จากอัตราผู้เข้ารับการรักษาภาวะผู้มีบุตรยากในประเทศไทยเพิ่มสูงขึ้น ส่งผลให้บริษัท เจเนซีส เฟอร์ทิลีตี เซ็นเตอร์ จำกัด (มหาชน) "GFC"ผู้ให้บริการทางการแพทย์สำหรับผู้มีปัญหามีบุตรยากแบบครบวงจร ตั้งแต่การรับบริการตรวจเบื้องต้น, การรักษาด้วยวิธี IUI, การรักษาด้วยวิธี ICSI, การตรวจพันธุกรรมของตัวอ่อน NGS และการฝากไข่ ได้รับอานิสงส์สอดรับกับดีมานด์ที่เพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง ซึ่งสะท้อนถึงความสำเร็จ ในการเป็นผู้เชี่ยวชาญและผู้ชำนาญการด้านสูตินรีเวชและเทคโนโลยีเจริญพันธุ์ที่มีประสบการณ์ด้านการให้บริการทางการแพทย์สำหรับผู้มีปัญหามีบุตรยากของ GFC ที่สามารถตอบโจทย์อัตราความสำเร็จ (Success Rate) ในการตั้งครรภ์ที่สูงกว่าค่าเฉลี่ย
ล่าสุด บริษัทหลักทรัพย์บียอนด์ จำกัด (มหาชน) และ บริษัทหลักทรัพย์ฟินันเซีย ไซรัส จำกัด (มหาชน) แนะนำหุ้น "GFC" พร้อมประเมินอัตราการเติบโตไตรมาส1/2567 เพิ่มสูงขึ้น ตอกย้ำถึงผลประกอบการที่ก้าวสู่ระดับ All Time High ของ GFC ได้เป็นอย่างดี
บริษัทหลักทรัพย์ บียอนด์ จำกัด (มหาชน) มีมุมมองเชิงบวกต่อแนวโน้มการเติบโตของรายได้ของ GFC ประเมินรายได้และกำไรสุทธิในไตรมาส 1/2567 สูงสุดเป็นประวัติการณ์ หลังจากมีกำไรสุทธิที่แข็งแกร่งถึง 77 ล้านบาทในปี 2566 โดยคาดว่า GFC ทำรายได้ไตรมาส 1/2567 สูงสุดถึง 115 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 14.8% (QoQ) และ 33.6% (YoY) โดยได้รับแรงหนุนจากจำนวนผู้เข้ารับการรักษาที่เพิ่มขึ้น ส่งผลให้อัตรากำไรสุทธิเพิ่มขึ้น 26% และมีกำไรสุทธิในไตรมาส 1/2567 ที่ 30 ล้านบาท นอกจากนี้ยังได้ประเมินการเติบโตทั้งปีของ GFC โดยคาดว่ามีกำไรสุทธิที่ 112 ล้านบาท และรายได้คาดว่าแตะ 502 ล้านบาท แนะนำซื้อ โดยให้ราคาเป้าหมาย 16 บาท เมื่อเทียบกับระดับ P/E ที่ 31 เท่า
บริษัทหลักทรัพย์ฟินันเซีย ไซรัส จำกัด (มหาชน) ประเมินกำไรสุทธิ ไตรมาส 1/2567 อยู่ที่ 24 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 9% (QoQ) และ 29% (YoY) รับปีมังกร โดยคาดรายได้เพิ่มขึ้น 8% (QoQ) และ 27% (YoY) จากทั้งจำนวนผู้มีบุตรยากที่เข้ามารับบริการรักษามีจำนวนเพิ่มขึ้น ส่งผลให้กำไรสุทธิปี 2567 อยู่ที่ 105 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 36% (YoY) และปี 2568 อยู่ที่ 130 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 23.5% (YoY) จากผลการเปิดสาขาใหม่ สุวรรณภูมิ-พระราม 9 และอุบลราชธานี ปลายไตรมาส 2/2567 อีกทั้งบริษัทได้การนำเอาเทคโนโลยีช่วยการเจริญพันธ์ขยายห้อง LAB ที่เป็นมาตรฐานสากลเพื่อรองรับลูกค้าต่างชาติที่จะเข้ารับบริการเป็นปีแรก และจะเริ่มเห็นลูกค้าจากประเทศจีนเพิ่มขึ้นในช่วงครึ่งปีหลัง 2567 ดังนั้นแนะนำ "ซื้อ" โดยให้ราคาเป้าหมาย 12 บาท อิง P/E 25 เท่า
ที่มา: มีเดีย แพลนเนอร์ คอนซัลแทนท์