ดร.พรลภัส ณ ลำพูน ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท อินเด็กซ์ อินเตอร์เนชั่นแนล กรุ๊ป จำกัด (มหาชน) หรือ IND เปิดเผยว่าจากผลการดำเนินงานของปี 2566 ที่ยังคงเติบโตได้อย่างต่อเนื่อง โดยมีกำไรสุทธิ13.36 ล้านบาท ส่วนรายได้รวมเท่ากับ 760.52 ล้านบาท ที่ประชุมคณะกรรมการบริษัทฯ จึงได้มีมติอนุมัติให้จ่ายเงินปันผล สำหรับงวดปี 2566 ให้กับผู้ถือหุ้นเป็นเงินสด ในอัตราหุ้นละ 0.015 บาท รวมเป็นเงินปันผลทั้งสิ้นไม่เกิน 5,250,000 ล้านบาท โดยกำหนดให้ผู้ถือหุ้นที่จะมีชื่อปรากฏ ณ วันกำหนดรายชื่อผู้ถือหุ้น (Record Date) ในวันที่ 15 มีนาคม 2567 และกำหนดวันจ่ายเงินปันผล ในวันที่ 21 พฤษภาคม 2567
"ตลอดระยะเวลาที่ผ่านมาพิสูจน์ให้เห็นถึงศักยภาพและความแข็งแกร่งของบริษัท เห็นได้จากการเติบโตที่ต่อเนื่องทั้งรายได้และกำไรอันเนื่องมาจากบริษัทฯ ได้ดำเนินธุรกิจตามแผนที่วางไว้ อีกทั้งรับรู้รายได้จากโครงการใหม่ๆ ที่ทยอยเข้ามา และทยอยส่งมอบงานในมือ (Backlog) ได้ตามแผน รวมทั้งมีการควบคุมต้นทุนและค่าใช้จ่ายได้อย่างมีประสิทธิภาพ จึงช่วยผลักดันให้ผลการดำเนินงานเติบโตตามเป้าหมาย และต่อจากนี้ไปบริษัทฯ จะยังคงมุ่งขยายธุรกิจในทุกภาคส่วนให้เติบโตได้อย่างแข็งแกร่ง เพื่อทำให้รายได้ และกำไรเติบโตอย่างยั่งยืน อันจะนำมาซึ่งการสร้างผลตอบแทนที่ดีให้กับผู้ถือหุ้นได้ในระยะยาว" ดร.พรลภัสกล่าว
ดร.พรลภัสกล่าวต่อถึงภาพรวมอุตสาหกรรมรับเหมาก่อสร้างในปีนี้มีแนวโน้มฟื้นตัวที่ดีขึ้น จากการที่รัฐบาลมีแรงขับเคลื่อนในการกระตุ้นเศรษฐกิจ โดยให้มีงานโครงสร้างพื้นฐานขนาดใหญ่ออกมาอย่างต่อเนื่อง รวมทั้งโครงการสาธารณูปโภคพื้นฐานอื่นๆ ที่ยังมีแนวโน้มขยายตัว ทำให้เห็นสัญญาณบวกที่ส่งผลดีต่อธุรกิจ ทำให้เชื่อว่าทิศทางธุรกิจของบริษัทฯ ในปี 2567 จะยังคงเติบโตได้อย่างต่อเนื่องเช่นเดียวกัน ซึ่งปีนี้บริษัทฯ ตั้งเป้าการเติบโตของรายได้ไว้ไม่ต่ำกว่า 15% เทียบกับปีที่ผ่านมา โดยทยอยรับรู้รายได้จากงานในมือ (Backlog) ที่มีอยู่ประมาณ 1,606.77 ล้านบาท (ณ สิ้นสุดวันที่ 31 ธันวาคม 2566)
ทั้งนี้ บริษัทฯ เตรียมศึกษาธุรกิจใหม่ๆ เกี่ยวกับธุรกิจพลังงานสะอาด ทั้งรูปแบบงานรับเหมาก่อสร้างแบบครบวงจร (EPC) เริ่มตั้งแต่การให้บริการออกแบบโรงไฟฟ้า ส่งมอบและให้บริการหลังส่งมอบโครงการ รวมถึงรูปแบบการลงทุนเอง เพื่อเพิ่มช่องทางตลาดใหม่เพิ่มเติม ซึ่งจะเป็นส่วนหนึ่งในการสร้างการเติบโตให้กับธุรกิจ รวมถึงรายได้ กำไรให้เติบโตอย่างยั่งยืน ที่สำคัญเพื่อเพิ่มโอกาสทางธุรกิจและสร้างจุดแข็งให้กลุ่มบริษัทฯ และสร้างความได้เปรียบด้านการแข่งขัน
ที่มา: อินเด็กซ์ อินเตอร์เนชั่นแนล กรุ๊ป