นางสุวรรณา ขจรวุฒิเดช ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท มีนาทรานสปอร์ต จำกัด (มหาชน) หรือ MENA ผู้นำธุรกิจให้บริการขนส่งคอนกรีตผสมเสร็จด้วยรถมิกเซอร์ (Mixer) และรถเทรลเลอร์ (Trailer) รายใหญ่ของประเทศ เปิดเผยว่า ผลการดำเนินงานงวดปี 2566 (สิ้นสุดวันที่ 31 ธันวาคม 2566) ของบริษัทฯ มีกำไรสุทธิ 71 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 20 ล้านบาท หรือเพิ่มขึ้น 39% จากงวดเดียวกันของปีก่อนมีกำไรสุทธิ 51 ล้านบาท ส่วนรายได้รวมเท่ากับ 776 ล้านบาท จากงวดเดียวกันของปีก่อนเท่ากับ 697 ล้านบาท หรือเพิ่มขึ้น 11%
ขณะที่กำไรขั้นต้นอยู่ที่ 135 ล้านบาท หรือเติบโต 17% ซึ่งปัจจัยที่ผลักดันให้กำไรขั้นต้นและกำไรสุทธิของบริษัทฯ ปรับตัวเพิ่มขึ้น เนื่องจากรับอานิสงส์จากการขนส่งสินค้าทุกประเภททั้งซีเมนต์ คอนกรีต สินค้าอุปโภคบริโภค สินค้าเฉพาะทาง และสินค้าควบคุมอุณหภูมิขยายตัวต่อเนื่อง รวมถึงการขยายงานของบริษัทฯ ทำให้เกิดการประหยัดต่อขนาด (Economies of Scale)
จากผลการดำเนินงานปี 2566 ที่เพิ่มขึ้นดังกล่าวที่ประชุมคณะกรรมการบริษัทฯ จึงมีมติอนุมัติจ่ายปันผล ให้แก่ผู้ถือหุ้นของบริษัทฯ ในอัตรา 0.03 บาทต่อหุ้น รวมเป็นเงินปันผลประมาณ 22 ล้านบาท โดยกำหนดให้ผู้ถือหุ้นที่จะมีชื่อปรากฏ ณ วันกำหนดรายชื่อผู้ถือหุ้น (Record Date) ในวันที่ 2 พฤษภาคม 2567 และกำหนดวันจ่ายเงินปันผล ในวันที่ 17 พฤษภาคม 2567 โดยการใช้สิทธิดังกล่าวต้องรอการอนุมัติจากที่ประชุมผู้ถือหุ้นในวันที่ 23 เมษายน 2567 นี้
สำหรับทิศทางธุรกิจในปี 2567 ของบริษัทฯ คาดว่าจะเติบโตอย่างโดดเด่นต่อเนื่องจากปี 2566 ทั้งในส่วนของรายได้และกำไร เนื่องจากธุรกิจโลจิสติกส์มีแนวโน้มเติบโตได้ดี โดยเฉพาะธุรกิจให้บริการรถมิกเซอร์ที่มีโอกาสเติบโตสูงจากอุตสาหกรรมก่อสร้างฟื้นตัวขานรับการท่องเที่ยวที่จะเพิ่มขึ้นจากนโยบายฟรีวีซ่าของรัฐบาล และการรับรู้ส่วนแบ่งกำไรจาก บริษัท ทีดี เอ็ม ลอจิสติกส์ จำกัด (TDM)
นอกจากนี้ ในครึ่งแรกของปี 2567 บริษัทฯ เตรียมงบลงทุน ประมาณ 130 ล้านบาท เพื่อใช้ในการขยาย Fleet รถประมาณ 50 คัน แบ่งเป็นรถ Mixer ประมาณ 40 คัน รถเทรลเลอร์ ประมาณ 10 คัน เพื่อช่วยเพิ่มขีดความสามารถในการรองรับกับอุตสาหกรรมโลจิสติกส์ที่ขยายตัวต่อเนื่อง รวมทั้งการเพิ่มประสิทธิภาพการใช้รถ โดยเฉพาะรถที่เพิ่มในระหว่างปี 2566 กว่า 100 คัน ให้เต็มประสิทธิภาพ ซึ่งบริษัทฯ ตั้งเป้ามีรถพร้อมให้บริการอยู่ที่ 830 คันภายในกลางปี 2567 ทำให้บริษัทฯ มั่นใจรายได้เติบโตไม่ต่ำกว่า 15%
"ปี 2566 ที่ผ่านมาเป็นปีที่บริษัทฯ รุกขยายธุรกิจอย่างเข้มข้น โดยเฉพาะการร่วมมือกับกลุ่มคาราบาว ในการจัดตั้ง TDM และการขยาย Fleet รถกว่า 100 คัน เพื่อรองรับปริมาณงานที่เพิ่มขึ้น ไม่ว่าจะเป็นโครงการภาครัฐ และการฟื้นตัวของอุตสาหกรรมก่อสร้าง ซึ่งถือว่าบริษัทฯ ได้ดำเนินการตามแผนที่ตั้งเป้าหมายไว้ จึงส่งผลทำให้ผลการดำเนินงานเติบโตอย่างโดดเด่น และเชื่อว่าในปีนี้ภาพรวมธุรกิจจะยังคงขยายตัวได้อย่างต่อเนื่องเช่นกัน โดยบริษัทฯ ยังคงมองหาพันธมิตรใหม่ๆ เพิ่มเพิ่มศักยภาพและต่อยอดธุรกิจหลักให้มีความแข็งแกร่งมากยิ่งขึ้น" นางสุวรรณา กล่าวในที่สุด
ที่มา: ไออาร์เน็ตเวิร์ค