SINO ลงทุนเพิ่มตู้คอนเทนเนอร์ รับสัญญาณตู้ขาดแคลนจากวิกฤติทะเลแดง มองผลงานไตรมาสแรกปีนี้โดดเด่นทั้งในเชิงปริมาณและมูลค่า รับค่าระวางเรือขาขึ้น

พุธ ๐๖ มีนาคม ๒๕๖๗ ๑๔:๔๙
'บมจ.ไซโน โลจิสติกส์ คอร์ปอเรชั่น' หรือ SINO ชี้สถานการณ์ในทะเลแดงลากยาวดันอัตราค่าระวางเรือพุ่งสูง และตู้คอนเทนเนอร์ส่งสัญญาณเริ่มขาดแคลน หลังระยะเวลาขนส่งสินค้าไปยังสหรัฐและยุโรปยาวนานขึ้น ลงทุนเพิ่มตู้คอนเทนเนอร์ SOC บริหารความเสี่ยงให้แก่ผู้ส่งออกรับโอกาสเศรษฐกิจโลกขยายตัวได้ดี มองไตรมาส 1/2567 เติบโตแข็งแกร่ง
SINO ลงทุนเพิ่มตู้คอนเทนเนอร์ รับสัญญาณตู้ขาดแคลนจากวิกฤติทะเลแดง มองผลงานไตรมาสแรกปีนี้โดดเด่นทั้งในเชิงปริมาณและมูลค่า รับค่าระวางเรือขาขึ้น

นายนันท์มนัส วิทยศักดิ์พันธ์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัทไซโน โลจิสติกส์ คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) หรือ SINO ผู้ให้บริการโลจิสติกส์ระหว่างประเทศอย่างครบวงจร เปิดเผยว่า สถานการณ์การโจมตีเรือขนส่งสินค้าในบริเวณทะเลแดงมีแนวโน้มยืดเยื้อ ที่นอกจากทำให้อัตราค่าระวางเรือในเส้นทางไปยังยุโรปปรับเพิ่มขึ้น 4 เท่า หรือแตะระดับสูงสุดที่ 4,900 ดอลลาร์ และเส้นทางไปยังสหรัฐอเมริกาปรับขึ้น 3 เท่าหรือคิดเป็น 7,200 ดอลลาร์ต่อตู้ นับจากเดือนพฤศจิกายนที่ผ่านมา (ข้อมูลจาก SCB EIC) ยังก่อให้เกิดความเสี่ยงการขาดแคลนตู้คอนเทนเนอร์สำหรับขนส่งสินค้า เนื่องจากสายเดินเรือต้องปรับเส้นทางและใช้เวลาเดินทางยาวนานขึ้น ซึ่งปัจจุบันเริ่มเห็นสัญญาณการขาดแคลนตู้คอนเทนเนอร์แล้วและคาดว่าจะชัดเจนขึ้นในช่วงปลายไตรมาสแรกของปีนี้ ดังนั้น SINO จึงลงทุนเพิ่มตู้คอนเทอร์เนอร์ Shipping Owner Container (SOC) เฉลี่ย 50 ตู้ต่อเดือน เพื่อบริหารปัจจัยความเสี่ยงดังกล่าว และสร้างความเชื่อมั่นให้แก่ผู้ประกอบการที่ต้องการใช้บริการขนส่งสินค้าไปตลาดต่างประเทศ ว่าจะมีตู้คอนเนอร์เพียงพอที่จะรองรับปริมาณการขนส่งสินค้าทางทะเลที่เพิ่มขึ้นได้

ขณะเดียวกัน SINO จะนำศักยภาพการให้บริการขนส่งสินค้าระหว่างประเทศ ที่มีปริมาณขนส่งสินค้าทางทะเลเส้นทางไทย-สหรัฐอเมริกาเป็นอันดับ 1 ของผู้ให้บริการสัญชาติไทย และเป็นอันดับ 3 ของผู้ให้บริการในระดับโลก โดยนำเสนอโซลูชันการให้บริการโลจิสติกส์ระหว่างประเทศอย่างครบวงจร ตอบสนองความต้องการของลูกค้าให้มีประสิทธิภาพ ปลอดภัยและตรงต่อเวลา เพื่อสามารถเก็บเกี่ยวโอกาสในการสร้างรายได้ในไตรมาสแรกของปีนี้ ทั้งในเชิงมูลค่าและปริมาณการขนส่งสินค้า ซึ่งจะช่วยผลักดันเป้าหมายที่จะเพิ่มปริมาณขนส่งสินค้าเป็น 53,000 ตู้ และผลักดันให้ประเทศไทยเป็นฮับการขนส่งสินค้าทางทะเลให้แก่ประเทศต่างๆ ในภูมิภาคอาเซียน ที่ต้องการส่งออกสินค้าไปยังสหรัฐอเมริกาตามแผนที่วางไว้

"ทะเลแดงถือเป็นเส้นทางขนส่งสินค้าที่สำคัญของการค้าโลก โดยสถานการณ์ที่ยืดเยื้อจะยิ่งเพิ่มแรงกดดันต่อการขาดแคลนตู้คอนเทนเนอร์ที่เห็นได้ชัดเจนในช่วงปลายไตรมาสแรกปีนี้ เราจึงเตรียมความพร้อมเพิ่มตู้คอนเทนเนอร์เพื่อรองรับการปริมาณส่งออกสินค้าจากไทยไปตลาดสหรัฐและยุโรปที่มีแนวโน้มเพิ่มขึ้น" นายนันท์มนัส กล่าว

ที่มา: เอ็ม ที มัลติมีเดีย

ข่าวประชาสัมพันธ์ล่าสุด

๒๐ ธ.ค. ASMT ผนึก TFT ร่วมลงนามด้านวิชาการด้านอุตสาหกรรมการบิน
๒๐ ธ.ค. กรมวิชาการเกษตร เดินหน้า ถ่ายทอดองค์ความรู้การผลิตอะโวคาโดคุณภาพ สร้างรายได้เพิ่มให้เกษตรกรกว่า 2 แสนบาท/ไร่
๒๐ ธ.ค. Dow มุ่งพัฒนาประสิทธิภาพผลิตภัณฑ์ Personal Care ควบคู่ความยั่งยืน ตอบโจทย์ผู้บริโภคตลาดเครื่องสำอางในภูมิภาคเอเชีย
๒๐ ธ.ค. โอซีซี มอบความรู้ พัฒนาอาชีพให้ผู้ต้องขังหญิง
๒๐ ธ.ค. ดร.นุชนารถ ชลคงคา นำทีมสถาบัน ESTC จัดอบรมให้ Karmakamet
๒๐ ธ.ค. กนภ. เห็นชอบร่าง พรบ. การเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ กลไกสำคัญสู่เส้นทางเศรษกิจคาร์บอนต่ำ และมีภูมิคุ้มกันฯ
๒๐ ธ.ค. WePlay x คอลแลบตัวละครสุดปัง! พบกับมินิเกมใหม่ และการ์ตูนสุดน่ารักที่คุณจะต้องหลงรัก
๒๐ ธ.ค. เดลต้า ประเทศไทย และ WEnergy Global ร่วมลงนามบันทึกข้อตกลงเพื่อขับเคลื่อนอนาคตพลังงานสีเขียว
๒๐ ธ.ค. ความภาคภูมิใจของ ไลอ้อน กับ 3 รางวัลแห่งเกียรติยศ เผยผลงานโดดเด่นกับหลายรางวัลที่ได้รับในปี 2567
๒๐ ธ.ค. NOBLE คว้าเรทติ้งสูงสุด ระดับ AAA SET ESG Ratings ประจำปี 2567 ยกระดับองค์กรสู่ความยั่งยืนภายในแนวคิด Live Different ตามกรอบ