นายเกษมสันต์ สุจิวโรดม ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท กิจเจริญ เอ็นจิเนียริ่ง อีเลคทริค จำกัด (มหาชน) หรือ KJL เปิดเผยว่า บริษัทตั้งเป้าหมายรายได้ในปี 2567 ที่มากกว่า 1,200 ล้านบาท คิดเป็นการเติบโตที่ระดับ 10-15% จากในปี 2566 ที่มีรายได้อยู่ที่ 1,082 ล้านบาท โดยบริษัทมีแผนที่จะขยายธุรกิจในทุกมิติไม่ว่าจะเป็นการเดินหน้าขยายฐานลูกค้าที่เป็นร้านอุปกรณ์ไฟฟ้าทั่วประเทศ ขยายเครือข่ายช่างไฟฟ้า ผู้รับเหมา และวิศวกรทั่วประเทศ รวมถึงสร้าง และพัฒนานวัตกรรมเพื่อเป็นโซลูชั่น และเพิ่มมูลค่า สามารถตอบโจทย์ความต้องการของตลาด เพื่อหนุนความต้องการในการใช้สินค้าของบริษัทให้เพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่องในทุกกลุ่มสินค้าไม่ว่าจะเป็นสินค้ามาตรฐาน KJL ตู้ไฟสวิทช์บอร์ด รางเดินสายไฟ และงานโลหะแผ่นแปรรูปสั่งผลิตพิเศษ รวมถึงต่อยอดธุรกิจในการสร้างรายได้ เพิ่มฐานผลิต และการลงทุนในเครื่องจักรระบบคอมพิวเตอร์จากประเทศญี่ปุ่น เพื่อเปิดมิติใหม่ด้านอุตสาหกรรมไทยสู่สากล ด้วยนวัตกรรมควบคุมการผลิตผ่านโรงงานอัจฉริยะ และอุตสาหกรรม 4.0 เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการทำงานอย่างสมบูรณ์แบบ ไม่ว่าจะเป็น เครื่องตัดเลเซอร์ เครื่องเจาะด้วยระบบคอมพิวเตอร์ เครื่องพับ และหุ่นยนต์พับอัตโนมัติ เป็นต้น ซึ่งทำให้ผลิตภัณฑ์ของ KJL ได้มาตรฐานระดับสากล ด้วยกระบวนการผลิตที่ทันสมัย สามารถตอบสนองกลุ่มอุตสาหกรรมที่เป็นอุตสาหกรรมเป้าหมายหลักของบริษัท เตรียมความพร้อมเพื่อรองรับการขยายสินค้า และบริการไปยังหลากหลายอุตสาหกรรมแห่งอนาคต ไม่ว่าจะเป็น Data Center, เทคโนโลยี IOT ตลอดจนเทคโนโลยี AI เป็นต้น
ทั้งนี้บริษัทได้เซ็นสัญญา กับ "ชไนเดอร์ อิเล็คทริค" (Schneider Electric) ผู้นำอุปกรณ์ และงานระบบไฟฟ้า และพลังงานสะอาดระดับโลกที่ได้รับความไว้วางใจ และมีการพัฒนานวัตกรรมมาอย่างต่อเนื่องตลอดระยะเวลา 180 ปี โดยชไนเดอร์ อิเล็คทริค ได้แต่งตั้งให้ KJL เป็นตัวแทนจำหน่ายอย่างเป็นทางการ "Authorized General Distributor (Tier 1)" ในทุกประเภทผลิตภัณฑ์ของชไนเดอร์ อิเล็คทริค เช่น ผลิตภัณฑ์และระบบไฟฟ้าแรงดันต่ำ ระบบอัตโนมัติและการควบคุมอุตสาหกรรม ระบบกระจายแรงดันไฟฟ้าขนาดกลาง และโครงข่ายไฟฟ้าอัจฉริยะ เป็นต้น โดยการได้รับแต่งตั้งเป็นตัวแทนจำหน่ายอย่างเป็นทางการจะเพิ่มโอกาสในการสร้างรายได้ให้กับบริษัทเพิ่มขึ้นในอนาคตในลักษณะ synergy growth ขยายโอกาสในการพัฒนาสินค้าร่วมกัน เพื่อรองรับอุตสาหกรรมแห่งอนาคตไม่ว่าจะเป็น AI, big data, clean energy และ EV เป็นต้น เนื่องจากสินค้า และบริการของชไนเดอร์ อิเล็คทริคได้รับมาตรฐานในระดับโลก มีคุณภาพสูง และได้รับการยอมรับจากหลากหลายอุตสาหกรรม ในขณะที่ KJL ก็มีประสบการณ์ในอุตสาหกรรมมาอย่างยาวนาน สินค้า และบริการได้รับการยอมรับอย่างกว้างขวาง มีเครือข่ายที่ครอบคลุมในหลายอุตสาหกรรม จึงทำให้บริษัทมั่นใจว่าการได้รับการแต่งตั้งในครั้งนี้จะเป็นการเสริมศักยภาพให้ KJL มีความแข็งแกร่งอย่างมั่นคงในอนาคต
"เรายังคงเดินหน้าเติบโตอย่างต่อเนื่อง จากการขยายธุรกิจในทุกมิติ และการมุ่งเน้นด้านนวัตกรรม และความยั่งยืนของสิ่งแวดล้อม รวมถึงการสร้าง network ที่แข็งแกร่งเพื่อการต่อยอดในอนาคต และที่สำคัญคือการได้รับแต่งตั้งเป็นตัวแทนจำหน่ายจากชไนเดอร์ อิเล็คทริค นับว่าเป็นอีกก้าวที่สำคัญของ KJL ในการที่จะเพิ่มมูลค่าสินค้า และสร้างการเติบโตอย่างต่อเนื่อง และยกระดับองค์กรสู่ความเป็นสากลในอนาคต" นายเกษมสันต์กล่าว
ที่มา: กลอรี่ แบรนดิ้ง