ศิษย์และผู้รับบริการสามารถแสวงหาความรู้ได้ด้วยตนเองจากสื่อ อุปกรณ์ และแหล่งเรียนรู้อย่างหลากหลาย 5.ให้ศิษย์และผู้รับบริการ มีส่วนร่วมวางแผนการเรียนรู้ และเลือกวิธีการปฏิบัติที่เหมาะสมกับตนเองและ6.เสริมสร้างความภาคภูมิใจให้แก่ศิษย์และผู้รับบริการด้วยการรับฟังความคิดเห็น ยกย่อง ชมเชย และให้กำลังใจอย่างกัลยาณมิตร ส่วนแบบแผนพฤติกรรมที่ไม่พึงประสงค์ และงดเว้นปฏิบัติเด็ดขาดได้แก่ 1.ลงโทษอย่างไม่เหมาะสมด้วยการใช้ความรุนแรงในรูปแบบต่าง ๆ อาทิ การทำร้ายร่างกาย การใช้คำพูดที่รุนแรงหรือไม่สุภาพ เป็นต้น 2.ไม่ใส่ใจ หรือไม่รับรู้ปัญหาของศิษย์หรือผู้รับบริการ จนเกิดผลเสียหายต่อศิษย์หรือผู้รับบริการ 3. ดูหมิ่น เหยียดหยามศิษย์หรือผู้รับบริการ เช่น การทำให้ศิษย์อับอาย หรือเกิดปมด้อย 4.เปิดเผยความลับของศิษย์หรือผู้รับบริการ เป็นผลให้ได้รับความอับอาย หรือเสื่อมเสียชื่อเสียง 5. จูงใจโน้มน้าว ยุโยงส่งเสริมให้ศิษย์หรือผู้รับบริการปฏิบัติขัดต่อศีลธรรมหรือกฎระเบียบ เช่น กรณีเกี่ยวข้องกับการค้าประเวณีเด็ก เป็นต้น 6.ชักชวน ใช้ จ้างวาน ศิษย์หรือผู้รับบริการให้จัดซื้อ จัดหาสิ่งเสพติด หรือเข้าไปเกี่ยวข้องกับอบายมุข และ7.เรียกร้องผลตอบแทนจากศิษย์หรือผู้รับบริการในงานตามหรือที่ที่ต้องให้บริการ เช่น กรณีการเรียกรับเงิน หรือสิ่งตอบแทนอื่นจากศิษย์เพื่อแลกเกรด เป็นต้น

"คุรุสภา ขอเชิญชวนผู้ประกอบวิชาชีพครู นักศึกษาวิชาชีพครูและอาจารย์ในสถาบันผลิตครูทุกคนได้ให้ความสำคัญและเคร่งครัดกับการปฏิบัติตนต่อลูกศิษย์ และฝากให้ทุกคนได้ปฏิบัติงานอย่างมีสติ ทบทวนและตรวจสอบตนเองว่าเคยมีพฤติกรรมที่ไม่พึงประสงค์ต่อผู้รับบริการหรือไม่ หากเคยก็จะต้องปรับปรุงวิธีการและแนวปฏิบัติของตนเองให้เป็นไปตามแบบแผนพฤติกรรมที่พึงประสงค์ และไม่ปฏิบัติพฤติกรรมที่ไม่พึงประสงค์อีกต่อไป ส่วนกรณีการลงโทษนักเรียนไม่เหมาะสม ขัดต่อระเบียบกระทรวงศึกษาธิการ และเป็นปฏิปักษ์ต่อความเจริญทางกาย สติปัญญา จิตใจ อารมณ์ และสังคมของศิษย์นั้น เป็นเรื่องละเอียดอ่อน และส่งผลกระทบโดยตรงกับผู้เรียน ขอให้ผู้ประกอบวิชาชีพทางการศึกษาทุกคนได้ตระหนักและให้ความสำคัญในเรื่องดังกล่าวด้วย อย่างไรก็ตามคุรุสภาได้ตั้งวอร์รูม เพื่อติดตามข่าวของครูและบุคลากรทางการศึกษาทุกวัน โดยจัดทำเผยแพร่ในรูปแบบเอกสารอิเล็กทรอนิกส์ เพื่อสร้างความตระหนักรู้ในเรื่องดังกล่าว ซึ่งทั้งข่าวดี และข่าวไม่ดี ถ้าพบครูดี บุคลากรทางการศึกษาดี โดดเด่น ก็จะดำเนินการยกย่องเชิดชูเกียรติ เพื่อเป็นแบบอย่างที่ดีให้แก่ผู้ร่วมประกอบวิชาชีพ หากพบผู้ใดกระทำผิดจรรยาบรรณของวิชาชีพ ก็จะดำเนินการพิจารณาโทษทางจรรยาบรรณอย่างเร่งด่วน เพื่อพิทักษ์ผลประโยชน์ของเด็ก เยาวชน และประชาชน รวมถึงพิทักษ์เกียรติศักดิ์ศรีของวิชาชีพให้สมกับความเป็นวิชาชีพชั้นสูงด้วย " ผศ.ดร.อมลวรรณ กล่าว

ที่มา: เอยู คอมมิวนิเคชั่น

ข่าวประชาสัมพันธ์ล่าสุด

๑๗:๒๑ 60 ปีแห่งความมุ่งมั่น! คาโอ คว้ารางวัลอุตสาหกรรมดีเด่น 2 ประเภทในปี 2567 ชูความสำเร็จด้านสิ่งแวดล้อมและความรับผิดชอบต่อสังคม
๑๗:๒๓ AVATR ก้าวสู่ความสำเร็จครั้งยิ่งใหญ่! ระดมทุนในรอบ Series C ได้มากกว่า 11,000 ล้านหยวน พร้อมก้าวสู่ความเป็นผู้นำในตลาดรถยนต์ไฟฟ้าหรูหราแห่งอนาคต
๑๗:๐๖ Zoom เปิด 10 เทรนด์ ใช้ AI ในการทำงานปี 2568
๑๗:๑๐ เปิดมุมมองอาชีพที่หลากหลายในอุตสาหกรรมกาแฟไทย เจาะลึกบทบาทและแนวทางยกระดับสู่การเติบโตอย่างยั่งยืน
๑๗:๑๔ อนาคตแห่งการเดินทาง: 5 คนขับ AI จากแอปเรียกรถ Maxim
๑๗:๕๕ Well-Being House บ้านชั้นเดียวเอาใจคนวัยเกษียณ
๑๗:๑๖ กทม. แจงเปิดกว้างการแข่งขันโครงการเช่าคอมพิวเตอร์พกพาสำหรับนักเรียน
๑๖:๓๗ รายงาน Ericsson Mobility Report ฉบับล่าสุด เผยผู้เริ่มให้บริการ 5G กลุ่มแรกกำลังมุ่งสู่โมเดลธุรกิจที่เน้นประสิทธิภาพ
๑๗:๒๕ เมดีซ กรุ๊ป ร่วมสมทบทุนสนับสนุนมูลนิธิโรงพยาบาลสมเด็จพระยุพราช ช่วยผู้ป่วยในชนบท ถิ่นทุรกันดารที่ห่างไกล
๑๖:๔๔ CNN จับตา นวัตกรรมล่าสุดจากนักวิจัยไทย พลิกโฉมการตรวจคัดกรองความเครียดด้วย เหงื่อ