ส่องทิศทางเมษาหน้าร้อน ตลาดหุ้นสหรัฐฯ - ทองคำ อาจปรับฐาน บิทคอยน์ ราคาเตรียมพุ่งรับ "ฮาฟวิ่ง"

พุธ ๑๐ เมษายน ๒๕๖๗ ๑๔:๔๕
เปิดกลยุทธ์การลงทุนเดือนเมษายน จับทางตลาดหุ้นสหรัฐฯ และทองคำ ที่อาจมีย่อตัวลงหลังไตรมาสแรกราคาปรับตัวขึ้นมาค่อนข้างมาก นักลงทุนรุ่นใหม่มองเป็นโอกาสเข้าลงทุนระยะยาว เพราะแนวโน้มยังเป็นขาขึ้น แนะรอจังหวะสะสมเมื่อราคาปรับตัวลง ส่วนบิทคอยน์มีโอกาสดีดตัวขึ้นรับ Bitcoin Halving ที่จะเกิดขึ้นในเดือนนี้ หนุนราคาเหรียญทางเลือก (Altcoin) ปรับตัวขึ้นตาม
ส่องทิศทางเมษาหน้าร้อน ตลาดหุ้นสหรัฐฯ - ทองคำ อาจปรับฐาน บิทคอยน์ ราคาเตรียมพุ่งรับ ฮาฟวิ่ง

นายณพวีร์ พุกกะมาน นักลงทุนและผู้ก่อตั้ง Creative Investment Space (CIS) สถาบันให้ความรู้ด้านนวัตกรรมการลงทุนรูปแบบใหม่ ให้มุมมองว่า เดือนเมษายนนี้ตลาดหุ้นสหรัฐอเมริกามีโอกาสจะเข้าสู่รอบปรับฐาน หลังจากไตรมาสแรกที่ผ่านมา ทุกดัชนีมีการปรับตัวขึ้นได้ในระดับเกือบเลขสองหลักและสร้างจุดสูงสุดใหม่ได้ ทั้งนี้เริ่มเห็นสัญญาณการชะลอตัวลงของดัชนีจากการที่หุ้นขนาดใหญ่บางตัว เช่น APPLE และ TESLA ถูกเทขาย เพราะมีความกังวลเรื่องผลประกอบการ และตลาดเริ่มกลับมากังวลว่าธนาคารกลางสหรัฐฯ จะไม่ลดดอกเบี้ยรวม 3 ครั้งในปีนี้ ตามที่ประกาศไว้ เนื่องจากเศรษฐกิจยังเติบโตต่อเนื่อง และเงินเฟ้อยังไม่ลงมาถึงเป้าหมายระดับ 2% ประกอบกับราคาน้ำมันที่ปรับตัวสูงขึ้นทำให้ความกังวลเรื่องเงินเฟ้อกลับมาอีกครั้ง

สำหรับผู้ที่ลงทุนในหุ้นสหรัฐฯ และมีกำไรแล้วระดับหนึ่งสามารถที่จะขายทำกำไร และรอให้ราคาปรับฐานลงก่อนเข้าไปลงทุนใหม่อีกครั้งได้ เพราะภาพใหญ่ของตลาดหุ้นสหรัฐฯ ยังเป็นขาขึ้น รวมถึงผลประกอบการของหุ้นเทคโนโลยีขนาดใหญ่ที่ยังได้กระแสของเอไอหนุน แต่ราคาหุ้นในปัจจุบันค่อนข้างที่จะพรีเมียมแล้ว การที่ราคาปรับฐานลงในระดับ 10% ถือเป็นจังหวะดีที่จะเข้าลงทุน

ขณะที่ "ทองคำ" ซึ่งเป็นสินทรัพย์ที่สร้างผลตอบแทนโดดเด่นในเดือนที่ผ่านมาจนราคาสามารถสร้างจุดสูงสุดใหม่ได้ แม้ว่าค่าเงินดอลลาร์ยังแข็งค่า น่าจะมีเหตุผลมาจากปัญหาความขัดแย้งทางการเมืองระหว่างประเทศ ประกอบกับมีแรงซื้อจากประเทศจีนที่มีเข้ามาอย่างต่อเนื่อง แต่การที่ราคาปรับตัวขึ้นมาค่อนข้างเร็วและใกล้จะถึงเป้าหมายแนวต้านแล้วทำให้ต้องเพิ่มความระมัดระวังในการลงทุนมากขึ้น

"แนวโน้มหลักของทองคำยังคงเป็นขาขึ้น และมีโอกาสจะแตะแนวต้านระยะยาวที่ระดับ 2,800 ดอลลาร์ ได้ แต่ระยะสั้นในระดับราคาที่เริ่มจะชนแนวต้านแรกที่ 2,360 ดอลลาร์ มองเป็นโอกาสขายทำกำไรระยะกลาง สำหรับผู้ที่ถือมาตั้งแต่ต้นทางและรอจังหวะที่จะเข้าไปซื้อใหม่อีกครั้งที่แนวรับ 2,150 ดอลลาร์ และ 2,076 ดอลลาร์"

ทางด้าน "บิทคอยน์" ที่เคยร้อนแรงในช่วงไตรมาสแรกเริ่มที่จะมีการพักฐาน และเคลื่อนไหวแบบออกข้างมาได้ระยะหนึ่ง ในเชิงพื้นฐานยังมีโอกาสที่จะปรับตัวขึ้นได้ต่อโดยมีเหตุการณ์ที่มาช่วยหนุนนั่น คือการเกิด Bitcoin Halving ในช่วงวันที่ 20 เมษายนนี้ แม้ว่าราคาบิทคอยน์จะสามารถทำจุดสูงสุดใหม่ได้ก่อนที่จะมี Halving ซึ่งแปลกไปจากรอบขาขึ้นครั้งก่อน ๆ แต่การที่มี Bitcoin Spot ETF จะเป็นตัวเร่งทำให้มีแรงซื้อเข้ามาในบิทคอยน์เพิ่มมากขึ้น

"ต้นทุนเฉลี่ยของนักลงทุนที่ซื้อบิทคอยน์ผ่าน Spot ETF อยู่แถวราคา 50,000 ดอลลาร์ เทียบกับราคาตลาดปัจจุบันยังถือว่าไม่สูงมากนักที่จะมีแรงเทขายหนัก ๆ เข้ามา ประกอบกับแรงขายบิทคอยน์ใน Grayscale Bitcoin ETF เริ่มลดลง และแรงซื้อผ่านกองทุนของ Blackrock เริ่มกลับเข้ามา จึงเป็นโอกาสที่จะทยอยเข้าสะสมบิทคอยน์ในช่วงที่ราคายังนิ่ง โดยหากสามารถผ่านจุดสูงสุดเดิมที่ 74,000 ดอลลาร์ ไปได้ มีโอกาสที่จะขึ้นทดสอบแนวต้าน 82,000 ดอลลาร์ ขึ้นไปได้เป็นอย่างน้อย"

ขณะที่ "อีธีเรียม" ซึ่งเป็นเหรียญใหญ่อันดับสองที่กำลังมีข่าวกำลังถูกพิจารณาจัดตั้งกองทุน Spot Ethereum ETF มีความเป็นไปได้สูงว่าอาจจะยังไม่ได้รับการอนุมัติตามที่คาดหวังไว้ว่าจะเกิดขึ้นในช่วงเดือนพฤษภาคมนี้ แต่ถึงอย่างไรพื้นฐานของอีธีเรียมยังคงเติบโตได้ดี และมีโอกาสจะเป็นผู้นำตลาดเหรียญทางเลือก หรือ Altcoin อื่น ๆ ที่จะปรับตัวขึ้นในช่วงหลังจากนี้ ถ้าหากบิทคอยน์เริ่มประคองตัวอยู่ในโซนราคาที่สูงแล้ว โดยระยะสั้นจับตาแนวรับของบิทคอยน์ที่ 60,000 ดอลลาร์ ถ้าสามารถยืนระดับนี้ได้จะสามารถปรับตัวขึ้นต่อได้

นายณพวีร์ กล่าวปิดท้ายว่า ปัจจัยที่ต้องติดตามในสัปดาห์นี้ (10 เม.ย.) จะมีการประกาศตัวเลขเงินเฟ้อสหรัฐฯ ถ้าหากออกมาสูงกว่าที่คาดไว้ที่ 3.4% อาจเป็นตัวเร่งกดดันตลาดหุ้นสหรัฐฯ รวมถึงสินทรัพย์อื่น ๆ รวมถึงปัญหาความขัดแย้งทางการเมืองระหว่างประเทศที่เริ่มมีความรุนแรงกลับเข้ามา แต่ภาพรวมไม่ถือว่าจะเกิดปัจจัยลบแรง ๆ ที่ทำให้ตลาดมีความผันผวนมากนัก การย่อตัวลงมาของตลาดหุ้นสหรัฐฯ และทองคำ รวมถึงสินทรัพย์ดิจิทัล คือโอกาสที่จะเข้าลงทุนได้

ที่มา: เมคอะเว็ลท์ คอนซัลติ้ง

ข่าวประชาสัมพันธ์ล่าสุด

๑๖:๔๑ องค์การอนามัยโลกจับมือประเทศไทย และ 194 ประเทศ เร่งสร้างฉันทมติดันความเสมอภาคสุขภาพช่องปากเป็นวาระโลก
๑๖:๔๔ กรมอนามัยลงพื้นที่จังหวัดสงขลา มอบรางวัลเชิดชูเกียรติเมืองสุขภาพดีระดับประเทศ และรางวัลเครือข่ายเมืองสุขภาพดีระดับภูมิภาคเอเชียใต้และตะวันออก
๑๖:๐๑ EPG มั่นใจยอดขายและอัตรากำไรขั้นต้นในครึ่งหลังของปีบัญชี 67/68 (ต.ค.67 - มี.ค.68) เติบโตดีตามเป้าหมาย เตรียมจ่ายเงินปันผลระหว่างกาล 6 สตางค์ 9
๑๖:๒๔ 51Talk ส่งเด็กไทยเข้าร่วม COP29 การประชุมแห่งสหประชาชาติว่าด้วยการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ บทพิสูจน์การสนับสนุนเยาวชนก้าวสู่เวทีระดับโลก
๑๖:๔๘ ORN เผยโค้งสุดท้ายปี 67 ฟอร์มดี โตต่อเนื่อง ลุยเปิด 3 โครงการใหม่บ้าน-คอนโดฯ มูลค่ารวม 3,070 ล้านบาท
๑๖:๓๓ Dog's Dream คอมมูนิตี้สนามสัตว์เลี้ยงสีเขียว ที่ใหญ่ที่สุดในกรุงเทพฯ และปริมณฑล
๑๖:๑๔ ฟูจิฟิล์ม บิสซิเนส อินโนเวชั่น ชูกลยุทธ์ Make a Leap to the New Stage ตอกย้ำพันธกิจขับเคลื่อนด้วยนวัตกรรม
๑๕:๔๓ กรุงศรี ขับเคลื่อนกลยุทธ์ GO ASEAN with krungsri ผสานความแข็งแกร่งและร่วมมือในเครือกรุงศรี MUFG และพันธมิตร
๑๕:๓๔ เผยสีสันแห่งการเฉลิมฉลองช่วงสิ้นปี ผ่านกระเช้าของขวัญจากโรงแรมเจดับบลิว แมริออท กรุงเทพฯ
๑๕:๔๗ Netflix ส่งหนังไทยคว้าชัยระดับโลก! ออกแบบ-ชุติมณฑน์ คว้ารางวัลนักแสดงนำหญิงยอดเยี่ยม บนเวที International Emmy Awards ครั้งที่ 52 จากผลงานเรื่อง HUNGER คนหิว