นายอนาวิล จิรธรรมศิริ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร (CEO) บริษัท เชาว์ สตีล อินดัสทรี้ จำกัด (มหาชน) หรือ CHOW ผู้ประกอบธุรกิจผลิตและจำหน่ายผลิตภัณฑ์เหล็กแท่งยาว (Steel Billet) รายใหญ่ของประเทศ และธุรกิจพลังงานทดแทนประเภทพลังงานแสงอาทิตย์ ผ่านบริษัท เชาว์ เอ็นเนอร์ยี่ จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า CHOW ได้ลงนามในบันทึกข้อตกลงความร่วมมือ (MOU - Memorandum Of Understanding) กับ บริษัท โทรคมนาคมแห่งชาติ จำกัด (มหาชน) หรือ NT เพื่อติดตั้งระบบผลิตไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์ (Solar) บนหลังคาอาคารของ บริษัท โทรคมนาคมแห่งชาติ จำกัด (มหาชน) ในพื้นที่ต่างๆ
โครงการดังกล่าว เกิดขึ้นจากความมุ่งมั่นนำแนวคิดเกี่ยวกับการพัฒนาองค์กรอย่างยั่งยืน หรือ ESG (Environment, Social และ Governance) ซึ่งให้ความสำคัญกับการทำธุรกิจ ที่คำนึงถึงความรับผิดชอบ 3 ด้านหลัก คือ สิ่งแวดล้อม สังคม และการกำกับดูแล เข้ามาใช้เป็นแนวทางในการดำเนินธุรกิจ โดยมีเป้าหมายเพื่อยกระดับธุรกิจเข้าสู่องค์กรคาร์บอนต่ำ ลดการปลดปล่อยก๊าซเรือนกระจก ควบคู่กับการลดต้นทุนด้านพลังงานในระยะยาว ของทั้ง CHOW และ NT โดยบริษัทฯ จะทำหน้าที่พัฒนาโครงการระบบผลิตไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์ ให้เหมาะสมกับความต้องการของ NT ในแต่ละสถานที่ เพื่อให้การใช้ไฟฟ้าจากพลังงานแสงอาทิตย์ บรรลุประโยชน์สูงสุดตามความต้องการของทั้งสองฝ่าย
"เนื่องจาก NT เป็นองค์กรที่ดูแลเรื่องโทรคมนาคมของประเทศและมีพื้นที่ให้บริการครอบคลุมในทุกภูมิภาค จึงใช้พลังงานไฟฟ้าเป็นปริมาณมากในแต่ละปี โดยปัจจุบัน NT มีความมุ่งมั่นที่จะเป็นองค์กรที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม และลดภาระค่าใช้จ่ายด้านพลังงานไฟฟ้า จึงต้องการนำไฟฟ้าที่ผลิตได้จากระบบผลิตไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์ ซึ่งเป็นพลังงานสะอาดและเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม มาใช้ควบคู่กับ ระบบไฟฟ้าหลักของการไฟฟ้า มีเป้าหมายเพื่อลด Carbon Footprint ลง และสนับสนุนนโยบายการอนุรักษ์พลังงาน โดยร่วมกับ CHOW ที่มีเทคโนโลยีที่ทันสมัยในการบริหารจัดการ มีความเข้าใจในการทำโครงการพลังงานแสงอาทิตย์ และมีประสบการณ์ในหลายรูปแบบ ทั้งในประเทศและต่างประเทศ ซึ่งสามารถนำมาใช้ในการพัฒนาโครงการและการก่อสร้าง รวมถึง การดำเนินการและบำรุงรักษาโครงการให้เกิดประสิทธิภาพสูงสุดในการใช้งานได้"
นายอนาวิล กล่าวอีกว่า ปัจจุบัน CHOW ได้รับการยอมรับอย่างกว้างขวางในฐานะผู้พัฒนาโครงการ ผู้ให้คำปรึกษาในธุรกิจโครงการผลิตไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์ ที่สามารถพัฒนาโครงการให้เกิดการใช้งานได้อย่างมีประสิทธิภาพสูงสุด คุ้มค่ากับเงินลงทุน โดยใช้วัสดุอุปกรณ์ที่ได้มาตรฐาน มีอายุการใช้งานยาวนาน และมีบริการหลังการขายที่ได้มาตรฐานตลอดอายุสัญญา ส่งผลให้ CHOW สามารถขยายธุรกิจได้อย่างรวดเร็ว โดยในปีนี้คาดว่าจะมีกำลังการผลิตรวมทะลุ 250 เมกะวัตต์และจะเพิ่มเป็น 400 เมกะวัตต์ในปี 2568
ที่มา: เค พลัส พีอาร์