"สโตนวัน (STX)" งบ Q1/67 กำไรพีคกว่า 132% - จ่ายปันผล 0.055 บ./หุ้น แย้ม Q2 ออเดอร์แน่น โครงการลงทุนเหมืองใหม่คืบหน้า ดันรายได้โตกว่าเป้า 10%

ศุกร์ ๑๗ พฤษภาคม ๒๕๖๗ ๐๘:๓๒
"บมจ.สโตนวัน หรือ STX" ผลงานมาตามนัด!! ไม่ทำให้นักลงทุนผิดหวัง ประกาศงบโค้งแรกปีนี้ โกยกำไร 11.20 ลบ. โต 132.8% มีรายได้รวม 109.90 ลบ. เพิ่มขึ้น 52.5% จากงวดเดียวกันของปีก่อน สาเหตุหลักมาจากรายได้การขายหินแกรนิตของเหมืองหนองข่า และรายได้ของโดโลไมต์ พร้อมประกาศไฟเขียวจ่ายเงินปันผลตอบแทนผู้ถือหุ้นทันทีหลังเข้าตลาดหลักทรัพย์ mai ในอัตรา 0.055 บ./หุ้น กำหนดจ่าย 31 พ.ค.นี้ มั่นใจ แนวโน้ม Q2/67 เติบโตดี จากความต้องการใช้หินเพิ่มขึ้น รับการเบิกจ่ายงบประมาณปี 67 ทำให้โครงการเดิม และโครงการใหม่เดินหน้าต่อได้ หนุนเป้าหมายรายได้เติบโตมากกว่าเป้าหมาย Organic Growth ที่ระดับ 10% แย้ม ปัจจุบันคำสั่งซื้อใหม่เข้ามาจ่อรอคิวแน่น ขณะที่โครงการลงทุนในอนาคตการหาเหมืองใหม่ ยังคงเดินหน้าตามแผน
สโตนวัน (STX) งบ Q1/67 กำไรพีคกว่า 132% - จ่ายปันผล 0.055 บ./หุ้น แย้ม Q2 ออเดอร์แน่น โครงการลงทุนเหมืองใหม่คืบหน้า ดันรายได้โตกว่าเป้า 10%

นายทรงวุธ เวชชานุเคราะห์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท สโตนวัน จำกัด (มหาชน) หรือ STX เปิดเผยว่า ผลประกอบการของบริษัทในงวดไตรมาส 1/2567 บริษัทมีกำไรสุทธิ 11.20 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 6.39 ล้านบาท หรือ 132.8% เทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน และมีอัตรากำไรสุทธิ 10.19% เพิ่มขึ้น 3.52% และมีรายได้รวม 109.90 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 52.5% เทียบกับไตรมาสเดียวกันของปีก่อน สาเหตุหลักมาจากรายได้จากการขายของผลิตภัณฑ์หลักเพิ่มขึ้น 29.42 ล้านบาท หรือ 48.5% โดยเฉพาะรายได้ของผลิตภัณฑ์กลุ่มหินแกรนิต 20 มม. ของเหมืองหนองข่า ที่รับรู้รายได้เต็มงวด ระยะเวลา 3 เดือน นอกจากนี้รายได้ของกลุ่มโดโลไมต์เพิ่มขึ้นอย่างมากเช่นกัน ทั้งในส่วนของโดโลไมต์ก้อนที่มีคำสั่งซื้อเพิ่มขึ้นจากลูกค้าและโดโลไมต์ผงที่เป็นผลิตภัณฑ์ใหม่และรับรู้รายได้เต็มงวดในไตรมาส 1/2567 ในขณะที่บริษัทไม่มีรายได้จากการขายของโดโลไมต์ผงในไตรมาสแรกปีนี้

"โดยกำไร และรายได้ที่เพิ่มขึ้น มาจากการเติบโตของรายได้ที่เพิ่มขึ้นอย่างมาก จากการขายหินแกรนิตของเหมืองหนองข่า และรายได้ของโดโลไมต์ รวมทั้งรายได้อื่นจากการขายรถบรรทุกขนส่งล็อตสุดท้าย โดยบริษัทได้ปรับเปลี่ยนไปใช้การขนส่งจากผู้ให้บริการขนส่งภายนอกแทน (Outsource) ซึ่งสามารถควบคุมต้นทุนและค่าใช้จ่ายที่เกี่ยวกับการซ่อมบำรุงได้อย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้น" นายทรงวุธ กล่าว

ทั้งนี้ สัดส่วนรายได้แบ่งตามกลุ่มผลิตภัณฑ์ในงวดไตรมาส 1/2567 ในกลุ่มหินปูน : หินแกรนิต : โดโลไมต์ อยู่ที่ 43% : 37% : 20% ตามลำดับ โดยมีสัดส่วนเปลี่ยนแปลงจากไตรมาส 1/2566 ที่มีสัดส่วนรายได้ของกลุ่มหินปูน : หินแกรนิต : โดโลไมต์ อยู่ที่ 70% : 24% : 6% ตามลำดับ

"สำหรับแนวโน้มผลงานในไตรมาส 2/2567 คาดว่าจะมีการเติบโตที่ดี จากความต้องการใช้หินที่เพิ่มมากขึ้น จากการเบิกจ่ายงบประมาณปี 2567 ทำให้โครงการเดิมที่รองบประมาณ และโครงการใหม่เดินหน้าต่อได้ รวมถึงราคาหินที่ปรับตัวเพิ่มขึ้นสนับสนุนผลประกอบการ STX คาดเติบโตมากกว่าเป้าหมาย Organic Growth ที่ระดับ 10% อีกทั้งปัจจุบันมีคำสั่งซื้อใหม่เข้ามาจ่อรอคิวแน่น" นายทรงวุธ กล่าว

นายทรงวุธ กล่าวเพิ่มเติมว่า โดยภายหลังการเสนอขายหุ้น IPO และระดมทุนเข้าซื้อขายในตลาดหลักทรัพย์ฯ เมื่อช่วงปลายเดือนเมษายนที่ผ่านมา บริษัทขอแจ้งความคืบหน้าโครงการลงทุนในอนาคต ว่าความคืบหน้าของการหาเหมืองใหม่ จังหวัดชลบุรี ณ 31 มีนาคม 2567 ผู้ขายอยู่ระหว่างการยื่นคำขอประทานบัตรใหม่ โดยในระหว่างนี้มีการเจรจาและต่อรองกับผู้ขายอย่างสม่ำเสมอ โดยบริษัทคาดว่าจะสามารถเริ่มเข้าลงทุนในเหมืองใหม่ ภายหลังการดำเนินการขอใบอนุญาตของผู้ขายแล้วเสร็จ

ส่วนความคืบหน้าของการหาเหมืองใหม่ จังหวัดเพชรบุรี ณ สิ้นไตรมาส 1/2567 บริษัทอยู่ระหว่างการเจรจาเงื่อนไขการซื้อขายหุ้นของบริษัทผู้ขาย โดยบริษัทอยู่ในขั้นตอนการสรรหาผู้ประเมินมูลค่าสินทรัพย์และที่ปรึกษาทางกฎหมาย บัญชีและภาษี เพื่อตรวจสอบสถานะของเหมืองใหม่ หากผลการตรวจสอบสถานะเป็นที่น่าพอใจ ก็จะเข้าสู่ขั้นตอนการซื้อเหมืองตามเงื่อนไขที่ตกลงร่วมกัน โดยคาดว่าผลการตรวจสอบสถานะดังกล่าวจะแล้วเสร็จประมาณภายในช่วงต้นไตรมาส 3/2567

อย่างไรก็ดี ก่อนหน้านี้ ที่ประชุมคณะกรรมการบริษัทฯ ได้อนุมัติการจ่ายเงินปันผลตอบแทนผู้ถือหุ้นทันทีหลังเข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ mai เมื่อวันที่ 26 เมษายน 2567 ในอัตราการจ่ายปันผลเป็นเงินสด 0.055 บาทต่อหุ้น โดยเป็นการจ่ายจากกำไรสะสม กำหนดวันที่จ่ายปันผล 31 พ.ค. 2567

ปัจจุบัน STX ดำเนินธุรกิจผลิตและจำหน่ายผลิตภัณฑ์หินอุตสาหกรรมเพื่อการก่อสร้างชนิดหินแกรนิตและชนิดหินปูน ผลิตและจำหน่ายผลิตภัณฑ์แร่โดโลไมต์ รวมถึงการให้บริการด้านขนส่งให้แก่ลูกค้าที่ไซต์งาน โดยบริษัทมุ่งเน้นในการผลิตสินค้าที่มีคุณภาพตามมาตรฐานสากล และมุ่งมั่นในการให้บริการเพื่อตอบสนองความพึงพอใจสูงสุดของลูกค้า นอกจากนี้ บริษัทยังมีการศึกษาและวิจัยในการขยายผลิตภัณฑ์ใหม่อย่างต่อเนื่องเพื่อให้เข้าถึงลูกค้ากลุ่มเป้าหมายที่หลากหลายมากขึ้น และสร้างมูลค่าเพิ่มให้กับผลิตภัณฑ์ปัจจุบัน และยังให้ความสำคัญกับการพัฒนาระบบการบริหาร คุณภาพของสินค้า การจัดการด้านสิ่งแวดล้อมและอาชีวอนามัย การสร้างความสัมพันธ์อันดีกับลูกค้าและรับผิดชอบต่อสังคมเป็นสำคัญ

 

ที่มา: IR PLUS

ข่าวประชาสัมพันธ์ล่าสุด

๒๐ ธ.ค. ASMT ผนึก TFT ร่วมลงนามด้านวิชาการด้านอุตสาหกรรมการบิน
๒๐ ธ.ค. กรมวิชาการเกษตร เดินหน้า ถ่ายทอดองค์ความรู้การผลิตอะโวคาโดคุณภาพ สร้างรายได้เพิ่มให้เกษตรกรกว่า 2 แสนบาท/ไร่
๒๐ ธ.ค. Dow มุ่งพัฒนาประสิทธิภาพผลิตภัณฑ์ Personal Care ควบคู่ความยั่งยืน ตอบโจทย์ผู้บริโภคตลาดเครื่องสำอางในภูมิภาคเอเชีย
๒๐ ธ.ค. โอซีซี มอบความรู้ พัฒนาอาชีพให้ผู้ต้องขังหญิง
๒๐ ธ.ค. ดร.นุชนารถ ชลคงคา นำทีมสถาบัน ESTC จัดอบรมให้ Karmakamet
๒๐ ธ.ค. กนภ. เห็นชอบร่าง พรบ. การเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ กลไกสำคัญสู่เส้นทางเศรษกิจคาร์บอนต่ำ และมีภูมิคุ้มกันฯ
๒๐ ธ.ค. WePlay x คอลแลบตัวละครสุดปัง! พบกับมินิเกมใหม่ และการ์ตูนสุดน่ารักที่คุณจะต้องหลงรัก
๒๐ ธ.ค. เดลต้า ประเทศไทย และ WEnergy Global ร่วมลงนามบันทึกข้อตกลงเพื่อขับเคลื่อนอนาคตพลังงานสีเขียว
๒๐ ธ.ค. ความภาคภูมิใจของ ไลอ้อน กับ 3 รางวัลแห่งเกียรติยศ เผยผลงานโดดเด่นกับหลายรางวัลที่ได้รับในปี 2567
๒๐ ธ.ค. NOBLE คว้าเรทติ้งสูงสุด ระดับ AAA SET ESG Ratings ประจำปี 2567 ยกระดับองค์กรสู่ความยั่งยืนภายในแนวคิด Live Different ตามกรอบ