ดร.วิจิตร เตชะเกษม กรรมการผู้จัดการ บริษัท ฟิลเตอร์ วิชั่น จำกัด (มหาชน)"FVC" เปิดเผยว่า บริษัทฯ ยังคงมุ่งเน้นขยายงานต่อเนื่องทั้งใน 3 กลุ่มธุรกิจ เพื่อให้การเติบโตของรายได้เป็นไปตามเป้าที่วางไว้ 30% โดยเฉพาะ กลุ่มธุรกิจอุตสาหกรรมและผู้ประกอบการด้านระบบน้ำ (B1) โดยขณะนี้บริษัทฯ ได้ รับคำสั่งซื้อจากลูกค้าแล้ว 11 งาน มูลค่ารวม 49.15 ล้านบาท และคาดว่าจะทยอยติดตั้งให้แล้วเสร็จภายในไตรมาส 1-2 ปี 2567 นอกจากนี้ยังได้ปรับกลยุทธ์การเพิ่มช่องทางการขายในตลาดทั้งในกลุ่มลูกค้าใหม่ และลูกค้าเดิมควบคู่กับการนำเสนอสินค้าใหม่ในกลุ่มลูกค้าเดิมเพื่อเพิ่มยอดขาย และผลักดันให้อัตรากำไรขั้นต้นปรับตัวขึ้น พร้อมทั้งเพิ่มการลงทุนในทรัพยากรเพื่อผลักดันให้สามารถเร่งยอดขายและสามารถรับรู้รายได้ เร็วยิ่งขึ้น
กลุ่มธุรกิจพาณิชย์และที่อยู่อาศัย (B2) โดยปีนี้บริษัทฯ จะโฟกัสที่กลุ่มลูกค้าร้านอาหาร และเครื่องดื่ม รวมถึงงานซ่อมบำรุง ควบคู่กับการนำเสนอผลิตภัณฑ์ใหม่ที่มีความต้องการทั้งในตลาดลูกค้ากลุ่มเดิม และลูกค้ากลุ่มใหม่ๆ ซึ่งคาดว่าปีนี้จะมีคำสั่งซื้อจากลูกค้าเข้ามามากขึ้น พร้อมทั้งมุ่งเน้นเสนองานซ่อมบำรุง (MA) ที่ดูแลลูกค้าแบบ Total Solutions Provider ที่ช่วยให้ลูกค้าสามารถประกอบธุรกิจ ได้อย่างต่อเนื่องและเป็นฐานรายได้ที่มั่นคงของบริษัท ในขณะเดียวกันบริษัทฯ นำเสนอผลิตภัณฑ์ใหม่ที่มีความต้องการทั้งในตลาดลูกค้ากลุ่มเดิมและลูกค้ากลุ่มใหม่ที่บริษัทฯ ยังไม่ได้เข้าทำการตลาด โดยคาดว่าจะได้ คำสั่งซื้อจากลูกค้าในผลิตภัณฑ์ของบริษัทฯ ในปี 2567
และกลุ่มธุรกิจบริการทางการแพทย์ (B3) ภายใต้การบริหารของ KTMS มี 4 ส่วนด้วยกันคือการ มีการขยายฐานการให้บริการเพิ่มขึ้นของ KTMS เอง โดยภายในไตรมาสที่ 1 ปี 2567 จะขยายสาขาประมาณ 1 - 2 สาขา และเครื่องไตเทียมประมาณ 6 - 24 เครื่อง ด้าน บริษัท เนโฟร วิชั่น จำกัด มีแผนเปิดสาขา 1 สาขา และซื้อเครื่องไตเทียมภายในไตรมาสที่ 1 ปี 2567 ประมาณ 8 - 12 เครื่อง บริษัท เออร์วิง คอร์ปอเรชั่น จำกัด ปัจจุบันบริษัทฯ ได้รับคำสั่งซื้องานติดตั้งระบบน้ำจากลูกค้าแล้ว 9 โครงการ มูลค่ารวม 7.77 ล้านบาท และงานปรับปรุงหน่วยไตเทียม 2 โครงการ มูลค่า 0.69 ล้านบาท คาดว่าจะติดตั้งให้แล้วเสร็จ ในไตรมาสที่ 1 ปี 2567 และบริษัท เมดิคอล วิชั่น จำกัด ปัจจุบันมีคำสั่งซื้องานติดตั้งท่อลมรับ-ส่ง สิ่งส่งตรวจทางการแพทย์จากลูกค้าแล้ว 7 โครงการ มูลค่ารวม 11.77 ล้านบาท ซึ่งอยู่ระหว่างการติดตั้งคาดว่าจะติดตั้งได้แล้วเสร็จในไตรมาสที่ 1 ปี 2567
ส่วนในปี 2566 บริษัทฯ มีรายได้จากการขายและบริการ 902.29 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 133.16 ล้านบาท หรือ 17.31% (YoY) และกำไรสุทธิที่ 98.95 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 59.29 ล้านบาท หรือ 149.50% จากการเติบโตของกลุ่มธุรกิจอุตสาหกรรมและผู้ประกอบการด้านระบบน้ำ (B1),กลุ่มธุรกิจพาณิชย์และที่พักอาศัย (B2)และกลุ่มธุรกิจบริการทางการแพทย์ (B3) ส่งผลให้บริษัทฯ สามารถประกาศจ่ายปันผลงวดปี 2566 ในอัตรา 0.01 บาทต่อหุ้น ซึ่งจะมีการขึ้นเครื่องหมาย XD วันที่ 9 พฤษภาคม 2567 และจ่ายปันผลในวันที่ 30 พฤษภาคม 2567
ที่มา: มีเดีย แพลนเนอร์ คอนซัลแทนท์