ในไตรมาสที่ 1 ปี 2567 กองทุนรับรู้รายได้รวมจำนวน 247.2 ล้านบาท ภายหลังหักค่าใช้จ่ายรวมจำนวน 109.41 ล้านบาท ทำให้กองทุนรับรู้รายได้จากการลงทุนสุทธิ จำนวน 137.79 ล้านบาท ลดลง 2.5 ล้านบาท หรือลดลง 1.78% เมื่อเทียบกับไตรมาส 4 ปี 2566 หากเปรียบเทียบกับไตรมาสเดียวกันของปี 2566 กองทุนรับรู้รายได้จากการลงทุนสุทธิเพิ่มขึ้น 6.21 ล้านบาท จากจำนวน 131.59 ล้านบำท หรือเพิ่มขึ้น 4.7%
หากพิจารณาเปรียบเทียบกับไตรมาสเดียวกันของปี 2566 กองทุนรับรู้รายได้ค่าเช่าเพิ่มขึ้นจำนวน 11.57 ล้านบาท จากจำนวน 231.89 ล้านบาท หรือเพิ่มขึ้น 5% เมื่อนับรวมรายได้ดอกเบี้ยและรายได้อื่น กองทุนรับรู้รายได้รวมเพิ่มขึ้นจำนวน 13.01 ล้านบาท จากจำนวน 234.19 ล้านบาท หรือเพิ่มขึ้น 5.56% เมื่อเทียบจากไตรมาส 1 ปี 2566
สำหรับการบริหารจัดการพื้นที่เช่า ณ ไตรมาส 1 ปี 2567 มีจำนวนสัญญาเช่าที่ครบอายุและทำการต่อสัญญาเช่าในไตรมาส 1 รวมจำนวน 72 สัญญา คิดเป็นพื้นที่เช่ารวม 6,664.81 ตรม.จากการจัดทำสัญญากับผู้เช่ารายใหม่คิดเป็นสัดส่วนประมาณ 21% ประกอบด้วย สถาบันเสริมความงาม ร้านอาหารและเครื่องดื่ม เสื้อผ้าแฟชั่น และอุปกรณ์มือถือ เป็นต้น และเป็นการต่อสัญญากับผู้เช่ารายเดิมคิดเป็นสัดส่วนประมาณ 79% โดยอัตราการปรับเพิ่มขึ้นของค่าเช่าโดยเฉลี่ยอยู่ที่ 1.16%
ขณะเดียวกัน ผู้บริหารอสังหาริมทรัพย์ได้จัดกิจกรรมส่งเสริมการขายร่วมกับผู้เช่าร้านค้าภายในศูนย์ฯ อย่างต่อเนื่อง และบริหารจัดการพื้นที่ส่วนกลาง โดยจัดกิจกรรมในพื้นที่ส่วนกลางให้มีความหลากหลาย เพื่อเพิ่มจำนวนผู้มาใช้บริการภายในศูนย์การค้า รวมถึงรักษาฐานลูกค้าที่มีอยู่เดิม ภายใต้งบประมาณและแผนการดำเนินงานที่ได้กำหนดไว้
กองทุน FUTUREPF ลงทุนในสิทธิการเช่าพื้นที่บางส่วนของอาคารโครงการศูนย์การค้าฟิวเจอร์พาร์ค รังสิต มีอายุสิทธิการเช่าคงเหลือถึงวันที่ 31 ธันวาคม 2584 ประกอบด้วยสิทธิการเช่าพื้นที่อาคารโครงการศูนย์การค้า ฟิวเจอร์พาร์ค รังสิต รวมเนื้อที่ประมาณ 56,822.26 ตารางเมตร และสิทธิในการใช้พื้นที่ส่วนกลางจำนวน 48,791 ตารางเมตร (ซึ่งเป็นพื้นที่ส่วนกลางที่ก่อให้เกิดรายได้ไม่น้อยกว่า 8,709.92 ตารางเมตร) รวมถึงสิทธิในการนำพื้นที่บางส่วนของผนังภายนอกของอาคารโครงการฟิวเจอร์พาร์ค รังสิต ออกหาประโยชน์
ที่มา: บลจ.บัวหลวง