ผศ.ณัชติพงศ์ กล่าวอีกว่า ส่วนการรับตรงระดับชั้นประกาศนียบัตรวิชาชีพ (ปวช.) ประกาศนียบัตรวิชาชีพชั้นสูง (ปวส.) และการศึกษานอกระบบและการศึกษาตามอัธยาศัย (กศน.) นั้น ปัจจุบันได้ผ่านรอบโควตา และสอบตรงแล้ว โดยรอบโควตา มีแผนรับ 1,354 คน มีผู้สมัคร 2,466 คน ผ่านการคัดเลือก 1,320 คน รอบสอบตรง แผนรับ 1,123 คน ผู้สมัคร 2,307 คน ผ่านการคัดเลือก 777 คน ส่วนรอบสุดท้ายคือรอบรับตรง จำนวนรับ 336 คน อยู่ระหว่างการรับสมัครและขณะนี้มีผู้สมัครแล้ว 603 คน ทั้งนี้เกณฑ์การคัดเลือกนักศึกษาในรอบนี้จะเป็นการสอบข้อเขียนและสอบสมรรถนะ โดย 3 สาขาที่มีผู้สมัครมากที่สุด ได้แก่ สาขาวิศวกรรมไฟฟา สาขาวิศวกรรมเครื่องกล สาขาบัญชีและวิศวกรรมอุตสาหการ
"สำหรับการเปิดรับสมัครผู้เข้าร่วมโครงการการเรียนรู้ตลอดชีวิตในระบบเทียบโอนความรู้และประสบการณ์ ธนาคารหน่วยกิต หรือ Credit Bank นั้น มทร.ธัญบุรีได้ดำเนินการมาแล้ว 5 ปี ระดับปริญญาตรี เปิด 83 หลักสูตร ทุกสาขาวิชา ยกเว้นคณะพยาบาลศาสตร์ ระดับบัณฑิตศึกษา จำนวน 33 หลักสูตร โดยผู้เรียนกลุ่มหลัก มี 2 กลุ่ม คือ คนวัยทำงานจากสถานประกอบการ และนักเรียนระดับชั้นมัธยมศึกษาตอนปลาย ซึ่งในช่วงระยะเวลา 2-3 ปีแรกของโครงการ ผู้เข้าเรียนส่วนใหญ่จะมาสมัครเรียนเพียง ในสาขาละ 2-3 คน แต่ระยะ 2 ปีหลัง จะมีการรวมกลุ่มกันจากสถานประกอบการ หรือนักเรียนจากโรงเรียนเครือข่ายของ มทร.ธัญบุรี เข้ามาเรียนมากขึ้น โดยกลุ่มผู้เรียนวัยทำงานจะเลือกเรียนสาขาวิชาในคณะวิศวกรรมศาสตร์เป็นหลัก ส่วนนักเรียนจะเลือกเรียนวิชาในคณะแพทย์บูรณาการและคณะศิลปศาสตร์ ทั้งนี้เชื่อว่า การเรียนแบบระบบธนาคารหน่วยกิตในระยะ 2-3 ปีข้างหน้าจะเริ่มได้รับความสนใจเพิ่มขึ้นจากผู้เรียน เนื่องจากคนวัยทำงาน ต้องการได้รับใบปริญญาโดยใช้ประสบการณ์ในการทำงาน การฝึกอบรม สมรรถนะที่มีอยู่เทียบกับวิชาที่เรียน ส่วนนักเรียนที่กำลังศึกษาระดับม.ปลายต้องการเรียนในระบบนี้ เพื่อย่นระยะเวลาการเรียนระดับปริญญาตรีให้ลดลง รวมถึงการเรียนการสอนในระบบนี้กระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัย และนวัตกรรม (อว.) ยังให้การสนับสนุน และผู้ที่เข้าอบรมกับสถาบันคุณวุฒิวิชาชีพก็สามารถนำมาใช้ในการเทียบโอนหน่วยกิตได้ โดยขณะนี้ มทร.ธัญบุรี กำลังเปิดรับสมัครผู้สนใจเรียนในโครงการดังกล่าวตั้งแต่วันนี้ถึง 31 พ.ค.67 ในระบบออนไลน์ www.oreg.rmutt.ac.th" ผศ.ณัชติพงศ์ กล่าว
ที่มา: แมวกวัก