อินเตอร์เนชั่นแนล เอสโอเอส เผยรายงานความเสี่ยงจากการเปลี่ยนแปลงของสภาพภูมิอากาศ ตอกย้ำความเร่งด่วนในการเตรียมความพร้อมรับมือ พร้อมให้คำแนะนำสำหรับภาคธุรกิจ

พุธ ๒๗ มีนาคม ๒๕๖๗ ๐๙:๓๙
อินเตอร์เนชั่นแนล เอสโอเอส (International SOS) บริษัทผู้ให้บริการด้านสุขภาพและความมั่นคงปลอดภัยชั้นนำของโลก ได้เผยแพร่รายงานประเมินแนวโน้มความเสี่ยง (The Risk Outlook 2024) ประจำปี 2567 ซึ่งชี้ให้เห็นถึงผลกระทบเชิงลึกจากการเปลี่ยนแปลงของสภาพภูมิอากาศมีต่อธุรกิจทั่วโลก รายงานฉบับนี้นำเสนอข้อมูลสถิติสำคัญ ซึ่งบ่งชี้ว่าผู้ตอบแบบสอบถามมีความตระหนักรู้เพิ่มขึ้นเกี่ยวกับผลลัพธ์ที่มีนัยสำคัญของปรากฏการณ์ที่เกี่ยวข้องกับสภาพภูมิอากาศและมีผลต่อการดำเนินงาน ตลอดจนความเป็นอยู่ที่ดีของพนักงาน
อินเตอร์เนชั่นแนล เอสโอเอส เผยรายงานความเสี่ยงจากการเปลี่ยนแปลงของสภาพภูมิอากาศ ตอกย้ำความเร่งด่วนในการเตรียมความพร้อมรับมือ พร้อมให้คำแนะนำสำหรับภาคธุรกิจ

รายงานดังกล่าวยังให้ข้อมูลเกี่ยวกับผลลัพธ์ที่หลากหลายซึ่งอาจจะส่งผลกระทบต่อคนทำงาน ไม่ว่าจะเป็นความเสี่ยงด้านสุขภาพที่เพิ่มขึ้น เช่น โรคภัยไข้เจ็บที่เกิดจากความร้อน และผลผลิตที่ลดลงอันเนื่องมาจากความร้อน นอกจากนี้ สภาพอากาศที่รุนแรงยังอาจทำให้ซัพพลายเชนทั่วโลกหยุดชะงักลงด้วย นอกเหนือจากผลกระทบทางกายภาพแล้ว สุขภาพจิตและการขาดงานก็เป็นปัจจัยสำคัญเช่นกัน ในขณะที่ความวิตกกังวลเกี่ยวกับสภาพอากาศส่งผลกระทบต่อผู้คนทั่วโลก 

นพ.จามร เงินจารี ผู้อำนวยการด้านการแพทย์ บริษัท อินเตอร์เนชั่นแนล เอสโอเอส ให้ความเห็นเกี่ยวกับแนวโน้มทางการแพทย์ดังกล่าวว่า "เรากำลังเผชิญกับพายุ ไฟป่า และมรสุมที่ทวีความรุนแรงมากขึ้นเรื่อย ๆ ในช่วงหลายปีที่ผ่านมา สภาพอากาศรุนแรงสุดขั้ว เช่น คลื่นความร้อนที่ส่งผลกระทบยุโรปจนถึงกับมีการตั้งชื่อให้เป็นครั้งแรกว่า "เซอร์เบอรัส" (Cerberus) ซึ่งอาจจะกลายเป็นเรื่องธรรมดาที่เกิดขึ้นไปแล้ว ทุกวันนี้ สภาพอากาศเป็นเรื่องที่น่ากังวลมากยิ่งขึ้น ไม่ว่าจะเป็นคุณภาพอากาศที่แย่ลง การแพร่ระบาดของโรคอุบัติใหม่ ไปจนถึงปัญหาสุขภาพจิตจากภัยพิบัติทางธรรมชาติและความวิตกกังวลเกี่ยวกับสภาพอากาศ ในความเป็นจริงนั้น มลพิษทางอากาศเป็นปัจจัยด้านสิ่งแวดล้อมอันดับต้น ๆ ที่ทำให้คนเราเจ็บป่วยและเสียชีวิตก่อนวัยอันควร ขณะที่รูปแบบของสภาพภูมิอากาศที่เปลี่ยนแปลงไปยังก่อให้เกิดการอุบัติและการแพร่ระบาดของโรคที่มีแมลงเป็นพาหะ (vector-borne disease) ในพื้นที่ที่ไม่เคยได้รับผลกระทบมาก่อนอีกด้วย นอกจากนี้ การเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศยังส่งผลเสียต่อสุขภาพจิตของผู้คน ซึ่งอาจจะส่งผลในทันทีและทำให้เกิดสภาวะป่วยทางจิตใจหลังเผชิญกับเหตุการณ์ที่กระทบกระเทือนจิตใจอย่างรุนแรงอันเนื่องมาจากภัยพิบัติทางธรรมชาติ หรือจากการเผชิญกับภัยพิบัติที่รุนแรงระดับโลกอย่างต่อเนื่อง ก่อให้เกิดความหวาดระแวงเรื่องสภาพอากาศและภาวะซึมเศร้าในระยะยาวได้"

สราวุฒิ ธัมจุล ผู้จัดการด้านความมั่นคงปลอดภัย บริษัท อินเตอร์เนชั่นแนล เอสโอเอส ได้แสดงความคิดเห็นว่า องค์กรต่าง ๆ ควรคำนึงถึงความสูญเสียที่อาจเกิดขึ้นเมื่อต้องเผชิญกับเหตุการณ์สภาพอากาศรุนแรงสุดขั้ว โดยการลงทุนเพื่อเตรียมรับมือกับสภาพอากาศช่วยเสริมสร้างความมั่นใจได้ว่าธุรกิจจะสามารถรับมือกับพายุหรือปัญหาได้ โดยคุณสราวุฒิ กล่าวว่า "แน่นอนว่าการเปลี่ยนแปลงของสภาพภูมิอากาศเป็นประเด็นสำคัญด้านสิ่งแวดล้อมที่หลายฝ่ายกังวล แต่ที่สำคัญกว่านั้นคือ เรื่องนี้ยังเป็นปัจจัยหลักที่เพิ่มความเสี่ยงให้กับบุคคลและบริษัทต่าง ๆ อีกด้วย แม้ว่า การเปลี่ยนแปลงของสภาพภูมิอากาศมักจะถูกละเลยในแง่ของการเป็นปัจจัยที่ทำให้เกิดความขัดแย้งหรือประเด็นด้านความมั่นคง แต่ผลกระทบของการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศก็เป็นปัจจัยที่ทำให้ความตึงเครียด ความเปราะบาง และความท้าทายในการดำเนินงานที่มีอยู่เดิมรุนแรงขึ้นอย่างมาก โดยผลกระทบที่สะสมมาจากการเปลี่ยนแปลงของสภาพภูมิอากาศอาจจุดชนวนเหตุการณ์ความไม่สงบ ความรุนแรง และปัญหาความมั่นคงในระดับสูงได้ อีกทั้งยังทำให้สถานการณ์ความไม่มั่นคงทางการเมืองและเศรษฐกิจสังคมที่มีอยู่เดิมขยายวงกว้างมากยิ่งขึ้น"

"องค์กรต่าง ๆ จึงควรติดตามเหตุการณ์เหล่านี้อย่างจริงจัง ให้ความสำคัญกับความพร้อมในการรับมือการเปลี่ยนแปลงของสภาพภูมิอากาศ และรวมมาตรการเชิงรุกเข้าไว้ในกรอบการดำเนินงานขององค์กร"

มาตรการ 5 อันดับแรกสำหรับองค์กร เพื่อลดความเสี่ยงจากการเปลี่ยนแปลงของสภาพภูมิอากาศและปกป้องบุคลากรในปี 2567

  1. พัฒนาแผนจัดการความเสี่ยงด้านสภาพภูมิอากาศอย่างครอบคลุม: ประเมินผลกระทบจากการเปลี่ยนแปลงของสภาพภูมิอากาศที่มีต่อการดำเนินงานอย่างมีกลยุทธ์ เพื่อนำข้อมูลที่ได้มาวางแผนกลยุทธ์ในการบรรเทาผลกระทบและการลงทุนได้อย่างมีประสิทธิภาพ
  2. ดึงพนักงานให้เข้ามามีส่วนร่วมทั้งองค์กร: ส่งเสริมความร่วมมือระหว่างฝ่ายทรัพยากรบุคคล ผู้จัดการบริหารความเสี่ยง และผู้บริหารระดับสูง โดยอาศัยความเชี่ยวชาญที่หลากหลายของแต่ละส่วน เพื่อรับมือกับความเสี่ยงที่เกี่ยวข้องกับสภาพภูมิอากาศ
  3. ยกระดับระเบียบด้านความปลอดภัยและเร่งเตรียมความพร้อมทางการแพทย์: สร้างระบบเพื่อสำรวจ ประเมิน และควบคุมความเสี่ยงด้านสุขภาพและความมั่นคงปลอดภัยที่เกี่ยวข้องกับการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ ทำความเข้าใจขีดความสามารถของสถานพยาบาลในท้องถิ่น และสร้างความมั่นใจเรื่องการเข้าถึงบริการทางการแพทย์เมื่อเกิดสถานการณ์หรือความผันผวน
  4. ให้การสนับสนุนทางด้านอารมณ์และความรู้สึกแก่พนักงาน: ดำเนินโครงการต่าง ๆ เพื่อบรรเทาผลกระทบด้านสุขภาพจิตจากการเปลี่ยนแปลงของสภาพภูมิอากาศที่มีต่อพนักงาน เช่น ความวิตกกังวล ความเครียด และสภาวะป่วยทางจิตใจหลังเผชิญกับเหตุการณ์ที่กระทบกระเทือนจิตใจอย่างรุนแรง (PTSD)
  5. ใช้ประโยชน์จากความเชี่ยวชาญและข้อมูลภายนอก: รู้จักหาข้อมูลเชิงลึกและการสนับสนุนจากผู้เชี่ยวชาญภายนอก เพื่อประเมินความเสี่ยงด้านความเปราะบางของสภาพอากาศ พร้อมศึกษาวิธีการที่ดีที่สุดในการรับมือกับความซับซ้อน เพื่อบริหารจัดการความเสี่ยงด้านสภาพภูมิอากาศได้อย่างมีประสิทธิภาพ

ในขณะที่ธุรกิจต่างเดินหน้าไปตามภูมิทัศน์ที่เปลี่ยนแปลงไปโดยมีการเปลี่ยนแปลงของสภาพภูมิอากาศเป็นปัจจัยกำหนดทิศทาง ทางอินเตอร์เนชั่นแนล เอสโอเอส พร้อมให้คำแนะนำและการสนับสนุนที่จำเป็น เพื่อสร้างความมั่นใจในเรื่องความปลอดภัยและความเป็นอยู่ที่ดีของพนักงานทั่วโลก

About the International SOS Group of Companies

The International SOS Group of Companies is in the business of saving lives, protecting your global workforce from health and security threats. Wherever you are, we deliver customised health, security risk management and wellbeing solutions to fuel your growth and productivity.

In the event of extreme weather, an epidemic or a security incident, we provide an immediate response providing peace of mind. Our innovative technology and medical and security expertise focus on prevention, offering real-time, actionable insights and on-the-ground quality delivery. We help protect your people, your organisation's reputation, as well as support your compliance reporting needs. By partnering with us, organisations can fulfil their Duty of Care responsibilities, while empowering business resilience, continuity, and sustainability.

Founded in 1985, the International SOS Group, headquartered in London & Singapore, is trusted by 9,500 organisations, including the majority of the Fortune Global 500 as well as mid-size enterprises, governments, educational institutions, and NGOs. 13,000 multi-cultural

security, medical, logistics and digital experts stand by you to provide support & assistance from over 1,000 locations in 90 countries, 24/7, 365 days.  

To protect your workforce, we are at your fingertips:  www.internationalsos.com 



ที่มา:  International SOS Services (Thailand) Limited

ข่าวประชาสัมพันธ์ล่าสุด

๑๗:๒๑ 60 ปีแห่งความมุ่งมั่น! คาโอ คว้ารางวัลอุตสาหกรรมดีเด่น 2 ประเภทในปี 2567 ชูความสำเร็จด้านสิ่งแวดล้อมและความรับผิดชอบต่อสังคม
๑๗:๒๓ AVATR ก้าวสู่ความสำเร็จครั้งยิ่งใหญ่! ระดมทุนในรอบ Series C ได้มากกว่า 11,000 ล้านหยวน พร้อมก้าวสู่ความเป็นผู้นำในตลาดรถยนต์ไฟฟ้าหรูหราแห่งอนาคต
๑๗:๐๖ Zoom เปิด 10 เทรนด์ ใช้ AI ในการทำงานปี 2568
๑๗:๑๐ เปิดมุมมองอาชีพที่หลากหลายในอุตสาหกรรมกาแฟไทย เจาะลึกบทบาทและแนวทางยกระดับสู่การเติบโตอย่างยั่งยืน
๑๗:๑๔ อนาคตแห่งการเดินทาง: 5 คนขับ AI จากแอปเรียกรถ Maxim
๑๗:๕๕ Well-Being House บ้านชั้นเดียวเอาใจคนวัยเกษียณ
๑๗:๑๖ กทม. แจงเปิดกว้างการแข่งขันโครงการเช่าคอมพิวเตอร์พกพาสำหรับนักเรียน
๑๖:๓๗ รายงาน Ericsson Mobility Report ฉบับล่าสุด เผยผู้เริ่มให้บริการ 5G กลุ่มแรกกำลังมุ่งสู่โมเดลธุรกิจที่เน้นประสิทธิภาพ
๑๗:๒๕ เมดีซ กรุ๊ป ร่วมสมทบทุนสนับสนุนมูลนิธิโรงพยาบาลสมเด็จพระยุพราช ช่วยผู้ป่วยในชนบท ถิ่นทุรกันดารที่ห่างไกล
๑๖:๔๔ CNN จับตา นวัตกรรมล่าสุดจากนักวิจัยไทย พลิกโฉมการตรวจคัดกรองความเครียดด้วย เหงื่อ