นายทิพย์ ดาลาล ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ทริพเพิล ไอ โลจิสติกส์ จำกัด (มหาชน) หรือ III ผู้ให้บริการ โลจิสติกส์ชั้นนำระดับภูมิภาค เปิดเผยว่า บริษัทฯ สามารถทำผลการดำเนินงานไตรมาส 1/2567 เติบโตได้ดี ทั้งที่อยู่ในภาวะค่าระวางที่ลดลง โดยมีรายได้จากการขายและให้บริการ 499 ล้านบาท เติบโต 14% และมีกำไรสุทธิ 116 ล้านบาท ลดลง 19 % จากช่วงเดียวกันของปีก่อน ปัจจัยสำคัญที่ทำให้รายได้เติบโตมาจากการฟื้นตัวที่ดีของอุตสาหกรรมการบินและการท่องเที่ยว ส่งผลดีต่อจำนวนเที่ยวบินระหว่างประเทศที่เพิ่มขึ้น ประกอบกับบริษัทฯ ได้วางยุทธศาสตร์ Logistics and Beyond ด้วยการขยายธุรกิจและการลงทุนด้านโลจิสติกส์และอุตสาหกรรมที่เกี่ยวเนื่อง เพื่อผสานความแข็งแกร่งภายในกลุ่มบริษัท ทริพเพิลไอ ทำให้กลุ่มธุรกิจที่เกี่ยวข้องกับการขนส่งสินค้าทางอากาศมีอัตราเติบโตที่ดี และแม้สัดส่วนการถือหุ้นใน ANI ลดลง แต่ด้วยยุทธศาสตร์ที่วางไว้ ทำให้ได้รับส่วนแบ่งกำไรที่เพิ่มขึ้นจากธุรกิจอื่นๆ ที่เข้าลงทุนมาชดเชยอย่างมีนัยสำคัญ
ภาพรวมสำหรับกลุ่มธุรกิจโลจิสติกส์เดิมของบริษัทฯ สามารถเติบโตอย่างต่อเนื่อง ทั้งจากกลุ่มธุรกิจการขนส่งสินค้าทางอากาศและกลุ่มธุรกิจบริหารจัดการโลจิสติกส์สำหรับเคมีภัณฑ์และสินค้าอันตราย โดยเฉพาะอย่างยิ่งกลุ่มธุรกิจการขนส่งสินค้าทางอากาศที่มีการเติบโตอย่างโดดเด่นจากธุรกิจการรับจัดการขนส่งสินค้าทางอากาศ ที่มุ่งเน้นการใช้ประเทศไทยเป็น HUB ในภูมิภาค โดยโฟกัสไปยังกลุ่มสินค้า e-Commerce เป็นหลัก แม้ว่าจะได้รับผลกระทบจากค่าระวางขนส่งสินค้าทางอากาศปรับตัวลดลงอย่างมาก รวมไปถึงการเติบโตของธุรกิจให้บริการคลังสินค้าในท่าอากาศยานดอนเมืองที่มีปริมาณสินค้าผ่านคลังที่เติบโตอย่างต่อเนื่องจากปริมาณเที่ยวบินที่เพิ่มมากขึ้น
ในส่วนธุรกิจใหม่ที่บริษัทฯ เข้าลงทุนอย่างบริษัท เอเชีย เน็ตเวิร์ค อินเตอร์เนชั่นแนล จำกัด (มหาชน) หรือ ANI ผู้นำธุรกิจตัวแทนขายระวางสินค้าสายการบินในภูมิภาค แม้บริษัทฯ จะมีสัดส่วนการถือหุ้นใน ANI ลดลงหลังจาก ANI เข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ฯ แต่จากการที่ ANI เตรียมเดินหน้าขยายบริการเพิ่มอีก 3 ประเทศเศรษฐกิจหลัก ได้แก่ อินเดีย เกาหลี และญี่ปุ่น ซึ่งเดิมมีพื้นที่ทางธุรกิจครอบคลุม 8 ประเทศเอเชีย จะทำให้บริษัทฯ มีโอกาสได้รับส่วนแบ่งกำไรที่ดีขึ้นในไตรมาสถัดไป ที่สำคัญจากการลงทุนผ่าน บริษัท เอสเอแอล กรุ๊ป (ไทยแลนด์) หรือ SAL ทำให้ในไตรมาส 1/2567 บริษัทฯ ได้รับส่วนแบ่งกำไรที่เพิ่มขึ้นจากการเติบโตที่โดดเด่นของ บริษัท บริการภาคพื้น ท่าอากาศยานไทย จำกัด หรือ AOTGA ผู้ให้บริการภาคพื้นสนามบินและผู้โดยสารในสนามบินดอนเมืองและภูเก็ต ซึ่งได้รับอานิสงส์จากการฟื้นตัวของอุตสาหกรรมการบินและการท่องเที่ยว รวมทั้งจะเริ่มให้บริการคลังสินค้ารองรับการขนส่งหลายรูปแบบ (MULTIMODAL WAREHOUSE) บนพื้นที่ประมาณ 4,800 ตร.ม. ภายในสนามบินสุวรรณภูมิในไตรมาส 2/2567 และล่าสุด AOTGA เตรียมยื่นประมูลเพื่อคัดเลือกผู้ให้บริการภาคพื้นดินของสนามบินสุวรรณภูมิรายที่ 3 ในเร็วๆนี้ นอกจากนี้ยังหาโอกาสร่วมมือกับพันธมิตรทางธุรกิจใหม่ๆ สร้างโอกาสในการเติบโตอย่างยั่งยืน
"จากภาพรวมในไตรมาส 1/2567 รวมถึงปัจจัยบวกต่างๆ คาดว่าบริษัทฯ มีแนวโน้มการเติบโตที่ดีทั้งจากการเติบโตของกลุ่มธุรกิจโลจิสติกส์เดิม และธุรกิจใหม่ที่เข้าลงทุน มั่นใจว่าจะผลักดันให้ปีนี้เติบโต 15% ได้ตามเป้าหมาย โดยการมุ่งขับเคลื่อนธุรกิจอย่างยั่งยืนด้วยยุทธศาสตร์ Logistics and Beyond ผสานความแข็งแกร่งของกลุ่มธุรกิจในรูปแบบการ Synergy ระหว่างบริษัทในกลุ่ม การร่วมทุนและเข้าซื้อกิจการ โดยเน้นพัฒนาการให้บริการโลจิสติกส์รูปแบบใหม่ๆ ทั้งในประเทศและระดับภูมิภาคให้ครอบคลุมและหลากหลาย เพื่อเติบโตอย่างรวดเร็วรับเศรษฐกิจที่ทยอยฟื้นตัวและก้าวสู่หนึ่งในผู้ให้บริการโลจิสติกส์ชั้นนำในภูมิภาคเอเชีย" ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บมจ.ทริพเพิล ไอ โลจิสติกส์ กล่าว
ที่มา: เอ็ม ที มัลติมีเดีย