การจัดประกวดสุดยอดกาแฟไทยได้โดยดำเนินการตามยุทธศาสตร์กาแฟแห่งชาติเพื่อสร้างรายได้ให้กับเกษตรกรผู้ปลูกกาแฟ และเสริมสร้างสายพันธุ์กาแฟที่มีคุณภาพและมีความหลากหลายในประเทศไทย รวมทั้งส่งเสริมและสนับสนุนเกษตรกรผู้ปลูกกาแฟและอุตสาหกรรมกาแฟพัฒนาและปรับปรุงกระบวนการผลิตกาแฟ เพื่อให้ได้ผลิตภัณฑ์ที่มีคุณภาพสูงสุดและเป็นที่ยอมรับ โดยในปี 2567 นี้จะเป็นการเพิ่มพื้นที่สีเขียว ส่งผลต่อการลดปัญหาฝุ่นควัน หรือ PM2.5 มุ่งสู่มาตรฐาน "การผลิตพืช GAP PM 2.5 Free" สร้างความเข้มแข็งให้กับกาแฟไทย และส่งมอบกาแฟที่เป็นอัตลักษณ์ของไทยพร้อมผลักดันเข้าสู่เวทีสากล โดยเปิดรับสมัครด้วยกัน 5 กิจกรรม ดังนี้
กิจกรรมที่ 1 ประกวดกาแฟอะราบิกาและโรบัสตาที่ปลูกในประเทศไทย โดยแบ่งการประกวด 4 ประเภท คือ กาแฟอะราบิกากระบวนการแปรรูป Dry Process หรือ Natural Process กาแฟ อะราบิกากระบวนการแปรรูป Wet Process หรือ Washed Process กาแฟอะราบิกากระบวนการแปรรูป Honey Process หรือ Semi-Washed Process และกาแฟโรบัสตา (ไม่แยกกระบวนการแปรรูป)กิจกรรมที่ 2 ประกวดการปฏิบัติทางการเกษตรที่ดีสำหรับสวนกาแฟเพื่อความยั่งยืน การประกวดสวนกาแฟต้นแบบที่ได้มาตรฐานการรับรอง GAP จากกรมวิชาการเกษตรกิจกรรมที่ 3 แข่งขันการดริปกาแฟ ประเภทเกษตรกร และ ประเภทบุคคลทั่วไปกิจกรรมที่ 4 การประกวดร้านกาแฟสีเขียว ประกวดร้านกาแฟที่มีส่วนช่วยส่งเสริมและสนับสนุนอุตสาหกรรมกาแฟไทย เช่น การรับซื้อผลผลิตจากเกษตรกรภายในประเทศในราคาที่ยุติธรรม การส่งเสริมให้ความรู้กับเกษตรกรผู้ปลูกกาแฟ การใช้วัสดุอุปกรณ์ภายในร้านที่มาจากวัสดุเหลือใช้ และการสร้างสรรเมนูพิเศษจากกาแฟพิเศษของประเทศไทยกิจกรรมที่ 5 กิจกรรม TOGETHER COFFEE RUN กิจกรรมการวิ่งเส้นทางสายกาแฟเพื่อสุขภาพ และท่องเที่ยวศูนย์วิจัยเกษตรหลวงเชียงใหม่ (สถานีขุนวาง - สถานีแม่จอนหลวง) ซึ่งเป็นหน่วยงานหลักในการพัฒนากาแฟไทยของกรมวิชาการเกษตร
"สำหรับผู้ที่ชนะเลิศการประกวดในแต่ละประเภทจะได้รับถ้วยพระราชทานสมเด็จพระกนิษฐาธิราชเจ้า กรมสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี และจะถูกนำมาจัดประมูลในงาน สุดยอดกาแฟไทยประจำปี 2567 ผู้ที่สนใจสามารถสมัครเข้าร่วมกิจกรรมการประกวดได้ตั้งแต่เดือนมีนาคม-มิถุนายน 2567 สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่หน่วยงานของกรมวิชาการเกษตรทั้งในส่วนกลางและส่วนภูมิภาค ได้แก่ สถาบันวิจัยพืชสวน สำนักวิจัยและพัฒนาการเกษตรเขตที่ 1 จ.เชียงใหม่ ศูนย์วิจัยเกษตรหลวงเชียงใหม่ และศูนย์วิจัยพืชสวนชุมพร" อธิบดีกรมวิชาการเกษตร กล่าว
ที่มา: กรมวิชาการเกษตร