ซีเมนส์และเมอร์เซเดส-เบนซ์ พลิกโฉมอนาคตการวางแผนโรงงานอย่างยั่งยืนด้วย Digital Energy Twin

อังคาร ๓๐ เมษายน ๒๐๒๔ ๑๖:๕๑
ซีเมนส์และเมอร์เซเดส-เบนซ์ เอจี ผนึกกำลังภายใต้ความร่วมมือเชิงกลยุทธ์เพื่อร่วมกันพัฒนา "Digital Energy Twin" ที่เพิ่มประสิทธิภาพการบูรณาการมาตรการด้านการประหยัดพลังงานและความยั่งยืนในการออกแบบและปรับปรุงโรงงาน
ซีเมนส์และเมอร์เซเดส-เบนซ์ พลิกโฉมอนาคตการวางแผนโรงงานอย่างยั่งยืนด้วย Digital Energy Twin
  • Digital Energy Twin ลดระยะเวลาที่ใช้ในขั้นตอนการวางแผนเบื้องต้นได้อย่างมีนัยสำคัญ
  • การพัฒนาและทดสอบ Digital Energy Twin อยู่ที่โรงงานของเมอร์เซเดส-เบนซ์ 'Factory 56' ในเมืองซินเดลฟินเกน ประเทศเยอรมนี
  • ความร่วมมือนี้แสดงให้เห็นถึงคุณค่าของระบบนิเวศของแพลตฟอร์มธุรกิจแบบเปิด Siemens Xcelerator ในการสร้างผลิตภัณฑ์และโซลูชันที่เจาะลึกเฉพาะอุตสาหกรรมและกรณีการใช้งานเฉพาะทาง

ซีเมนส์และเมอร์เซเดส-เบนซ์ได้ร่วมมือกันพัฒนา "Digital Energy Twin" สำหรับอนาคตของการวางแผนโรงงานอย่างยั่งยืนในอุตสาหกรรมยานยนต์

นวัตกรรม Digital Energy Twin ถูกออกแบบมาเพื่อสนับสนุนเป้าหมายของเมอร์เซเดส-เบนซ์ที่จะใช้พลังงานหมุนเวียนในโรงงานที่บริษัทฯ เป็นเจ้าของทั่วโลกได้ 100% ภายในปี 2582 โดย Digital Energy Twin ช่วยเพิ่มประสิทธิภาพ ลดความซับซ้อนและเร่งกระบวนการวางแผนพลังงานขั้นต้นในโรงงานทั้งที่มีอยู่ที่เดิมและโรงงานใหม่ ซึ่งช่วยลดระยะเวลาในการวางแผนได้อย่างมีนัยสำคัญ

ความร่วมมือดังกล่าวผสานองค์ความรู้ด้านการลดก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์และ Digital Energy Twin ของซีเมนส์เข้ากับความชำนาญด้านยานยนต์ของพันธมิตรระดับโลกของเรา เพื่อสร้างเครื่องมือที่สามารถปรับขยายได้สำหรับสภาพแวดล้อมของอุตสาหกรรมยานยนต์ โดยซีเมนส์จะให้การฝึกอบรมและการสนับสนุน รวมทั้งการบำรุงรักษาและพัฒนา Digital Energy Twin อย่างต่อเนื่องตามแผนการนำไปใช้ที่ครอบคลุมเครือข่ายการผลิตระดับโลกของเมอร์เซเดส-เบนซ์

Digital Energy Twin ได้รับการออกแบบและทดสอบที่ 'Factory 56' ในโรงงานเมอร์เซเดส-เบนซ์เมืองซินเดลฟินเกน ประเทศเยอรมนี โดยใช้แบบจำลองพฤติกรรมของการใช้อาคาร อุปกรณ์ทางเทคนิค และการผลิตพลังงาน

Digital Energy Twin เชื่อมต่อข้อมูล เช่น สภาพอากาศ การจำลองการใช้พลังงานไฟฟ้า สิ่งต่างๆ ที่อยู่ในอาคารรวมถึงขนาดและมิติ เพื่อจำลองระบบพลังงานและอุปกรณ์ไฟฟ้า ทำให้เห็นภาพการใช้พลังงานในสถานการณ์ต่าง ๆ และให้คำแนะนำการเพิ่มประสิทธิภาพเพื่อบรรลุผลลัพธ์ที่ต้องการ ซึ่งรวมถึงการประหยัดพลังงานและค่าใช้จ่ายที่เกี่ยวเนื่อง ตลอดจนการลดก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์

"ด้วยการจำลองสถานการณ์การปฏิบัติงานและการใช้พลังงานอย่างแม่นยำ Digital Energy Twin ช่วยให้สามารถตัดสินใจได้อย่างรวดเร็วและโปร่งใสมากขึ้นตั้งแต่ช่วงแรกของขั้นตอนการวางแผน" มัทเธียส รีเบลเลียส สมาชิกคณะกรรมการบริหารของซีเมนส์ เอจี และประธานเจ้าหน้าที่บริหารของกลุ่มธุรกิจโครงสร้างพื้นฐานอัจฉริยะกล่าว "สิ่งนี้แสดงให้เห็นถึงวิธีที่ซีเมนส์ผสานโลกจริงและโลกดิจิทัล เข้าด้วยกันเพื่อขับเคลื่อนความก้าวหน้าอย่างยั่งยืนพร้อมขยายขอบเขตไปยังอุตสาหกรรมต่าง ๆ นับเป็นก้าวแรกที่น่าตื่นเต้นซึ่งนำไปสู่กระบวนการที่บูรณาการการวางแผน การปฎิบัติการอาคาร และการผลิตให้มีประสิทธิภาพสูงสุด"

Digital Energy Twin แสดงให้เห็นถึงศักยภาพของ Siemens Xcelerator ซึ่งเป็นแพลตฟอร์มธุรกิจดิจิทัลแบบเปิดที่เร่งกระบวนการเปลี่ยนผ่านสู่ดิจิทัล และเปิดโอกาสให้ลูกค้าและพันธมิตรร่วมกันพัฒนาผลิตภัณฑ์และโซลูชันตามความต้องการสำหรับอุตสาหกรรมต่าง ๆ ซีเมนส์และเมอร์เซเดส-เบนซ์ ได้จัดตั้งความร่วมมือทางกลยุทธ์ในปี 2564 สำหรับการผลิตยานยนต์ที่ยั่งยืน ทำให้เกิดความร่วมมือผลักดันการใช้เทคโนโลยีดิจิทัลสำหรับวิธีการผลิตที่ยั่งยืน

"Digital Energy Twin เป็นคำตอบของเราในการนำเสนอแบบทำให้เห็นภาพ วิเคราะห์ และเพิ่มประสิทธิภาพให้กับกระบวนการประหยัดพลังงานของอาคารอย่างยั่งยืน ด้วยนวัตกรรมนี้ เราได้รับประโยชน์จากความเข้าใจที่ดีขึ้นเกี่ยวกับอาคารโรงงานที่มีอยู่และเปลี่ยนโฉมสู่อาคารอัจฉริยะ เราสามารถใช้ประโยชน์จากศักยภาพของอาคารได้อย่างเต็มที่ และวางมาตรฐานการใช้อาคารที่มีประสิทธิภาพด้านพลังงานและความยั่งยืนในเครือข่ายการผลิตระดับโลกของเมอร์เซเดส-เบนซ์" อาร์โน ฟาน เดอร์ แมร์เวอ รองประธานฝ่ายวางแผนการผลิต เมอร์เซเดส-เบนซ์คาร์ กล่าว

Digital Energy Twin มีความสำคัญอย่างมากในพอร์ตโฟลิโอโซลูชันของซีเมนส์สำหรับการสนับสนุนลูกค้าอุตสาหกรรมในการบรรลุเป้าหมายด้านความยั่งยืนและการลดก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ ซีเมนส์ประกาศเมื่อไม่นานมานี้ว่ากำลังทำงานร่วมกับพันธมิตรระดับนานาชาติอีกรายหนึ่ง เพื่อไปสู่การวางแผนการผลิตที่ปล่อยก๊าซเรือนกระจกสุทธิเป็นศูนย์ (Net Zero) ในระดับโลก ด้วยการใช้ Digital Energy Twin จำลองการใช้พลังงานและระบุความสามารถในการประหยัดพลังงานจากโรงงานผลิตเบียร์ 15 แห่งทั่วโลก จากการประมาณการของซีเมนส์ แต่ละโรงงานจะสามารถประหยัดพลังงานได้ระหว่าง 15-20 เปอร์เซ็นต์ โดยลดก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ได้เฉลี่ย 50 เปอร์เซ็นต์ต่อแห่ง

ที่มา: พีซี แอนด์ แอสโซซิเอทส์ คอนซัลติ้ง

ข่าวประชาสัมพันธ์ล่าสุด

๑๕:๔๒ FWD ประกันชีวิต ครองใจคนรุ่นใหม่ คว้าสองรางวัลองค์กรน่าทำงาน พร้อมเปิดพื้นที่ให้เติบโตในแบบที่เป็นตัวเอง
๑๕:๕๔ ยันม่าร์ฯ คืนกำไรให้กับเกษตรไทย แจกส่วนลดซื้อผลิตภัณฑ์ มูลค่ารวมกว่า 117 ล้านบาท
๑๕:๐๐ กทม. รุกเข้มมาตรการเฝ้าระวังป้องกันควบคุมการระบาดโรคลิชมาเนียในกรุงเทพฯ
๑๕:๕๒ กทม. ขานรับนโยบาย ศธ. ยกเว้นแต่งชุดลูกเสือ-เนตรนารี-ยุวกาชาดโรงเรียนในสังกัด พร้อมจัดสวัสดิการ 20 รายการ
๑๔:๔๓ อิเดมิตสึ ร่วมเปิดฉาก ARRC 2025 ผลักดันนักบิดเอเชียสู่ระดับโลก
๑๔:๐๔ หาดทิพย์ (HTC) จัดประชุมผู้ถือหุ้นประจำปี 2568 อนุมัติจ่ายเงินปันผลงวดสุดท้ายของปี 2567 ในอัตรา 0.57 บาทต่อหุ้น
๑๔:๒๖ Jeff Satur ชวนทุกคนให้ค้นพบตัวเองในเวอร์ชั่นที่สวยงาม ในซิงเกิลใหม่ ฉันก่อนเจอเธอ (Lost and Found)
๑๔:๐๒ คูลชาแนล ช่องภาพยนตร์ไทยคลาสสิค เปิดภาพยนตร์เก่าครบรส 25 วัน 25 เรื่องตลอดเดือนนี้
๑๔:๒๒ ผถห. FM โหวตหนุนจ่ายปันผลอีก 0.20 บ./หุ้น - รับเงิน 20 พ.ค.นี้
๑๔:๕๒ จังซีลอน เตรียมส่งแคมเปญต้อนรับนักท่องเที่ยว