ฉลองครบรอบ 60 ปี ไทยยามาฮ่ามอเตอร์ ร่วมสานต่อกิจกรรมเพื่อสังคม เปิด "โครงการหมวกกันน็อกยามาฮ่าขนาดเล็ก"

พุธ ๑๓ มีนาคม ๒๕๖๗ ๑๑:๕๑
ฉลองครบรอบ 60 ปี ไทยยามาฮ่ามอเตอร์ ร่วมสานต่อกิจกรรมเพื่อสังคม เปิด "โครงการหมวกกันน็อกยามาฮ่าขนาดเล็ก" (หมวกกันน็อกขนาดเล็กที่มีมาตรฐานผลิตภัณฑ์อุตสาหกรรม - มอก.) เพื่อสร้างสังคมแห่งความปลอดภัยบนท้องถนน
ฉลองครบรอบ 60 ปี ไทยยามาฮ่ามอเตอร์ ร่วมสานต่อกิจกรรมเพื่อสังคม เปิด โครงการหมวกกันน็อกยามาฮ่าขนาดเล็ก

บริษัท ไทยยามาฮ่ามอเตอร์ จำกัด ฉลองครบรอบ 60 ปี ผู้ดำเนินธุรกิจรถจักรยานยนต์ยามาฮ่า รถจักรยานยนต์คุณภาพที่อยู่คู่คนไทยมากว่าครึ่งศตวรรษผลิตรถจักรยานยนต์ รุ่นพิเศษ "YAMAHA FINO FINAL EDITION" จำนวน 999 คัน โดยนำรายได้ส่วนหนึ่งจากการจำหน่ายมาพัฒนา และผลิตหมวกนิรภัยขนาดเล็กที่มีมาตรฐานผลิตภัณฑ์อุตสาหกรรม (มอก.) โดยการร่วมมือหน่วยงานจากภาครัฐ และเอกชนในการเริ่มโครงการผลิตหมวกนิรภัยขนาดเล็กที่ได้มาตรฐานการผลิต เพื่อลดการสูญเสียเมื่อเกิดอุบัติเหตุ โดยมีจุดประสงค์ที่สำคัญในการเสริมความปลอดภัยให้กับเด็กเล็ก เยาวชน รวมถึงสุภาพสตรีที่มีขนาดศีรษะขนาดเล็ก ให้ได้รับความปลอดภัย และลดการสูญเสียเมื่อสวมใส่หมวกนิรภัยทุกครั้งที่ใช้รถจักรยานยนต์ ด้วยหมวกนิรภัยที่ได้รับมาตรฐานการผลิตที่ผ่านมาตรฐาน มอก. 369-2557 ที่มีความปลอดภัยสูงสุดเมื่อใช้งานจริงบนท้องถนน

นายพงศธร เอื้อมงคลชัย ประธานกรรมการบริหาร บริษัท ไทยยามาฮ่ามอเตอร์ จำกัด กล่าวถึงวัตถุประสงค์ในการจัดโครงการในครั้งนี้ว่า "บริษัท ไทยยามาฮ่ามอเตอร์ จำกัด เราตระหนัก และให้ความสำคัญในเรื่องความปลอดภัยบนท้องถนน และการป้องกันอุบัติเหตุเพื่อลดการสูญเสีย ซึ่งเป็นการสานต่อนโยบายเสริมสร้างความปลอดภัยบนท้องถนนของรัฐบาลมาโดยตลอด ดังจะเห็นได้จากโครงการ และกิจกรรมต่างๆ ของยามาฮ่า เช่น การจัดตั้งสถาบันฝึกอบรมขับขี่รถจักรยานยนต์ยามาฮ่า (YRA) การอบรมขับขี่ปลอดภัย การสนับสนุนหมวกนิรภัยให้กับหน่วยงานภาครัฐ และเอกชนต่างๆ มาอย่างต่อเนื่อง โดยในปีนี้เนื่องในวาระโอกาสครบรอบ 60 ปี ของ บริษัท ไทยยามาฮ่ามอเตอร์ จำกัด เพื่อเป็นการฉลองความสำเร็จในการดำเนินธุรกิจรถจักรยานยนต์ในประเทศไทย จึงได้จัดโครงการหมวกกันน็อกยามาฮ่าขนาดเล็ก" (หมวกกันน็อกขนาดเล็กที่มีมาตรฐานผลิตภัณฑ์อุตสาหกรรม - มอก.) เพื่อสานต่อโครงการ CSR เรื่องความปลอดภัยบนท้องถนน โดยได้รับความร่วมมือจากหน่วยงานภาครัฐ และเอกชนระดับประเทศ มาร่วมกันพัฒนา และผลิตหมวกนิรภัยขนาดเล็กที่มีมาตรฐานผลิตภัณฑ์อุตสาหกรรม เพื่อป้องกันอุบัติเหตุ และลดการบาดเจ็บสูญเสียบนท้องถนนของเด็ก และเยาวชนของชาติต่อไป
ผมหวังเป็นอย่างยิ่งว่า กิจกรรมเพื่อสังคมของไทยยามาฮ่ามอเตอร์ในครั้งนี้ จะเป็นจุดเริ่มต้นที่ดีให้เกิดหมวกนิรภัยขนาดเล็กสำหรับเด็ก และเยาวชนไทยที่มีมาตรฐาน มีผู้ผลิตให้ความสำคัญ และสนใจผลิตหมวกนิรภัยขนาดเล็กออกสู่ท้องตลาดมากขึ้น เพื่อเป็นทางเลือกให้ผู้ปกครองได้นำให้บุตรหลานได้ใช้งานต่อไป"

นายเธียรชัย ชูกิตติวิบูลย์ รองอธิบดีกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย กระทรวงมหาดไทย กล่าวถึงความร่วมมือในครั้งนี้ว่า "ก่อนอื่นผมต้องขอแสดงความยินดีกับ บริษัท ไทยยามาฮ่ามาเตอร์ จำกัด ที่ดำเนินธุรกิจในประเทศไทยมาเป็นระยะเวลา 60 ปี แสดงถึงความเชื่อมั่นของคนไทยในผลิตภัณฑ์ "YAMAHA" ในส่วนของกรมป้องกัน และบรรเทาสาธารณภัย ภายใต้กระทรวงมหาดไทย เป็นหน่วยงานที่ถือกำเนิดขึ้นเพื่อจัดการสาธารณภัยอย่างเป็นระบบ โดยมีภารกิจหน้าที่ในการจัดทำแผนแม่บท วางมาตรการ ส่งเสริมสนับสนุน การป้องกัน บรรเทา และฟื้นฟูจากสาธารณภัย รวมทั้งติดตามประเมินผล เพื่อให้เกิดความมั่นคงปลอดภัยในชีวิตและทรัพย์สินของประชาชน โดยมีศูนย์อำนวยการความปลอดภัยทางถนน เรียกโดยย่อว่า "ศปถ." มีรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย เป็นผู้อำนวยการศูนย์ฯ และมีคณะกรรมการศูนย์อำนวยการความปลอดภัยทางถนน เรียกโดยย่อว่า "คณะกรรมการ ศปถ." มีหน้าที่หลักในการดำเนินการเกี่ยวกับการจัดทำนโยบาย ยุทธศาสตร์ แผนแม่บท แผนงานด้านการป้องกัน และลดอุบัติเหตุทางถนน ปฏิบัติงานร่วมกับหรือสนับสนุนการปฏิบัติงานของหน่วยงานอื่นที่เกี่ยวข้อง ทั้งนี้ ทางกรมฯ ขอสนับสนุน และขอขอบคุณทางบริษัท ไทยยามาฮ่ามอเตอร์ จำกัด และภาคเอกชนที่ร่วมจัดทำ โครงการหมวกกันน็อกยามาฮ่าขนาดเล็กเพื่อสังคม ซึ่งนับเป็นโครงการตัวอย่างที่ดีโครงการหนึ่งที่จะช่วยสนับสนุนขับเคลื่อน การรณรงค์เพื่อป้องกัน และลดความสูญเสียจากอุบัติเหตุทางท้องถนนในประเทศไทย ที่เป็นวาระแห่งชาติ ที่เราทุกคนควรร่วมมือกัน"

นายอุกฤษณ์ ภาควิวรรธ รองผู้จัดการใหญ่วางแผนการค้าและการตลาด บริษัท ไทยยามาฮ่ามอเตอร์ จำกัด กล่าวเพิ่มเติมถึง โครงการหมวกกันน็อกยามาฮ่าขนาดเล็ก (หมวกกันน็อกขนาดเล็กที่มีมาตรฐานผลิตภัณฑ์อุตสาหกรรม - มอก.) ในครั้งนี้ว่า "เนื่องในวาระโอกาสครบรอบ 60 ปี ของบริษัท ไทยยามาฮ่ามอเตอร์ จำกัด เราได้จัดกิจกรรม และโครงการที่หลากหลาย ที่มีส่วนร่วมของผู้จำหน่าย และลูกค้าในทุกๆ กิจกรรม โดยเฉพาะอย่างยิ่งโครงการเพื่อสังคมด้านความปลอดภัยทางท้องถนน เพื่อลดการสูญเสียจากการเกิดอุบัติเหตุ ด้วยความตระหนักถึงความปลอดภัยของผู้ขับขี่ และผู้โดยสารรถจักรยานยนต์ ซึ่งที่ผ่านมาทางบริษัทฯ ได้ดำเนินกิจกรรมเกี่ยวกับความปลอดภัยทางท้องถนนอย่างต่อเนื่อง และในครั้งนี้ ถือเป็นโอกาสอันดี ทางบริษัทฯ จึงได้ผลิตรถจักรยานยนต์รุ่นพิเศษ "YAMAHA FINO FINAL EDITION" จำนวน 999 คัน ออกจำหน่าย เพื่อนำรายได้หลังจากหักค่าใช้จ่ายไปพัฒนา และผลิตหมวกนิรภัยขนาดเล็กที่มีมาตรฐานผลิตภัณฑ์อุตสาหกรรม (มอก.) จำนวน 12,000 ใบ เป็นการระดมทุนจากลูกค้าเพื่อลูกค้า และทางยามาฮ่าได้สมทบทุนเพิ่มเติม เพื่อให้สังคมนี้น่าอยู่ร่วมกัน โดยทางบริษัทฯ ร่วมมือกับร้านผู้จำหน่ายรถจักรยานยนต์ยามาฮ่าทั่วประเทศ นำหมวกนิรภัยขนาดเล็กที่ได้มาตรฐานการผลิต ไปบริจาคให้กับหน่วยงานต่างๆ ของภาครัฐ สถานศึกษา และหน่วยงานเอกชนต่างๆ ที่เกี่ยวข้อง เพื่อส่งต่อให้กับเด็ก และเยาวชน รวมถึงสุภาพสตรีที่มีขนาดศีรษะขนาดเล็ก ได้ใช้หมวกนิรภัยที่เหมาะสมกับขนาดของศีรษะ และได้ใช้หมวกนิรภัยที่ได้มาตรฐานการในการผลิต ซึ่งในโอกาสนี้ถือเป็นการประชาสัมพันธ์ให้ผู้ขับขี่รถจักรยานยนต์ และประชาชนทั่วไป ได้ตระหนักถึงความปลอดภัย และรับรู้ถึงโครงการนี้
นอกจากนี้ ยามาฮ่ายังได้รณรงค์การใส่หมวกนิรภัยด้วย โดยจัดทำ VDO รณรงค์การใส่หมวกนิรภัย เผยแพร่ในช่องทางต่างๆ ทั้งของบริษัทฯ และผู้จำหน่ายทั่วประเทศ รวมถึงทำกิจกรรมร่วมกับผู้จำหน่ายทั่วประเทศเพื่อให้เกิดการรับรู้ ให้ความรู้ และรณรงค์อย่างแพร่หลาย รวมถึงหน่วยงานรัฐต่างๆ ที่มีหน้าที่ดูแลความปลอดภัยบนท้องถนน สุดท้ายนี้ ผมหวังเป็นอย่างยิ่งที่จะให้กิจกรรมเพื่อสังคมของไทยยามาฮ่ามอเตอร์ในครั้งนี้ เป็นจุดเริ่มต้นที่ดีในการกระตุ้นที่ให้ผู้ผลิตหมวกนิรภัยร่วมกันผลิตหมวกขนาดเล็กสำหรับเด็ก เยาวชน และสุภาพสตรีที่มีขนาดศีรษะขนาดเล็กที่ได้รับมาตรฐานการผลิตที่แท้จริง ออกสู่ท้องตลาดมากขึ้น เพื่อเป็นทางเลือกให้ผู้บริโภคได้เลือกใช้ให้เหมาะสมต่อไป"

นายองอาจ ฉัตรวรชัย ผู้จัดการ บริษัท เอส.วาย.เค. ออโต้พาร์ต อิมปอร์ต-เอ็กซ์ปอร์ต จำกัด ได้กล่าวถึงความร่วมมือในการพัฒนา และผลิตหมวกนิรภัยขนาดเล็กที่ได้รับมาตรฐานอุตสาหกรรมว่า "ก่อนอื่นทางบริษัท เอส.วาย.เค. ออโต้พาร์ต อิมปอร์ต-เอ็กซ์ปอร์ต จำกัด รู้สึกเป็นเกียรติ และขอขอบคุณบริษัท ไทยยามาฮ่ามอเตอร์ จำกัด ที่มอบความไว้วางใจให้บริษัทฯ ของเราได้ร่วมเป็นส่วนหนึ่งในการฉลองครบรอบ 60 ปี ไทยยามาฮ่ามอเตอร์ ในการผลิตหมวกนิรภัยขนาดเล็กที่ผ่านมาตรฐาน (มอก.) เพื่อนำไปบริจาคในกิจกรรมเพื่อสาธารณะประโยชน์ของไทยยามาฮ่า ปัจจุบันโรงงานของเรา ถือเป็นโรงงานที่มีศักยภาพสูง และมีกำลังการผลิตกว่า 7,000 ใบ ต่อวัน มียอดขายเป็นอันดับต้นๆ ของประเทศไทย ซึ่งในปี 2566 มียอดขายหมวกนิรภัยกว่า 1,000,000 ใบทั่วโลก โดยมียอดจำหน่ายในประเทศไทยประมาณ 700,000 ใบ ต่างประเทศประมาณ 300,000 ใบ และเป็นโรงงานในประเทศไทยที่ผลิตหมวกนิรภัยตามมาตรฐานการผลิตเลขที่ มอก. 369-2557 ที่ถูกปรับปรุงใหม่ โดยยึดถือมาตรฐานการผลิตของยุโรปคือมาตรฐาน ECE-2205 และมาตรฐานการผลิตจากสหรัฐอเมริกาคือมาตรฐาน DOT FMVSS-218 ซึ่งสามารถผลิต และจำหน่ายหมวกนิรภัยได้มาตรฐานส่งออกไปต่างประเทศ กว่า 30 ประเทศทั่วโลก ซึ่งหมวกนิรภัยโดยทั่วไปที่ได้รับมาตรฐานนี้มีขนาดเล็กสุดเริ่มต้นที่เส้นรอบวงศีรษะ 50 เซนติเมตร ที่ผ่านมา บริษัทฯ ได้ทดลองผลิต และจำหน่ายหมวกขนาดเส้นรอบวงศีรษะขนาด 50 เซนติเมตร แล้วพบว่ายังไม่ตอบโจทย์กับผู้ใช้งานที่มีอายุน้อย หรือสุภาพสตรีที่มีขนาดศีรษะเล็กเท่าที่ควร เนื่องจากยังมีขนาดที่เล็กเกินไป โดยจะใช้ได้แต่เด็กเล็กที่ยังไม่เหมาะแก่การโดยสารรถจักรยานยนต์ ดังนั้น บริษัทฯ จึงได้ปรับเพิ่มขนาดหมวกให้มีขนาดเส้นรอบวงศีรษะที่ 54 เซนติเมตร ทำให้เด็กที่มีอายุระหว่าง 7 - 11 ปี รวมทั้งสุภาพสตรีที่มีขนาดศีรษะเล็ก สามารถสวมใส่ได้อย่างปลอดภัย

ซึ่งจากโครงการของทางไทยยามาฮ่ามอเตอร์ในครั้งนี้ ทางบริษัทฯ จะต่อยอดการผลิต และจำหน่ายหมวกนิรภัยขนาดเล็กที่ได้มาตรฐานอุตสาหกรรม (มอก.) สำหรับเด็ก เยาวชน และสุภาพสตรีที่มีขนาดศีรษะขนาดเล็กในราคาที่เหมาะสม เพื่อสนองนโยบายภาครัฐ ในการช่วยป้องกันการสูญเสียจากการเกิดอุบัติเหตุบนท้องถนน"

นายอนุรักษ์ ชัยวิเชียร ผู้อำนวยการกลุ่มควบคุมมาตรฐาน 6 สำนักงานมาตรฐานผลิตภัณฑ์อุตสาหกรรม กล่างถึงความร่วมมือในครั้งนี้ว่า "ในปัจจุบันประเทศไทยมีการผลิตและนำเข้าหมวกนิรภัย ซึ่งจะต้องเป็นไปตามมาตรฐาน มอก.369-2557 ที่สอดคล้องกับมาตรฐานสากล UNECE Regulation No. 22 โดยครอบคลุมหลายด้าน เพื่อประเมินความปลอดภัย และความทนทานของหมวกนิรภัย มีรายละเอียดการทดสอบ เช่น การทดสอบการดูดกลืนแรงกระแทก การทดสอบความคงรูป การทดสอบสายรัดคาง การทดสอบการคงตำแหน่งบนศีรษะ การทดสอบคุณลักษณะแผ่นบังลม (ถ้ามี) โดยการทดสอบเหล่านี้ออกแบบมาเพื่อให้แน่ใจว่าหมวกนิรภัยที่ผ่านมาตรฐาน มอก. 369-2557 มีความปลอดภัยสูงสุดเมื่อใช้งานจริงบนท้องถนน โดยเฉพาะในสถานการณ์ที่เกิดการกระแทกหรืออุบัติเหตุ ซึ่งมาตรฐานนี้มีผลบังคับใช้ตั้งแต่วันที่ 28 สิงหาคม 2559 เป็นต้นมา โดยผู้ผลิต และผู้นำเข้าหมวกนิรภัย จะต้องได้รับใบอนุญาตจาก สมอ. ก่อนที่จะผลิตหรือนำเข้ามาจำหน่ายจ่ายแจก และต้องปฏิบัติตามพระราชบัญญัติมาตรฐานผลิตภัณฑ์อุตสาหกรรม พ.ศ. 2511 อย่างเคร่งครัด และหากพบว่ามีการกระทำความผิดจะถูกดำเนินคดีตามพระราชบัญญัติดังกล่าว

ทั้งนี้ บทลงโทษเป็นไปเพื่อปกป้องคุ้มครองผู้บริโภค เพื่อให้รับความปลอดภัยจากการใช้สินค้าที่มีคุณภาพ สำหรับการเลือกซื้อหมวกนิรภัยสำหรับผู้ใช้รถจักรยานยนต์ ควรพิจารณาสังเกตเครื่องหมาย มอก. พร้อม QR Code ที่แสดงอยู่บนผลิตภัณฑ์หรือกล่องบรรจุ ที่ผู้บริโภคสามารถสแกน QR Code เพื่อตรวจสอบรายละเอียดผลิตภัณฑ์ของผู้ผลิตหรือผู้นำเข้า ที่ได้รับอนุญาตจาก สมอ. ได้ ทั้งนี้ หากพบว่าไม่เป็นไปตามที่กำหนด สามารถแจ้งหรือร้องเรียนมาที่ สมอ. ผ่านเว็บไซต์ www.tisi.go.th และอย่าซื้อผลิตภัณฑ์ที่ไม่ได้มาตรฐาน มอก. หากเกิดอุบัติเหตุอาจได้รับอันตรายร้ายแรงถึงชีวิต เนื่องจากผลิตภัณฑ์ไม่เป็นไปตามมาตรฐาน แต่หากใช้หมวกนิรภัยที่ได้มาตรฐานก็จะช่วยลดความสูญเสียลงได้"

นายแพทย์อนุชา เศรษฐเสถียร ผู้ทรงคุณวุฒิ คณะกรรมการศูนย์อำนวยการความปลอดภัยทางถนน ได้กล่าวเพิ่มเติมถึงความร่วมมือในการพัฒนาและผลิตหมวกนิรภัยขนาดเล็กที่ได้รับมาตรฐานอุตสาหกรรมว่า "ก่อนอื่นผมต้องขอแสดงความยินดีกับ บริษัท ไทยยามาฮ่ามอเตอร์ จำกัด ที่ดำเนินธุรกิจในประเทศไทยมาถึง 60 ปี และยินดีกับการมุ่งพัตนามาตรฐานหมวกนิรภัยสำหรับรถจักรยานยนต์ โดยเฉพาะหมวกนิรภัยขนาดเล็กเพื่อเด็ก เยาวชน และสุภาพสตรี ให้ได้ใช้หมวกนิรภัยที่ได้รับมาตรฐานการผลิต เพื่อลดการสูญเสียเมื่อเกิดอุบัติเหตุจากรถจักรยานยนต์บนท้องถนน ซึ่งประเทศไทยรับหลักการข้อตกลงของมติสมัชชาใหญ่สหประชาชาติที่ 74/299 "ประกาศทศวรรษแห่งความปลอดภัย ทางถนนในปี ค.ศ. 2021 - 2030" (Decade of Action for Road Safety 2021 - 2030) และได้ประกาศเป็นเป้าหมายของแผนแม่บทความปลอดภัยทางถนนฉบับปัจจุบันแล้วว่า มุ่งลดจำนวนผู้เสียชีวิตบนท้องถนนลงให้ได้เกินครึ่งหนึ่งภายในปี พ.ศ. 2570 คือเหลือเพียงประมาณ 8,000 กว่าราย นั่นคือลดลงเกินครึ่งเร็วขึ้นกว่าข้อตกลงจากเวทีโลก โดยจากสถิติของการเกิดอุบัติเหตุในปี พ.ศ. 2565 มีจำนวนผู้เสียชีวิตจากอุบัติเหตุจราจร ประมาณ 17,000 ราย กว่าร้อยละ 80 เกิดกับผู้ขับขี่รถจักรยานยนต์ และสาเหตุสำคัญที่ทำให้เสียชีวิตเกิดจากการไม่สวมใส่หมวกนิรภัยหรือหมวกกันน็อก โดยในประเทศไทยมีผู้ขับขี่รถจักรยานยนต์ที่สวมหมวกนิรภัยเพียงร้อยละ 40 - 50% ซึ่งถือว่าน้อยหากเปรียบเทียบกันกับประเทศอื่นๆ และยิ่งไปกว่านั้นผู้ที่โดยสารรถจักรยานยนต์ในประเทศไทยมีผู้ที่สวมหมวกนิรภัยเป็นจำนวนน้อยมากๆ การเสียชีวิตด้วยอุบัติเหตุจากรถจักรยานยนต์จึงมีความแตกต่างกัน โดยคนที่ไม่สวมหมวกนิรภัยเสียชีวิตมากกว่าคนที่สวมหมวกนิรภัยถึงร้อยละ 40% แปลว่า ถ้าคนไทยร่วมใจสวมหมวกนิรภัยมากขึ้น การเสียชีวิตโดยรวมของไทยน่าจะลดลงได้อย่างรวดเร็ว ซึ่งการรณรงค์ และบังคับให้ทุกคนสวมหมวกนิรภัย เป็นกุญแจสำคัญที่จะลดการบาดเจ็บ และการเสียชีวิตบนท้องถนนได้ แต่การสร้างความมั่นใจว่าทุกคนจะได้สวมหมวกนิรภัยที่มีมาตรฐาน มีคุณภาพ ไม่แพงเกินเอื้อม สามารถสวมใส่ และรัดคางได้อย่างถูกต้อง จึงเป็นโจทย์ที่ท้าทาย และเร่งด่วนมากในขณะนี้ เพื่อจะได้ไม่เพียงลดการเสียชีวิต แต่ยังคงปกป้องการกระทบกระเทือนต่อสมอง โดยเฉพาะสมองของเด็ก และเยาวชน"

สำหรับหมวกนิรภัยขนาดเล็กภายใต้ "โครงการหมวกกันน็อกยามาฮ่าขนาดเล็ก" (หมวกกันน็อกขนาดเล็กที่มีมาตรฐานผลิตภัณฑ์อุตสาหกรรม - มอก.) ได้มีการออกแบบโดย บริษัท ไทยยามาฮ่ามอเตอร์ จำกัด เน้นสีสันที่สดใส มีขนาดเส้นผ่าศูนย์กลางอยู่ที่ 54 เซนติเมตร เหมาะกับเด็ก และเยาวชน อายุระหว่าง 7 - 11 ปี หรือ สุภาพสตรีที่มีศีรษะขนาดเล็ก ควบคุมการพัฒนา และผลิตโดย บริษัท เอส.วาย.เค. ออโต้พาร์ต อิมปอร์ต-เอ็กซ์ปอร์ต จำกัด ซึ่งเป็นโรงงานผลิตหมวกนิรภัยชั้นนำของประเทศไทย ภายใต้แบรนด์สินค้า INDEX ซึ่งเป็นโรงงานที่ผลิตหมวกนิรภัยตามมาตรฐานการผลิตเลขที่ มอก. 369-2557 ที่ถูกปรับปรุงใหม่ จึงมั่นใจได้ว่าหมวกนิรภัยในโครงการฯ เป็นหมวกนิรภัยที่ได้มาตรฐาน สามารถสวมใส่ได้อย่างมั่นใจ ช่วยป้องกันอุบัติเหตุและลดการบาดเจ็บสูญเสียบนท้องถนน

โดยบริษัท ไทยยามาฮ่ามอเตอร์ จำกัด จะมีการผลิตจำนวน 12,000 ใบ และจะบริจาคส่งมอบให้กับหน่วยงานภาครัฐ สถานศึกษา และหน่วยงานเอกชนที่เกี่ยวข้อง ภายในปี 2567 โดยร่วมกับผู้จำหน่ายในแต่ละพื้นที่ในการส่งมอบหมวกนิรภัยที่ได้มาตรฐานให้กับเด็ก และเยาวชน เพื่อสร้างความปลอดภัยบนท้องถนนต่อไป

ที่มา: ไทยยามาฮ่ามอเตอร์

ฉลองครบรอบ 60 ปี ไทยยามาฮ่ามอเตอร์ ร่วมสานต่อกิจกรรมเพื่อสังคม เปิด โครงการหมวกกันน็อกยามาฮ่าขนาดเล็ก

ข่าวประชาสัมพันธ์ล่าสุด

๒๐ ธ.ค. ASMT ผนึก TFT ร่วมลงนามด้านวิชาการด้านอุตสาหกรรมการบิน
๒๐ ธ.ค. กรมวิชาการเกษตร เดินหน้า ถ่ายทอดองค์ความรู้การผลิตอะโวคาโดคุณภาพ สร้างรายได้เพิ่มให้เกษตรกรกว่า 2 แสนบาท/ไร่
๒๐ ธ.ค. Dow มุ่งพัฒนาประสิทธิภาพผลิตภัณฑ์ Personal Care ควบคู่ความยั่งยืน ตอบโจทย์ผู้บริโภคตลาดเครื่องสำอางในภูมิภาคเอเชีย
๒๐ ธ.ค. โอซีซี มอบความรู้ พัฒนาอาชีพให้ผู้ต้องขังหญิง
๒๐ ธ.ค. ดร.นุชนารถ ชลคงคา นำทีมสถาบัน ESTC จัดอบรมให้ Karmakamet
๒๐ ธ.ค. กนภ. เห็นชอบร่าง พรบ. การเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ กลไกสำคัญสู่เส้นทางเศรษกิจคาร์บอนต่ำ และมีภูมิคุ้มกันฯ
๒๐ ธ.ค. WePlay x คอลแลบตัวละครสุดปัง! พบกับมินิเกมใหม่ และการ์ตูนสุดน่ารักที่คุณจะต้องหลงรัก
๒๐ ธ.ค. เดลต้า ประเทศไทย และ WEnergy Global ร่วมลงนามบันทึกข้อตกลงเพื่อขับเคลื่อนอนาคตพลังงานสีเขียว
๒๐ ธ.ค. ความภาคภูมิใจของ ไลอ้อน กับ 3 รางวัลแห่งเกียรติยศ เผยผลงานโดดเด่นกับหลายรางวัลที่ได้รับในปี 2567
๒๐ ธ.ค. NOBLE คว้าเรทติ้งสูงสุด ระดับ AAA SET ESG Ratings ประจำปี 2567 ยกระดับองค์กรสู่ความยั่งยืนภายในแนวคิด Live Different ตามกรอบ