iiG "เจ็บแต่จบ" ตั้งสำรองปี 66 เหยียบคันเร่งรายได้ฟื้น มั่นใจ67 กำไรบวก พร้อมลุย M&A

พุธ ๒๘ กุมภาพันธ์ ๒๕๖๗ ๑๓:๑๗
IIG ชี้แจงงบปี 2566 "เจ็บแต่จบ" มอง Conservative ตั้งสำรองค่าใช้จ่าย One-time Expenseหยุดเลือดไหล มั่นใจรายได้ 67 ฟื้นตัว กำไรบวก พร้อมลุยต่างประเทศ - ลงทุน M&A
iiG เจ็บแต่จบ ตั้งสำรองปี 66 เหยียบคันเร่งรายได้ฟื้น มั่นใจ67 กำไรบวก พร้อมลุย MA

บริษัท ไอแอนด์ไอ กรุ๊ป (มหาชน) หรือ iiG ที่ปรึกษาด้านดิจิทัลและเทคโนโลยีชั้นนำของประเทศไทย ชี้แจงข้อมูลงบการเงินปี 2566 โดยมีรายได้รวม 948.63 ล้านบาท ขาดทุนสุทธิ 302.50 ล้านบาท เป็นผลจากธุรกิจด้านด้านการบริหารจัดการความสัมพันธ์กับลูกค้า (CRM) ที่มีรายได้จากการให้บริการให้คำปรึกษาและติดตั้งระบบโปรแกรมคอมพิวเตอร์ลดลง เนื่องจากโครงการขนาดใหญ่ที่มีการยกเลิกสัญญาและล่าช้าจากการให้บริการในปี 2566 ส่งผลให้บริษัทฯ ไม่สามารถรับรู้รายได้ตามกำหนด อีกทั้ง บริษัทฯ ได้ตั้งสำรองค่าใช้จ่ายซึ่งเกิดจากกระบวนการรับงานของลูกค้ามีขั้นตอนและเอกสารหลายรายการ จึงทำให้บริษัท ต้องตั้งสำรองในกรณีที่อาจไม่ได้รับชำระเงินจากลูกค้าในเนื้องานบางส่วนที่ได้มีการทำงานไปแล้ว ส่งผลให้ผลประกอบการปี 2566 มีผลขาดทุน ทั้งนี้ บริษัทฯ ได้ยุติการดำเนินงานโครงการดังกล่าวแล้ว ปัจจุบันอยู่ระหว่างการเจรจาเพื่อหาข้อตกลงร่วมกัน แต่อย่างไรก็ตาม ปี 2566 บริษัทฯ มีรายได้ประจำ (Recurring Revenue) จากการให้บริการและให้เช่าใช้ซอฟต์แวร์ คิดเป็นมูลค่า 695 ล้าน เพิ่มขึ้นจากปีก่อนหน้า 305 ล้านบาท หรือคิดเป็นอัตราเพิ่มขึ้น 78% โดยในปี 2567 รายได้ประจำของบริษัทจะมีมูลค่าสูงมากกว่า 700 ล้านบาท ซึ่งเป็นผลจากต่อสัญญาและการสะสมฐานลูกค้าของบริษัทฯ

สมชาย เมฆะสุวรรณโรจน์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร iiG กล่าวว่า "ผมเชื่อว่า บริษัทฯ ได้ผ่านพ้นวิกฤติที่เป็นจุดต่ำสุดในปี 2566 มาแล้ว สำหรับผลประกอบการปีที่ผ่านมา บริษัทฯ ได้มีการประมาณค่าใช้จ่าย และผลกระทบที่อาจจะเกิดขึ้นจากโครงการที่ล้าช้า โดยประเมินความเป็นไปได้ที่อาจจะเกิดขึ้นแบบ Conservative ซึ่งคิดเป็นมูลค่า 106 ล้านบาท เพื่อให้มั่นใจว่าผลกระทบจากโครงการดังกล่าวจะไม่กระทบต่อการดำเนินงานในปีถัดไป ทั้งนี้ผมมั่นใจว่าปี 2567 iiG สามารถกลับมาเติบโตได้ตามเป้าที่วางไว้ ทั้งรายได้และกำไร โดยบริษัทฯ เคยมีรายได้สูงสุดอยู่ 959 ล้าน และมีกำไร 86 ล้านบาท เมื่อปี 2565 และในปี 2567 บริษัทฯ ตั้งเป้ารายได้เติบโต 40% โดยมั่นใจว่ากำไรสุทธิ จะกลับสู่อัตราปกติที่บริษัทเคยทำได้ ภายในครึ่งปีหลัง "

นอกจากนี้ บริษัทฯ ได้ปรับกลยุทธ์ การดำเนินงานภายใน ซึ่งไม่เพียงแค่สนับสนุนการเติบโตแบบ Organic Growth เท่านั้น แต่บริษัทฯ ยังได้ตัดสินใจดำเนินการขยายธุรกิจในประเทศ รวมถึงการลงทุนในประเทศเวียดนาม หลังจากผู้คณะบริหารได้ศึกษาตลาดในต่างประเทศแล้วเห็นตรงกันว่า ประเทศเวียดนามเป็นตลาดที่น่าสนใจ โดยมีปัจจัยหลายอย่างสนับสนุน อีกทั้งสภาพเศรษฐกิจอยู่ระหว่างการเติบโตเป็นอย่างมาก

ที่มา: เดอะเวย์ คอมมิวนิเคชั่น

ข่าวประชาสัมพันธ์ล่าสุด

๒๐ ธ.ค. ASMT ผนึก TFT ร่วมลงนามด้านวิชาการด้านอุตสาหกรรมการบิน
๒๐ ธ.ค. กรมวิชาการเกษตร เดินหน้า ถ่ายทอดองค์ความรู้การผลิตอะโวคาโดคุณภาพ สร้างรายได้เพิ่มให้เกษตรกรกว่า 2 แสนบาท/ไร่
๒๐ ธ.ค. Dow มุ่งพัฒนาประสิทธิภาพผลิตภัณฑ์ Personal Care ควบคู่ความยั่งยืน ตอบโจทย์ผู้บริโภคตลาดเครื่องสำอางในภูมิภาคเอเชีย
๒๐ ธ.ค. โอซีซี มอบความรู้ พัฒนาอาชีพให้ผู้ต้องขังหญิง
๒๐ ธ.ค. ดร.นุชนารถ ชลคงคา นำทีมสถาบัน ESTC จัดอบรมให้ Karmakamet
๒๐ ธ.ค. กนภ. เห็นชอบร่าง พรบ. การเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ กลไกสำคัญสู่เส้นทางเศรษกิจคาร์บอนต่ำ และมีภูมิคุ้มกันฯ
๒๐ ธ.ค. WePlay x คอลแลบตัวละครสุดปัง! พบกับมินิเกมใหม่ และการ์ตูนสุดน่ารักที่คุณจะต้องหลงรัก
๒๐ ธ.ค. เดลต้า ประเทศไทย และ WEnergy Global ร่วมลงนามบันทึกข้อตกลงเพื่อขับเคลื่อนอนาคตพลังงานสีเขียว
๒๐ ธ.ค. ความภาคภูมิใจของ ไลอ้อน กับ 3 รางวัลแห่งเกียรติยศ เผยผลงานโดดเด่นกับหลายรางวัลที่ได้รับในปี 2567
๒๐ ธ.ค. NOBLE คว้าเรทติ้งสูงสุด ระดับ AAA SET ESG Ratings ประจำปี 2567 ยกระดับองค์กรสู่ความยั่งยืนภายในแนวคิด Live Different ตามกรอบ