ล่าสุดในปีนี้บริษัทฯ ยังคงขานรับนโยบายดังกล่าวอย่างต่อเนื่อง ด้วยการเปลี่ยนรูปแบบการใช้พลังงานไฟฟ้าในการดำเนินธุรกิจจากเดิมที่ใช้ไฟฟ้าพลังงานน้ำ (Hydroelectric) มาตั้งแต่ปี 2023 เปลี่ยนเป็นการใช้ไฟฟ้าจากแหล่งผลิตไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์ หรือโซลาร์เซลล์ลอยน้ำไฮบริดเขื่อนสิรินธร (Sirindhorn Hydro-Floating Solar System) จ.อุบลราชธานีแทน ทั้งนี้ด้วยข้อจำกัดของพื้นที่ภูมิประเทศที่เหมาะสมของประเทศไทย การเลือกใช้พลังงานแสงอาทิตย์จะช่วยรักษาสิ่งแวดล้อมและประหยัดทรัพยากรต่าง ๆ ได้ดีกว่า และเมื่อเปรียบเทียบปริมาณพลังงานไฟฟ้าของบริษัทฯ เฉลี่ยต่อปีหรือต่ำกว่าที่ประมาณ 1,450 MWh แล้วนั้น สามารถลดการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซน์ได้ถึง 815 ตัน หรือเทียบเท่าการปลูกต้นไม้ถึง 33,600 ต้น จากเดิม 31,400 ต้น
นอกจากนี้บริษัทฯ ยังมีแผนการดำเนินงานด้านสิ่งแวดล้อมโดยจะขยายขอบเขตไปยังทุกภาคส่วนที่เกี่ยวข้องกับธุรกิจ เพื่อมุ่งสู่ความเป็นกลางทางคาร์บอน (Carbon Neutrality) ภายในปี 2030 และการปลดปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์เป็นศูนย์ (Net-Zero Carbon Emission) ภายในปี 2050 เพื่อโลกที่ยั่งยืนต่อไป
ที่มา: มิตซูบิชิ อีเล็คทริค กันยงวัฒนา