นางสุวรรณา ขจรวุฒิเดช ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท มีนาทรานสปอร์ต จำกัด (มหาชน) หรือ MENA ผู้นำธุรกิจให้บริการขนส่งคอนกรีตผสมเสร็จด้วยรถมิกเซอร์ (Mixer) และรถเทรลเลอร์ (Trailer) รายใหญ่ของประเทศ เปิดเผยถึงผลการดำเนินงานงวดไตรมาส1/2567 (สิ้นสุดวันที่ 31 มีนาคม 2567) ว่าบริษัทฯ มีกำไรสุทธิเท่ากับ 11 ล้านบาท และมีรายได้รวมเท่ากับ 197 ล้านบาท โดยปริมาณการใช้คอนกรีตผสมเสร็จของทั้งประเทศในไตรมาส 1/2567 ถือว่าอยู่ในระดับเดียวกับไตรมาส 4/2566 ซึ่งยังไม่ได้รับปัจจัยบวกจากการลงทุนของภาครัฐ
ทั้งนี้จะเห็นได้ว่าในเดือนมีนาคม 2567 บริษัทฯ มีส่วนแบ่งการตลาด (Market Share) ของธุรกิจการขนส่งคอนกรีตผสมเสร็จเพิ่มขึ้นเป็น 11.6% จากเดิมอยู่ที่ 11.4% แสดงถึงธุรกิจหลักของ MENA คือ การให้บริการขนส่งคอนกรีตผสมเสร็จด้วยรถ Mixer เติบโตมากกว่าอุตสาหกรรมการก่อสร้าง นอกจากนี้ในส่วนของบริษัทร่วมทุน TDM ซึ่งได้ประกอบกิจการตั้งแต่วันที่ 1 พฤษภาคม 2566 ยังได้จ่ายเงินปันผล สำหรับผลการดำเนินงานของปี 2566 ให้กับ MENA ตามสัดส่วนการถือหุ้นคิดเป็นจำนวนเงิน 13 ล้านบาทอีกด้วย
"จะเห็นได้ว่าไตรมาสแรกของปีนี้ ปริมาณการใช้คอนกรีตผสมเสร็จของทั้งประเทศยังอยู่ในระดับเดียวกับไตรมาสที่ 4/2566 ซึ่งยังไม่ได้รับปัจจัยบวกจากการลงทุนของภาครัฐ แต่จะเห็นได้ว่าในเดือนมีนาคม 2567 บริษัทฯ มีส่วนแบ่งการตลาดของการขนส่งคอนกรีตผสมเสร็จเพิ่มขึ้น ทำให้เห็นว่าธุรกิจการให้บริการขนส่งคอนกรีตผสมเสร็จด้วยรถ Mixer ของบริษัทฯ เติบโตมากกว่าการเติบโตของอุตสาหกรรมเดียวกัน" นางสุวรรณา กล่าว
สำหรับแนวโน้มธุรกิจโลจิสติกส์ในไตรมาสที่ 2/2567 คาดว่าจะขยายตัวได้อย่างต่อเนื่อง ทั้งธุรกิจการให้บริการขนส่งคอนกรีตผสมเสร็จด้วยรถมิกซ์เซอร์ และธุรกิจการขนส่งสินค้าอุปโภคบริโภค โดยมีปัจจัยสนับสนุนจากการเร่งรัดการเบิกจ่ายงบประมาณและการใช้จ่ายภาครัฐ ซึ่งล่าช้ามาจากปี 2566 โดยเฉพาะอย่างยิ่งการที่ภาครัฐเดินหน้าพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานด้านคมนาคมขนส่ง มุ่งยกระดับการขนส่งและโลจิสติกส์ เพื่อเพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขันของประเทศ ทั้งทางราง ถนน น้ำ และอากาศ ทำให้การเดินทางเชื่อมต่อของระบบขนส่งเป็นไปอย่างไร้รอยต่อ ซึ่งจะส่งผลดีต่อธุรกิจหลักของ MENA คือการให้บริการขนส่งคอนกรีตผสมเสร็จด้วยรถ Mixer
นอกจากนี้ การลงทุนของภาคเอกชนที่เพิ่มขึ้น โดยการขานรับกับการท่องเที่ยวที่เพิ่มขึ้นจากนโยบายฟรีวีซ่าของรัฐบาล จะเป็นปัจจัยบวกต่อธุรกิจของบริษัทฯ และ TDM ซึ่งเป็นบริษัทร่วมของบริษัทฯ ซึ่งนอกจากจะทำให้ธุรกิจการก่อสร้างขยายตัวแล้ว ยังจะทำให้การขนส่งสินค้าอุปโภคบริโภคเพิ่มขึ้นอีกด้วย
ในขณะเดียวกันบริษัทฯ ยังคงมองหาพันธมิตรใหม่ๆ เพื่อขยายงานด้านการขนส่งอย่างต่อเนื่องในปี 2567 โดยเฉพาะงานขนส่ง e - commerce เพื่อขยายตลาดและเป็นการเพิ่มศักยภาพธุรกิจหลักให้มีความแข็งแกร่งมากยิ่งขึ้น ซึ่งอยู่ในช่วงของการเริ่มต้นเข้าไปให้บริการของบริษัทฯ โดยบริษัทฯ ยังคงตั้งเป้าหมายรายได้ปีนี้จะเติบโตได้ไม่ต่ำกว่า 15%
ที่มา: ไออาร์เน็ตเวิร์ค