L&E เผยภาพรวม H1/67 ทรงตัว เชื่อครึ่งปีหลังฟื้นตัวทั้งในปท.-ตปท. แจ้งงบโค้งแรกมีรายได้ 554 ลบ.เหตุงานโครงการใหญ่เลื่อนส่งมอบ ขาดทุนสุทธิปรับตัวดีขึ้น 55%

ศุกร์ ๑๐ พฤษภาคม ๒๕๖๗ ๑๐:๕๔
L&E ส่งซิกภาพรวม H1/67 ทรงตัว ประเมินภาพรวมครึ่งปีหลังสดใสกว่าครึ่งปีแรก จากสถานการณ์ในประเทศและต่างประเทศมีแนวโน้มที่ดี ภาพรวมทั้งปีเชื่อว่ายอดขายยังเติบโตได้ 10% ล่าสุดแจ้งงบ Q1/67 มีรายได้จากการขายและให้บริการ 554 ลบ. ลดลง 16% จากงวดเดียวกันของปีก่อน เหตุจากงานโครงการใหญ่เลื่อนการส่งมอบงานออกไป และความล่าช้าการอนุมัติงบประมาณแผ่นดิน ส่งผลการจัดซื้อจัดจ้างของภาครัฐต้องชะลอออกไป รวมทั้งการผลิตและขายสินค้าของบริษัทย่อยให้ลูกค้าปลายทางประเทศสหรัฐอเมริกา ผ่านบริษัทพันธมิตรลดลง และยังไม่สามารถหาตลาดทดแทนมาชดเชยได้ทันในไตรมาสแรกนี้ โดยภาษีเงินได้นิติบุคคลเพิ่มขึ้น 2.9 ลบ. เนื่องจากการขาดทุนสุทธิจำนวน 1.6 ลบ. ในปีที่แล้วได้รวมรายได้ที่เกิดขึ้นครั้งเดียวจากการชดเชยของบริษัทพันธมิตรจำนวน 28.2 ลบ. หากไม่นับรวมรายได้ที่เกิดขึ้นครั้งเดียวดังกล่าว บริษัทจะมีผลขาดทุนจากการดำเนินงานปกติในปีที่แล้วเป็นเงิน 29.8 ลบ. เมื่อเทียบกับผลขาดทุน Q1/67 จำนวน 13.4 ลบ. ผลขาดทุนได้ลดลง 16.4 ล้านบาท หรือปรับตัวดีขึ้น 55%
LE เผยภาพรวม H1/67 ทรงตัว เชื่อครึ่งปีหลังฟื้นตัวทั้งในปท.-ตปท. แจ้งงบโค้งแรกมีรายได้ 554 ลบ.เหตุงานโครงการใหญ่เลื่อนส่งมอบ ขาดทุนสุทธิปรับตัวดีขึ้น 55%

นายอนันต์ กิตติวิทยากุล ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ไลท์ติ้ง แอนด์ อีควิปเมนท์ จำกัด (มหาชน) หรือ L&E ผู้นำธุรกิจผลิตและจัดจำหน่ายโคมไฟฟ้า รวมทั้งอุปกรณ์แสงสว่างรายใหญ่ของประเทศไทยและในภูมิภาคอาเซียน เปิดเผยว่า ภาพรวมธุรกิจครึ่งปีแรกของปี 2567 คาดการณ์รายได้จะทรงตัวเมื่อเทียบกับปี 2566 สาเหตุหลักๆ มาจากตลาดในประเทศ งานโครงการ งานภาครัฐ งานขายส่ง/ขายปลีก ค่อยๆ ฟื้นตัว โดยขยายตัวตามประมาณการอัตราการเติบโตของเศรษฐกิจ (GDP) ที่เพิ่มขึ้น 2-3% ไม่ก้าวกระโดดตามที่คาดการณ์ไว้ก่อนหน้า เนื่องจากการชะลอตัวของภาคอสังหาริมทรัพย์ ภาคการส่งออกและภาพเศรษฐกิจโดยรวมของประเทศ โดยครึ่งปีหลังคาดการณ์น่าจะดีขึ้นหลังจากโครงการและมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจจากภาครัฐ รวมทั้งการเบิกจ่ายงบประมาณฯ เริ่มมีผลบังคับใช้ ด้านตลาดต่างประเทศ งานโครงการใหญ่ๆ ที่ติดตาม เช่น โครงการ mix-used ในประเทศอินโดนิเซีย ห้างสรรพสินค้าใหญ่ ในประเทศออสเตรเลียนั้น มีแนวโน้มที่จะได้งานสูงมาก และสินค้าที่ผลิตจำนวนมากๆ เพื่อส่งออกไปยังตลาดในภูมิภาคอาเซียนก็จะเริ่มส่งผลอย่างจริงจังในครึ่งปีหลัง

"ภาพรวมธุรกิจครึ่งปีแรกคงยังทรงตัว แต่มีทิศทางที่ดีเนื่องจากบริษัทมีงานใหม่ๆ เข้ามาเพิ่มเรื่อยๆ ซึ่งจากการประเมินแนวโน้มครึ่งปีหลังเชื่อว่าจะดีทั้งตลาดในประเทศและต่างประเทศ โดยภาพรวมทั้งปีเชื่อว่ายอดขายยังคงเติบโตได้ 10% จากปีที่ผ่านมา" นายอนันต์ กล่าว

สำหรับผลการดำเนินงานของบริษัทไตรมาส 1/2567 บริษัทมีรายได้จากการขายและให้บริการ 554 ล้านบาท ลดลงจากปีก่อนหน้า 104 ล้านบาท หรือลดลง 16% ส่วนใหญ่เป็นผลจากมีงานโครงการจำนวนหนึ่ง อาทิเช่น โครงการ One Bangkok โครงการ Forestias และโครงการปรับปรุงห้างต่างๆ เป็นต้น ต้องเลื่อนการส่งมอบงานและรับรู้รายได้ไปเป็นไตรมาสที่ 2 จำนวน 32 ล้านบาท ไตรมาสที่ 3 จำนวน 77 ล้านบาท และหลังไตรมาสที่ 3 อีกจำนวน 155 ล้านบาท รวมทั้งความล่าช้าจากการอนุมัติงบประมาณแผ่นดิน ทำให้การจัดซื้อจัดจ้างของภาครัฐต้องชะลอออกไป และได้ส่งผลกระทบต่อรายได้ของบริษัทด้วย นอกจากนี้รายได้ที่ลดลงยังเป็นผลจากการผลิตและขายสินค้าของบริษัทย่อยแห่งหนึ่งให้ลูกค้าปลายทางที่ประเทศสหรัฐอเมริกาผ่านบริษัทพันธมิตรลดลง และยังไม่สามารถหาตลาดทดแทนมาชดเชยได้ทันในไตรมาสนี้ บริษัทมีขาดทุนสำหรับงวด 13.4 ล้านบาท เทียบกับปีก่อนหน้าที่ขาดทุน 1.6 ล้านบาท บริษัทมีขาดทุนเพิ่มขึ้น 11.8 ล้านบาท เป็นผลจากปัจจัยต่อไปนี้ โดยกำไรขั้นต้นจากการขายรวมรายได้อื่นลดลง 4.6 ล้านบาท หรือลดลง 2% แม้ยอดขายจะลดลง 16% ทั้งนี้เพราะอัตรากำไรขั้นต้นได้ปรับตัวดีขึ้นจาก 31.3% ในปี 2566 เป็น 35.5% ในปี 2567 เป็นผลจากบริษัทได้พัฒนากระบวนการผลิตจนสามารถลดต้นทุนการผลิตได้อย่างต่อเนื่อง รวมทั้งในไตรมาสนี้บริษัทได้ขายสินค้าที่มีอัตรากำไรขั้นต้นสูงในสัดส่วนที่เพิ่มขึ้นด้วย

ค่าใช้จ่ายในการขายและให้บริการรวมดอกเบี้ยจ่ายเพิ่มขึ้น 4.3 ล้านบาท หรือเพิ่มขึ้น 2% แม้ค่าใช้จ่ายจากการขนส่งสินค้าจะลดลง เนื่องจากยอดขายที่ปรับตัวลดลง ค่าใช้จ่ายที่เพิ่มขึ้น ส่วนใหญ่เป็นค่าใช้จ่ายที่เกี่ยวกับการขยายตลาด และการส่งเสริมการขายสินค้าที่พัฒนาขึ้นใหม่ รวมถึงการพัฒนา supply chains ให้มีประสิทธิภาพยิ่งขึ้น ในไตรมาสนี้บริษัทมีดอกเบี้ยจ่ายเพิ่มขึ้น 3.3 ล้านบาท เป็นผลจากอัตราดอกเบี้ยที่ปรับต้วสูงขึ้นจาก 3.41% ในปี 2566 เป็น 4.59% ในปี 2567

โดยภาษีเงินได้นิติบุคคลเพิ่มขึ้น 2.9 ล้านบาท เนื่องจากการขาดทุนสุทธิจำนวน 1.6 ล้านบาท ในปีที่แล้วได้รวมรายได้ที่เกิดขึ้นครั้งเดียวจากการชดเชยของบริษัทพันธมิตรจำนวน 28.2 ล้านบาท หากไม่นับรวมรายได้ที่เกิดขึ้นครั้งเดียวดังกล่าว บริษัทจะมีผลขาดทุนจากการดำเนินงานปกติในปีที่แล้วเป็นเงิน 29.8 ล้านบาท เมื่อเทียบกับผลขาดทุนของงวดนี้จำนวน 13.4 ล้านบาท ผลขาดทุนได้ลดลง 16.4 ล้านบาท หรือปรับตัวดีขึ้น 55% "ผลการดำเนินงานไตรมาสแรกปีนี้ขาดทุนลดลง เมื่อเทียบกับไตรมาสแรกของปีที่ผ่านมา และประเมินว่าจะปรับตัวดีขึ้นเรื่อยๆ ในไตรมาสต่อไป โดยอัตรากำไรขั้นต้นได้ปรับตัวดีขึ้นจาก 31.3% ในปี 2566 เป็น 35.5% ในปี 2567 เนื่องจากบริษัทได้พัฒนากระบวนการผลิตจนสามารถลดต้นทุนการผลิตได้อย่างต่อเนื่อง รวมทั้งในไตรมาสแรกปีนี้ บริษัทได้ขายสินค้าที่มีอัตรากำไรขั้นต้นสูงในสัดส่วนที่เพิ่มขึ้นด้วย" นายอนันต์ กล่าว

ที่มา: IR PLUS

ข่าวประชาสัมพันธ์ล่าสุด

๑๕ พ.ย. ดิ เอราวัณ กรุ๊ป เปิดตัว HOP NextGen ชวนนักศึกษาเยี่ยมชม ฮ็อป อินน์ เรียนรู้เทคนิคบริการแบบ Consistency is Yours พร้อมพัฒนาบุคลากรรุ่นใหม่
๑๕ พ.ย. คิง เพาเวอร์ ต้อนรับเทศกาลแห่งความสุขส่งท้ายปี เปิดแคมเปญ THE POWER OF FUNTASTIC CELEBRATION 2025 ฉลองทุกความสุข สนุกไม่รู้จบ
๑๕ พ.ย. พันธุ์ไทย ชวนแฟนด้อม คัลแลนและพี่จอง จุ่ม การ์ดพันธุ์ไทยใจฟู ลิมิเต็ด อิดิชั่น
๑๕ พ.ย. BAM ทรานส์ฟอร์มองค์กรสู่ DIGITAL ENTERPRISE ตอกย้ำผู้นำ AMC ยุค 4.0 วางเป้าหมายยกระดับองค์กรสร้างโอกาสเติบโตอย่างยั่งยืน เตรียมส่ง อิสระ เดอะซีรีส์ ชวนลูกหนี้ BAM
๑๕ พ.ย. บางจากฯ ได้รับการประเมินด้านความยั่งยืนอันดับสูงสุดของโลก จาก SP Global 2024 ในกลุ่มอุตสาหกรรม Oil Gas Refinery and
๑๔ พ.ย. ซีเอเค อินเตอร์เนชั่นแนล ออกบูธให้ความรู้เรื่องการใช้งานระบบดับเพลิงนร. พระหฤทัยนนทบุรี
๑๒ พ.ย. พนักงานซีเอเค อินเตอร์เนชั่นแนล รับรางวัลเจ้าหน้าที่ความปลอดภัยในการทำงานดีเด่น
๑๕ พ.ย. PROSPECT REIT ชูไตรมาส 3/67 โตเกินเป้า อัตราการเช่าพุ่งนิวไฮ หนุนจ่ายปันผลเด่น 0.2160 บาท
๑๕ พ.ย. CHAO ประกาศงบ Q3/67 กำไรพุ่งกว่า 62% รับตลาดส่งออกพีค จีนโตเด่น แย้ม Q4 เดินหน้าบุกตลาดในประเทศ สินค้าใหม่หนุนยอดขายปลายปี
๑๕ พ.ย. ฉลองเทศกาลลอยกระทงประจำปี 2567 ณ โรงแรมแมนดาริน โอเรียนเต็ล กรุงเทพฯ