นายสุรพงษ์ สาเรชพันธุ์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท บีพีเอส เทคโนโลยี จำกัด (มหาชน) หรือ BPS ผู้จำหน่ายอุปกรณ์เชื่อมต่อไฟฟ้าภายในอาคาร สินค้าเทคโนโลยีที่เกี่ยวข้อง อุปกรณ์โซลาร์เซล บริการจัดหา ออกแบบ ติดตั้ง โครงการผลิตไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์จากโซลาร์เซลแบบติดตั้งบนหลังคา ระบบควบคุมการจ่ายไฟฟ้า โครงข่ายไฟเบอร์ออพติกเพื่อการสื่อสาร และผลิตภัณฑ์ที่ช่วยอำนวยความสะดวกภายในที่อยู่อาศัยและอาคารพาณิชย์เปิดเผยว่าบริษัทคาดว่ารายได้ปีนี้จะเติบโตไม่ต่ำกว่า 20% โดยมีแผนที่จะขยายธุรกิจการติดตั้งระบบผลิตไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์แบบติดตั้งบนหลังคาสำหรับลูกค้าอสังหาริมทรัพย์แนวราบ และ โรงงาน รวมถึงองค์กรภาคเอกชน โดยตั้งเป้าติดตั้งและผลิตไฟฟ้าได้ประมาณ 30 เมกะวัตต์
นอกจากนี้จะนำเสนอนวัตกรรม Green Home Solutions เพื่อตอบสนองความต้องการและตอบโจทย์เทรนอสังหาริมทรัพย์ยุคใหม่ ที่พร้อมอำนวยความสะดวกสบายให้กับผู้อยู่อาศัยในทุกๆด้าน เช่น อินเตอร์เน็ตความเร็วสูง บ้านประหยัดพลังงาน ซึ่ง BPS จะเป็นศูนย์ให้บริการแบบ One Stop Service ด้วยการให้บริการให้คำปรึกษา ออกแบบ ติดตั้ง พร้อมจำหน่ายอุปกรณ์ที่เกี่ยวข้อง โดยเฉพาะตลาดบ้านมือสอง และกลุ่มประชากรผู้สูงอายุที่ต้องการปรับปรุงที่พักอาศัยให้เหมาะสมกับการใช้งานในปัจจุบ้น พร้อมทั้งมองถึงการขยายโอกาส ให้สอดคล้องกับแนวคิด SMART HOME เช่น การติดตั้งโรงรถ (Garage Roof) พร้อมระบบ Solar Roof-Top การติดตั้งระบบระบายอากาศ (Airflow) และการติดตั้งเครื่องชาร์จไฟฟ้า (EV Charger) ในอนาคตอีกด้วย
"บริษัทตั้งเป้าโตไม่ต่ำกว่า 20% จากปีก่อน ด้วยการขยายธุรกิจติดตั้ง Solar Rooftop ซึ่งเป็นธุรกิจที่โอกาสเติบโตและมีรายได้เข้ามาเพิ่มมากขึ้น และเริ่มรับรู้รายได้อย่างมีนัยสำคัญในปีนี้ ส่วนการนำเสนอนวัตกรรม Green Home Solutions นั้น เป็นธุรกิจที่มีมาร์จิ้นสูง ตามความต้องการที่หลากหลายของลูกค้า น่าจะเป็นปัจจัยที่ทำให้บริษัทเติบโตตามเป้าหมาย" นายสรุพงษ์ กล่าว
สำหรับผลประกอบการ ปี 2566 บริษัทมีรายได้ 738.77 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 8.64% จากปีก่อนที่มีรายได้ 679.96 ล้านบาท และมีกำไรสุทธิ 20 ล้านบาท ใกล้เคียงกับปีก่อนที่มีรายได้ 20.5 ล้านบาท โดยมีรายได้หลัก 87% เป็นงานจัดหาและจัดจำหน่ายวัสดุอุปกรณ์ที่เกี่ยวข้องกับระบบไฟฟ้าภายในอาคาร รวมถึง อุปกรณ์เทคโนโลยีที่เกี่ยวข้องเช่น กล้องวงจรปิด เครื่องระบายอากาศ โดยที่ลูกค้าส่วนใหญ่ ได้แก่กลุ่มผู้รับเหมาก่อสร้าง และกลุ่มผู้พัฒนาโครงการอสังหาริมทรัพย์ พร้อมบริการแบบ One Stop Service โดยได้มีการพัฒนารูปแบบสินค้าเป็น Kitting Box ที่เหลือ 13% เป็นรายได้จากการให้บริการจัดหา ออกแบบ ติดตั้ง สำหรับโครงการพลังงานโซลาร์ และโครงการบริการอื่นๆ
ที่มา: ธามดี พลัส