นายภูสิต รัตนกุล เสรีเริงฤทธิ์ อธิบดีกรมส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศ เปิดเผยภายหลังการจัดงานเนื่องในโอกาสครบรอบ 72 ปี กรมส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศว่า กรมจะเดินหน้าขับเคลื่อนการส่งออกเป็นเครื่องยนต์สำคัญสนับสนุนการเติบโตของเศรษฐกิจไทย ภายใต้วิสัยทัศน์ "ความสามารถในการแข่งขันด้านการค้าระหว่างประเทศของไทยเป็น 1 ใน 5 ของเอเชียภายในปี 2570" โดยให้ความสำคัญกับการส่งเสริมการสร้างมูลค่าเพิ่มสินค้าและบริการส่งออก ที่ตอบโจทย์เทรนด์ของโลก โดยเฉพาะด้านสิ่งแวดล้อม การสอดแทรกคุณค่าอัตลักษณ์ความเป็นไทย และผลักดันเป็น Soft Power ไทยสู่เวทีโลก เพื่อสร้างความต้องการสินค้าไทย การพัฒนาทักษะความรู้ด้านดิจิทัลของผู้ประกอบการ SMEs โดยเฉพาะในระดับท้องถิ่น เพื่อการเชื่อมโยงสู่ตลาดโลก
ทั้งนี้ ได้กำหนดยุทธศาสตร์ส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศระยะ 5 ปี (พ.ศ. 2566-2570) ได้แก่ ยุทธศาสตร์ที่ 1 สร้างจุดแข็งให้กับสินค้าและธุรกิจบริการไทยด้วยนวัตกรรมและเทคโนโลยีเพื่อตอบสนองต่อความต้องการ Megatrends และ Next Normal ยุทธศาสตร์ที่ 2 รุกตลาดศักยภาพเดิม เปิดเพิ่มตลาดใหม่ และขยายสัดส่วนการส่งออกสินค้าไทยสู่ตลาดโลก ยุทธศาสตร์ที่ 3 ส่งเสริมพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์และเศรษฐกิจแพลตฟอร์ม (Platform Economy) ยุทธศาสตร์ที่ 4 พัฒนาศักยภาพผู้ประกอบการให้พร้อมรับการเปลี่ยนแปลงสู่เศรษฐกิจยุคใหม่ และยุทธศาสตร์ที่ 5 ยกระดับการให้บริการด้านการค้าระหว่างประเทศด้วยเทคโนโลยีดิจิทัล
ขณะเดียวกัน จะให้ความสำคัญกับการพัฒนาบุคลากร ที่ต้องเป็นผู้ทำงานอุทิศตนให้กับงาน ไม่ว่างานหนักแค่ไหนก็สู้ มีความสามัคคี เป็นคนดี คนเก่ง และที่สำคัญ คือ มีจริยธรรม เพราะถือเป็นความภาคภูมิใจ และกลายเป็นส่วนหนึ่งของวัฒนธรรมของกรมที่ถ่ายทอดกันมาหลายยุคหลายสมัย จนมาเป็นค่านิยมขององค์กร DITP DRIVE ที่ยึดถือมานานกว่า 10 ปี และยังผลักดันให้ดำเนินต่อไป โดย D = Dedicated มุ่งมั่น ขยัน อดทน R = Responsive ผลลัพธ์ฉับไว I = Integrity ธำรงไว้ซึ่งคุณธรรม V = Value Creation สร้างสรรค์สิ่งใหม่ E = Excellent เพื่อการค้าไทยเป็นเลิศ
นอกจากนี้ จะเน้นการทำงานเป็นทีม โดยให้ความสำคัญกับทุกความเห็น เปิดกว้างรับฟังคนตัวเล็ก ไม่ว่าจะเป็นข้าราชการชั้นผู้น้อย หรือลูกจ้าง โดยเฉพาะคนรุ่นใหม่ เนื่องจากการขับเคลื่อนองค์กรต้องอาศัยทุกองคาพยพ คนตัวเล็ก ๆสามารถเปลี่ยนแปลงองค์กรได้ อยู่ที่การสร้างช่องทางการสื่อสารให้เขาสามารถแสดงความเห็น ซึ่งเป็นแนวนโยบายที่นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ได้ให้ไว้ ในการสร้างทีมกระทรวงพาณิชย์ ที่ทำงานร่วมกันอย่างบูรณาการ ซึ่งกระทรวงพาณิชย์มีทั้งหน่วยงานในต่างประเทศ ต่างจังหวัด และส่วนกลาง ที่หากสามารถทำงานเป็นทีมที่แข็งแข็ง จะช่วยให้การขับเคลื่อนการค้าเชิงรุกประสบความสำเร็จได้
สำหรับการจัดงานในครั้งนี้ ได้มีการจัดนิทรรศการเหตุการณ์สำคัญในช่วง 72 ปี ตั้งแต่ยุคกำเนิดกรมพาณิชย์สัมพันธ์ ยุคการสู้เพื่อความอยู่รอด (พ.ศ.2502-2512) ยุคแห่งการปรับรากฐาน (พ.ศ.2512-2522) ยุคแห่งการส่งออก (พ.ศ.2522-2555) ยุคแห่งการค้าระหว่างประเทศ (พ.ศ.2555) และทศวรรษใหม่กับการขับเคลื่อนการค้าระหว่างประเทศ รวมทั้ง มีการจัดกิจกรรมช่วยเหลือสังคม เช่น แข่งขันกอลฟ์ การแข่งขันออกกำลังกาย การจัดแสดงผลงานของกรม และการออกร้านค้าสวัสดิการและการจัดงานแสดงสินค้าส่งออก
สำหรับผู้สนใจสามารถติดต่อสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ กรมส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศ (DITP) กระทรวงพาณิชย์ www.ditp.go.th หรือสายตรงการค้าระหว่างประเทศ โทร 1169
ที่มา: กระทรวงพาณิชย์