ชัยพิพัฒน์ เผยว่า "ผลการดำเนินงานของ AQUA ปีนี้ได้สะท้อนการปรับโครงสร้างธุรกิจใหม่อย่างหลากหลาย เพื่อแสวงหารายได้ที่เติบโตอย่างต่อเนื่องและกระจายความเสี่ยงต่อการขยายการลงทุนในกลุ่มธุรกิจ Mega Trend ของโลก อาทิ ธุรกิจโรงไฟฟ้าพลังงานสะอาด ธุรกิจขนส่ง และธุรกิจ FinTech เพื่อบรรลุกลยุทธ์ดังกล่าว ทาง AQUA จัดการความเสี่ยงโดยมีธุรกิจ Cash Cow ที่สร้างรายได้อย่างมั่นคงในระยะยาว 7-30 ปี จากกลุ่มธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ อย่างบริษัท ไทย คอนซูมเมอร์ ดิสทริบิวชั่น เซ็นเตอร์ ("TCDC"), บริษัท แอ๊คคอมพลิช เวย์ โฮลดิ้ง จำกัด ("AWH") และบริษัท มันตรา แอสเซ็ท จำกัด ("MANTRA")"
"AQUA ได้รับรู้รายได้บวกจากบริษัทย่อยที่เข้าไปลงทุนคือ CPC ในสัดส่วน 78.90% ซึ่งประกอบธุรกิจโฮลดิ้งส์ โดยลงทุนในกลุ่มขนส่ง ที่ให้บริการขนส่งพนักงานในนิคมอุตสาหกรรมซึ่งรายได้ขยายตัวอย่างต่อเนื่อง +15.09% QoQ หลังจากกวาดรายได้ 105 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจาก 90 ล้านบาท สะท้อนจากมาตรการสนับสนุนนิคมอุตสาหกรรมของภาครัฐ และนโยบาย/มาตรการกระตุ้นการลงทุนจากต่างชาติ นอกจากนี้ทาง CPC ได้เพิ่มรายได้หลังจากได้สัญญาบริการด้วยรถไฟฟ้า ("EV") มากขึ้นเพื่อพร้อมตอบรับนโยบาย Net Zero Emission จากทั้งบริษัททั้งไทยและต่างชาติ ซึ่งในส่วนรายได้จากธุรกิจท่องเที่ยวไทยเติบโตอย่างต่อเนื่องใน Q1/67 และตั้งเป้ารายได้กว่า 100 ล้านบาทภายในปีนี้ หลังจากรับอานิสงส์จากมาตรการยกเว้นวีซ่า (Visa Free) สำหรับชาวจีน คาซัคสถาน อินเดีย และไต้หวัน ในปีนี้ รวมถึงเส้นทางการบินระหว่างไทย-จีนที่เพิ่มขึ้นตั้งแต่ช่วงปลายปี 2566-2567 AQUA ยังมั่นใจว่าแผน IPO จะสำเร็จได้ภายใน 5 ปีพร้อมทั้งมีแผนขยายธุรกิจในกลุ่มขนส่งนี้ด้วย หลังจากความสำเร็จที่เข้าลงทุนกับบริษัทในเครืออย่าง บริษัท ไทยพาร์เซิล จำกัด (มหาชน) หรือ TPL"
"กลุ่มธุรกิจอาหาร หลังจากเข้าลงทุนใน NOMI ในสัดส่วน 84.58% ณ ปัจจุบันมี 5 สาขา เตรียมมีแผนที่จะขยายสาขาอย่างต่อเนื่องไปยังพื้นที่ที่มีศักยภาพหลังจากสร้างกำไรได้ในทุกสาขา ทั้งนี้เพื่อลดต้นทุนส่วนกลาง นอกจากนี้ บริษัทฯพร้อมลุยธุรกิจอาหารในแบรนด์ใหม่ๆ และเสริมศักยภาพการโตแบบก้าวกระโดด พร้อมดันเข้าตลาดหลักทรัพย์ฯ ภายใน 5 ปี"
"ด้านธุรกิจ FinTech บริษัท AQUA เล็งเห็นถึง Synergy ระหว่าง บริษัท เพียร์ ฟอร์ ออล จำกัด ("PFA") และ บริษัท เพียร์ ฟอร์ ยู จำกัด (มหาชน) ("PEER") เนื่องด้วย PEER มีส่วนในการส่งเสริมและผลักดันให้เกิดการให้บริการลูกค้าในด้านการตลาดได้เป็นอย่างดี และพร้อมมีระบบงานที่รองรับการให้บริการลูกค้าตามเกณฑ์ของธนาคารแห่งประเทศไทย บริษัทฯจึงได้ตัดสินเข้าไปถือหุ้น PEER อย่างมั่นใจในการใช้กลยุทธ์เชิง Proactive การขยายจำนวนผู้ใช้บริการ "P2P" platform เบื้องต้นน่าจะมีการนำ CRM ของ PEER มาใช้ร่วมกัน ทั้งในเชิง Data Driven เพื่อวิเคราะห์ข้อมูล Consumer Behavior ของ NTF การเข้ามาเสริมพื้นฐานเทคโนโลยีให้แข็งแรงมากขึ้น"
ทั้งนี้นายชัยพิพัฒน์ กล่าวเสริมว่า "บริษัทฯกำลังศึกษาธุรกิจเพิ่มเติมเพื่อขยายโอกาส สร้างรายได้จากธุรกิจ ต่อยอดธุรกิจปัจจุบันที่มีอยู่ เพิ่มความหลากหลายไม่ว่าจะเป็นกลุ่มธุรกิจอาหาร หรือกลุ่มธุรกิจขนส่งให้กับบริษัท โดยมั่นใจว่าจะเห็นความคืบหน้าได้ภายในไตรมาสที่ 3/67 และบริษัทฯเตรียมจะจัดแถลงข่าวการเปิดตัวธุรกิจใหม่ในลำดับถัดไป เพื่อแสดงถึงการจัดวางโครงสร้างการลงทุนใหม่ที่ชัดเจน"
"บริษัทฯมุ่งมั่นสร้างรายได้ปี 67 ให้เติบโตไปในทิศทางที่ดีขึ้นอย่างมั่นคง สร้างโอกาสในการขยายธุรกิจประเภทค้าปลีกทั้งในกลุ่มอาหาร เทคโนโลยี และพลังงาน เห็นได้จากการแผนการลงทุนในธุรกิจที่หลากหลายอย่างต่อเนื่องและการกระจายความเสี่ยงอย่างมีประสิทธิภาพ ตั้งเป้าสร้างรายได้ราว 2,000 ล้านบาทต่อปี"
ที่มา: อควา คอร์เปอเรชั่น