นายสมโภช ทนุตันติวงศ์ ประธานเจ้าหน้าที่ฝ่ายการเงิน บริษัท แอดเทค ฮับ จำกัด (มหาชน) หรือ ADD ผู้ดำเนินธุรกิจให้บริการดิจิทัลคอนเทนต์และพัฒนาระบบเทคโนโลยีสารสนเทศ เปิดเผยว่า บริษัทฯ ได้แจ้งผลการดำเนินงานงวดไตรมาส 4/2566 มีรายได้จากการให้บริการ 99.43 ล้านบาท ซึ่งมีการปรับตัวโดดเด่นจากผู้ใช้บริการมีการใช้จ่ายเพื่อใช้บริการเสริมโดยเฉลี่ยเพิ่มขึ้น เป็นผลจากการดำเนินกิจกรรมส่งเสริมการตลาดที่เพิ่มขึ้นของผู้ให้บริการโทรศัพท์เคลื่อนที่ หลังจากการควบรวมกิจการ (TRUE-DTAC) ภายในอุตสาหกรรมมีความชัดเจน จากการปรับตัวเพิ่มขึ้นดังกล่าวส่งผลให้กำไรขั้นต้นแตะ 30.93 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 6.91 ล้านบาท หรือ 28.77% และมีกำไรส่วนที่เป็นของผู้ถือหุ้นของบริษัทใหญ่งวดไตรมาส 4/2566 ที่ 20 ล้านบาท เพิ่มขึ้นอย่างมีนัยสำคัญเมื่อเทียบกับ 3 ไตรมาสแรกของปีนี้ และผลจากการควบรวมกิจการระหว่าง TRUE และ DTAC ส่งผลให้มีการเปิดให้บริการเสริมต่าง ๆ ออกมาอย่างต่อเนื่อง ซึ่งจากปัจจัยดังกล่าวทำให้ ADD ได้รับอานิสงส์จากการรับรู้รายได้ส่วนแบ่งจากการให้บริการในไตรมาส 4/2566 เข้ามาเพิ่มขึ้นอย่างมีนัยสำคัญ
ทั้งนี้ หากพิจารณาจากผลการดำเนินงวดปี 2566 บริษัทฯ มีรายได้จากการให้บริการ จำนวน 317.89 ล้านบาท ลดลง 13.29 ล้านบาท เนื่องจากยอดการใช้งานด้านการให้บริการเสริมต่าง ๆ โดยเฉลี่ย ในงวด 9 เดือนแรกของปี 2566 ชะลอตัวจากเศรษฐกิจในประเทศที่ซบเซาจากปัจจัยอัตราเงินเฟ้อสูง ทำให้กำลังซื้อของผู้บริโภคชะลอตัวลงตาม ทำให้ผู้ใช้บริการระมัดระวังการใช้จ่ายมากขึ้น ส่งผลให้กำไรส่วนที่เป็นของผู้ถือหุ้นของบริษัทใหญ่งวดปี 2566 อยู่ที่ 31.16 ล้านบาท ลดลง 14.55 ล้านบาท จากรายได้จากการให้บริการที่ลดลงขณะที่ค่าใช้จ่ายในการบริหารเพิ่มขึ้น
ส่วนในปี 2567 บริษัทฯ เดินหน้าให้บริการดิจิทัลคอนเทนต์และพัฒนาระบบเทคโนโลยีสารสนเทศต่อเนื่อง โดยล่าสุดการให้บริการด้าน SECURITY และ LOYALTY มีความคืบหน้ามากขึ้น โดยบริษัท ไฮเว็บ เทคโนโลยี (ไทยแลนด์) จำกัด ("HWTHAI") ซึ่งเป็นบริษัทย่อยของ ADD เริ่มให้บริการระบบบริหารจัดการ ด้านความสัมพันธ์ของลูกค้า (CRM) กับสถาบันการเงินชั้นนำของไทย และคาดว่าจะมีโอกาสต่อยอดในการให้บริการอื่น ๆ ที่มีขนาดใหญ่ขึ้น เพราะ HWTHAI มีความเชี่ยวชาญระบบการบริหารจัดการด้านความสัมพันธ์ของลูกค้าเพื่อเชื่อมต่อเข้ากับระบบการชำระเงินผ่านบัตรและแอปพลิเคชัน พร้อมทั้งระบบการยืนยันตัวตน เพื่อความปลอดภัยในการใช้งาน โดยคาดว่าจะส่งผลเชิงบวกต่อผลการดำเนินงานในปีนี้ ซึ่งสอดคล้องกับกลยุทธ์การให้ความสำคัญกับการเติบโตอย่างสม่ำเสมอของบริษัทฯ ทำให้คาดการณ์ว่ารายได้จากผลการดำเนินงานในปี 2567 จะสามารถแตะเป้าหมายระดับ 500 ล้านบาท
นอกจากนี้ บริษัทฯ จะสามารถทยอยรับรู้ส่วนแบ่งกำไรจากเงินลงทุนที่จะปรับตัวเพิ่มขึ้นต่อไป พร้อมทั้งมีแผนในการนำบริษัทร่วมที่เข้าไปลงทุน อาทิ บริษัท เซเว่น คอนเนค แอดไวซอรี่ จำกัด ("7C") บริษัท โอริสมา จำกัด (OMH) และ บริษัท จีทีไอ คอร์ปอร์เรชั่น จำกัด ("GTI") เข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ฯตามลำดับความเหมาะสมต่อไป เพื่อเสริมศักยภาพและความแข็งแกร่งของแต่ละธุรกิจสู่การเติบโตอย่างมั่นคงในอนาคต
ที่มา: มีเดีย แพลนเนอร์ คอนซัลแทนท์