อินสไปร์ ไอวีเอฟ "IVF" ยื่นไฟลิ่งขายหุ้น IPO ไม่เกิน 130 ล้านหุ้น เตรียมเข้าตลาด mai มุ่งขยายธุรกิจให้การรักษาผู้มีบุตรยากแบบครบวงจรครอบคลุมทั้งในไทยและต่างประเทศ

พฤหัส ๐๙ พฤษภาคม ๒๐๒๔ ๑๐:๕๗
บริษัท อินสไปร์ ไอวีเอฟ จำกัด (มหาชน) หรือ "IVF" ผู้ให้บริการด้านการรักษาผู้มีบุตรยากด้วยเทคโนโลยีช่วยเจริญพันธุ์ทางการแพทย์ครบวงจร ยื่นแบบหนังสือชี้ชวน (Filing) ต่อสำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต) เพื่อเสนอขายหุ้นสามัญที่ออกใหม่ต่อประชาชนทั่วไปเป็นครั้งแรก (IPO) จำนวนไม่เกิน 130 ล้านหุ้น หรือคิดเป็นไม่เกินร้อยละ 29.55 ภายหลังจากการเสนอขาย IPO เพื่อเข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ เอ็ม เอ ไอ (mai) โดยมีจุดมุ่งหมายในการระดมเงินทุนหลังหักค่าใช้จ่ายในการเสนอขายหลักทรัพย์และค่าใช้จ่ายอื่น ๆ ที่เกี่ยวข้องเพื่อใช้ขยายสาขา ลงทุนในธุรกิจที่เกี่ยวข้อง และใช้เป็นเงินทุนหมุนเวียน โดยมี บริษัท ฟินเน็กซ์ แอ๊ดไวเซอรี่ จำกัด เป็นที่ปรึกษาทางการเงิน
อินสไปร์ ไอวีเอฟ IVF ยื่นไฟลิ่งขายหุ้น IPO ไม่เกิน 130 ล้านหุ้น เตรียมเข้าตลาด mai มุ่งขยายธุรกิจให้การรักษาผู้มีบุตรยากแบบครบวงจรครอบคลุมทั้งในไทยและต่างประเทศ

นางสาวเกศิณี กุลดิลก ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท อินสไปร์ ไอวีเอฟ จำกัด (มหาชน) เผยถึงแผนดำเนินงานของบริษัทฯ ว่า "อินสไปร์ ไอวีเอฟ (Inspire IVF) ก่อตั้งและให้บริการมาแล้วกว่าครึ่งทศวรรษ ภายใต้วิสัยทัศน์ของคณะผู้บริหารที่มีความเชี่ยวชาญด้านธุรกิจ การเงินการลงทุน รวมถึงผู้เชี่ยวชาญด้านการแพทย์เวชศาสตร์การเจริญพันธุ์ โดยมุ่งเน้นการให้บริการภายใต้มาตรฐานระดับสากล พร้อมมอบคำปรึกษาในการวางแผนครอบครัวให้สมบูรณ์แก่ผู้รับบริการ ด้วยบุคลากรและทีมแพทย์มากประสบการณ์ ตลอดจนอุปกรณ์ เครื่องมือ และห้องปฏิบัติการที่ทันสมัย โดยเราเป็นที่แรกของกลุ่มธุรกิจศูนย์รักษาผู้มีบุตรยากในภูมิภาคเอเชียแปซิฟิกที่ได้รับการรับรองมาตรฐาน AACI และ ISO9001 ซึ่ง AACI เป็นมาตรฐานสากลเดียวในปัจจุบันที่สามารถรับรองได้ทั้ง International Healthcare Standard และ ISO9001 พร้อมกัน และโปรแกรมเฉพาะ COVID-19 สำหรับ Medical Travel เราเป็นกลุ่มธุรกิจศูนย์รักษาผู้มีบุตรยากแห่งที่สองของโลกที่ได้รับการรับรองจาก Global Healthcare Accreditation ซึ่งแสดงถึงระบบบริหารจัดการคุณภาพบริการสุขภาพภายใต้มาตรฐานระดับสากล"

"อินสไปร์ ไอวีเอฟ ดำเนินงานภายใต้กลยุทธ์ที่มุ่งมั่นสู่การเป็นผู้นำในอุตสาหกรรม และสร้างโอกาสในการเติบโตทางธุรกิจอย่างยั่งยืน ผ่านการพัฒนาคุณภาพบริการและบุคลากรอย่างต่อเนื่อง โดยในปี 2564-2566 บริษัทฯ มีอัตราความสำเร็จของการตั้งครรภ์โดยเฉลี่ยอยู่ที่ 70-76% ซึ่งสูงกว่าอัตราความสำเร็จในการตั้งครรภ์โดยรวมของประเทศไทยที่ 48.53% (ข้อมูลจาก กรมสนับสนุนบริการสุขภาพ กระทรวงสาธารณสุข 1 มีนาคม 2567) ยิ่งไปกว่านั้น บริษัทฯ ยังให้ความสำคัญกับการออกแบบประสบการณ์ลูกค้าให้ครอบคลุมทุกแง่มุมงานบริการ ภายใต้แนวคิด "Luxury and Relax" มุ่งเน้นให้ผู้บริโภคจดจำ Inspire IVF ในฐานะศูนย์รักษาผู้มีบุตรยากที่พร้อมให้บริการที่มีคุณภาพ คุ้มค่า และครบวงจรด้วยมาตรฐานสากล โดยแผนการเสนอขาย IPO ของบริษัทฯ ในครั้งนี้นับเป็นกลยุทธ์สำคัญเพื่อสร้างโอกาสการเติบโตทางธุรกิจ รวมทั้งขยายพื้นที่ให้บริการทั้งในประเทศและต่างประเทศผ่านการลงทุนและร่วมลงทุนกับพันธมิตรอย่างต่อเนื่อง โดยบริษัทฯ อยู่ระหว่างการศึกษาความเป็นไปได้ในการลงทุนร่วมกับพันธมิตรในต่างประเทศ ซึ่งสอดรับกับแนวโน้มอุตสาหกรรมบริการเทคโนโลยีช่วยเจริญพันธุ์ทางการแพทย์ที่สดใส" เกศิณี กล่าวเสริม

ในปี 2566 อินสไปร์ ไอวีเอฟ มีรายได้รวม 122.09 ล้านบาท จากบริการในสองกลุ่มสำคัญ ได้แก่

  1. การให้บริการรักษาผู้มีบุตรยาก สร้างรายได้ 107.9 ล้านบาท คิดเป็น 88.37% ของรายได้รวมทั้งหมด ซึ่งแบ่งออกเป็น 2 ประเภทหลัก คือ
    • 1.1 การให้บริการรักษาผู้มีบุตรยากด้วยวิธีการ ICSI (Intracytoplasmic Sperm Injection) ประกอบด้วยการให้บริการกระตุ้นไข่ เก็บไข่ บริการปฏิสนธิ (ICSI) บริการเลี้ยงตัวอ่อนจนถึงระยะ Blastocyst แช่แข็งตัวอ่อนและบริการย้ายตัวอ่อน
    • 1.2 การให้บริการรักษาผู้มีบุตรยากด้วยวิธีอื่นๆ เช่น การตรวจพันธุกรรม การให้บริการฉีดอสุจิเข้าสู่โพรงมดลูก (IUI) การเก็บอสุจิจากอัณฑะโดยตรง เป็นต้น
  2. การให้บริการเวชศาสตร์ชะลอวัย (Anti-Aging) ที่ได้เริ่มให้บริการในปี พ.ศ. 2566 ด้วยวิสัยทัศน์ที่อยากผลักดันอัตราความสำเร็จในการตั้งครรภ์ของผู้รับบริการเพิ่มขึ้น โดยการใช้เวชศาสตร์ชะลอวัยมาช่วยสนับสนุนการดูแลสุขภาพแบบองค์รวม และต่อมาจึงได้ขยายขอบเขตการให้บริการสู่คนในครอบครัวและบุคคลทั่วไป โดยสามารถสร้างรายได้ 13.64 ล้านบาท คิดเป็น 11.18%

นอกจากนั้น ยังมีรายได้อื่น ๆ อีก 5.5 แสนบาท คิดเป็น 0.45% โดยมีการเติบโตกว่า 88.29% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปี 2565 ที่มีรายได้ 64.84 ล้านบาท ซึ่งสาเหตุหลักมาจากการที่นำบริการเวชศาสตร์ชะลอวัยมาช่วยเสริมในการให้บริการรักษาผู้มีบุตรยาก รวมถึงการที่ลูกค้านิยมใช้การตรวจแบบ PGT-SR แทน PGT-A เนื่องจากสามารถตรวจหาความผิดปกติของโครโมโซมได้มากกว่าสำหรับการให้บริการรักษาผู้มีบุตรยากด้วยวิธีอื่น ๆ

ทั้งนี้ บริษัทฯ มีนโยบายการจ่ายเงินปันผลโดยจะพิจารณาตามความสามารถในการทำไรแต่ละปี ไม่น้อยกว่าร้อยละ 50 ของกำไรสุทธิตามงบการเงินเฉพาะกิจการ หลังหักภาษีเงินได้นิติบุคคล และเงินทุนสำรองตามกฎหมาย และเงินสำรองอื่นๆ (ถ้ามี)

ที่มา: โอกิลวี่ (ประเทศไทย)

ข่าวประชาสัมพันธ์ล่าสุด

๑๘ เม.ย. ARDA จับมือ ฟาร์ม เอ็กซ์โป และพันธมิตร เปิดศึก AGRITHON by ARDA Season 2 เฟ้นหาสุดยอดไอเดียปลุกพลังนวัตกรรมเกษตรไทย ชิงทุนวิจัยรวมกว่า 100
๑๘ เม.ย. กรุงศรี ฉลอง 80 ปี ดูหนัง 80 บาท ที่ Major Cineplex เมื่อชำระด้วยบัตรกรุงศรี เดบิตและบัตร Krungsri Boarding
๑๘ เม.ย. แบรนด์ซุปไก่สกัด รณรงค์ขับขี่ปลอดภัยในโครงการ สมองล้าอย่าขับ พักดื่มแบรนด์ จับมือ ตำรวจทางหลวง และ ตำรวจจราจร
๑๘ เม.ย. ซัมซุงจัดใหญ่! เป็นเจ้าของ ตู้เย็น Side by Side รุ่นใหม่ล่าสุด พร้อมรับสิทธิพิเศษแบบจุใจ ได้แล้ววันนี้
๑๘ เม.ย. ธนาคารสแตนดาร์ดชาร์เตอร์ดปรับลดประมาณการเศรษฐกิจไทยปี 2568 คาดกนง.มีมติลดดอกเบี้ยนโยบายในการประชุมเดือนเมษายนนี้
๑๘ เม.ย. EXIM BANK ร่วมกับกระทรวงการคลังและกระทรวงพาณิชย์ ออกมาตรการช่วยเหลือผู้ประกอบการไทย โดยเฉพาะ SMEs รับมือนโยบายภาษีแบบตอบโต้ของสหรัฐฯ
๑๘ เม.ย. ปักหมุด! เตรียมจัดงาน PET Expo Thailand 2025 จัดยิ่งใหญ่ครบรอบ 25 ปี
๑๘ เม.ย. ลดคลายร้อน ช้อปแลคตาซอย 1,000 ลด 100 พร้อมชวนร่วมสนุกถ่ายภาพคู่แลคตาซอย ลุ้น 10 รางวัล
๑๘ เม.ย. DITP ประชุมผู้จัดแสดงสินค้า เตรียมความพร้อมสู่เวที THAIFEX - ANUGA ASIA 2025
๑๘ เม.ย. โรงแรมเครือดุสิตธานี เปิดตัวโปรพิเศษต้อนรับซัมเมอร์ 'A Night on Us' เติมเต็มวันพักผ่อนอย่างมีความสุขกับโรงแรมและรีสอร์ทในเครือดุสิตธานีทั่วโลก