รศ.ดร.สาโรช รุจิรวรรธน์ ผู้อำนวยการสถาบันวิจัยแสงซินโครตรอน และนายจาตุรงค์ สุริยาศศิน รองผู้ว่าการธุรกิจ การไฟฟ้านครหลวง ร่วมลงนามในสัญญาให้บริการโครงการติดตั้งและบำรุงรักษาอุปกรณ์ประหยัดพลังงานในระบบการผลิตไฟฟ้าจากพลังงานทดแทน หรือพลังงานทางเลือก ในพื้นที่สถาบันวิจัยแสงซินโครตรอน (องค์การมหาชน) วันที่ 19 มีนาคม 2567 ณ อาคารวัฒนวิภาส การไฟฟ้านครหลวง สำนักงานใหญ่คลองเตย
นายจาตุรงค์ สุริยาศศิน รองผู้ว่าการธุรกิจ การไฟฟ้านครหลวง กล่าวว่า "MEA ในฐานะหน่วยงานรัฐวิสาหกิจ มีหน้าที่ดูแลระบบจำหน่ายไฟฟ้าในพื้นที่กรุงเทพมหานคร นนทบุรี และสมุทรปราการ ขับเคลื่อนนโยบายภาครัฐด้านพลังงานหมุนเวียน พร้อมให้ความร่วมมือทุกภาคส่วนส่งเสริมดำเนินตามนโยบายภาครัฐ โดย MEA มีความยินดีอย่างยิ่ง ที่ได้ร่วมมือกับ สถาบันวิจัยแสงซินโครตรอน (องค์การมหาชน) ในครั้งนี้ โดยให้บริการการติดตั้ง Solar Rooftop ขนาด 911.90 kWp จะทำให้ลดการใช้พลังงานจากฟอสซิลประมาณ 1,180.93 MWh/ปี ประหยัดค่าไฟฟ้าได้ประมาณ 1.78 ล้านบาท/ปี และคาดว่าจะลดการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ได้ประมาณ 519.73 tonCo2/ปี เทียบเท่ากับการปลูกต้นสักประมาณ 295.30 ต้น/ปี ทั้งนี้ โครงการดังกล่าวยังเป็นไปตามเป้าหมาย Carbon Neutrality ภายในปี ค.ศ. 2050 เพื่อบรรลุเป้า Net Zero Emissions ภายในปี ค.ศ. 2065 ตามแผนพัฒนาพลังงานของประเทศ"
รศ.ดร.สาโรช รุจิรวรรธน์ ผู้อำนวยการสถาบันวิจัยแสงซินโครตรอน กล่าวว่า "สถาบันฯ ได้รับนโยบายรัฐบาลที่ให้หน่วยงานราชการลดต้นทุนค่าใช้จ่ายด้านการใช้ไฟฟ้า กอปรกับการไฟฟ้านครหลวงมีความเชี่ยวชาญในเทคโนโลยีจำหน่ายกระแสไฟฟ้าด้วยระบบการใช้พลังงานทดแทน จึงนำมาสู่การลงนามร่วมสัญญาการติดตั้งระบบไฟฟ้าจากพลังงานแสงอาทิตย์แบบติดตั้งบนหลังคา ขนาด 911.90 กิโลวัตต์สูงสุด (kWp) ในพื้นที่อาคารสิรินธรวิชโชทัย และอาคารปฏิบัติการแสงสยาม ซึ่งจะให้พลังงานไฟฟ้าที่ครอบคลุมการใช้งานของอาคารสำนักงานทั้งหมด"
"โครงการที่จะเกิดขึ้นนี้ ถือเป็นโอกาสที่ดีของสถาบัน ฯ ที่จะได้มีส่วนร่วมในการใช้พลังงานทางเลือกที่ยั่งยืน และเกิดประสิทธิภาพสูงสุด สนับสนุนและขับเคลื่อนนโยบายการพัฒนาที่ยั่งยืนตามหลักสากล ซึ่งยังส่งผลให้ลดการพึ่งพาการนำเข้าเชื้อเพลิงฟอสซิลจากต่างประเทศ และที่สำคัญจะเป็นการดำเนินการตามแนวนโยบายแห่งรัฐ และกระทรวง อว. เรื่องการอนุรักษ์พลังงานและใช้พลังงานอย่างรู้คุณค่า และยังสอดคล้องกับนโยบายเพื่อบรรลุความเป็นกลางทางคาร์บอนตามเป้าหมาย Carbon Neutrality ภายในปี ค.ศ. 2050 และบรรลุเป้า Net Zero Emissions ภายในปี ค.ศ. 2065 ซึ่ง โครงการฯ นี้ ถือเป็นความรับผิดชอบต่อสังคมและสิ่งแวดล้อมของทั้ง 2 หน่วยงาน โดยมุ่งเน้นในการลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกของประเทศ สอดคล้องกับรูปแบบการพัฒนาเศรษฐกิจ BCG Economy Model ในด้าน Green Economy หรือ เศรษฐกิจสีเขียว ที่คำนึงถึงการดำเนินกิจกรรมขององค์กรที่ส่งผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมต่ำ ลดภาวะโลกร้อน และเป็นการพัฒนาที่ยั่งยืนเพื่อประโยชน์ต่อทั้งสถาบัน ฯ สังคม ประชาชน และโลกของเรา"
สำหรับผู้สนใจจะติดตั้งระบบผลิตไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์บนหลังคา (Solar Rooftop) ที่ได้มาตรฐานความปลอดภัยของ MEA สามารถสอบถามรายละเอียดได้ที่ ศูนย์บริการข้อมูลผู้ใช้ไฟฟ้าการไฟฟ้านครหลวง MEA Call Center 1130
ที่มา: สถาบันวิจัยแสงซินโครตรอน