สำหรับ กองทุนเปิดทหารไทย Global Real Return (TMBGRR) เน้นลงทุนในหน่วยลงทุนของกองทุนรวมต่างประเทศเพียงกองเดียว (Master Fund) คือ กองทุน GMO Global Real Return (UCITS) Fund ในหน่วยลงทุนชนิด (Class) Class A USD ในอัตราส่วนโดยเฉลี่ยในรอบปีบัญชีไม่น้อยกว่าร้อยละ 80 ของมูลค่าทรัพย์สินสุทธิของกองทุน กองทุนหลักมีวัตถุประสงค์ในการลงทุนเพื่อสร้างผลตอบแทนในระยะยาวให้สูงกว่าอัตราเงินเฟ้อเฉลี่ยของประเทศอุตสาหกรรมชั้นนำ 7 ประเทศ (OECD G7) ประกอบด้วยประเทศแคนาดา, ฝรั่งเศส, เยอรมัน, อิตาลี, ญี่ปุ่น, สหราชอาณาจักร และสหรัฐอเมริกา โดยการลงทุนในหลักทรัพย์ที่หลากหลายทั่วโลกทั้งตราสารทุน, ตราสารหนี้,ตราสารตลาดเงิน, อัตราแลกเปลี่ยน, ตราสารที่เกี่ยวข้องกับดัชนีอ้างอิงสินค้าโภคภัณฑ์, REITs และตราสารอนุพันธ์
ทั้งนี้ กองทุนเปิดทหารไทย Global Real Return (TMBGRR) มีการจ่ายเงินปันผลต่อหน่วยลงทุนย้อนหลัง 5 ปี คือปี 2562 อยู่ที่ 0.20 บาทต่อหน่วย ปี 2563 อยู่ที่ 0.08 บาทต่อหน่วย ปี 2564 อยู่ที่ 0.16 บาทต่อหน่วย ปี 2566 อยู่ที่ 0.1983 บาทต่อหน่วย ปี 2567 อยู่ที่ 0.0925 บาทต่อหน่วย โดยรวมกับการจ่ายปันผลงวดนี้อีก 0.0877 บาทต่อหน่วย รวมเป็นยอดจ่ายเงินปันผลทั้งสิ้น 0.8185 บาทต่อหน่วย (ที่มา: บลจ.อีสท์สปริง ณ วันที่ 10 พ.ค.67)
ส่วน กองทุนเปิดอีสท์สปริง Global Dividend Equity (ES-GDIV) เน้นลงทุนในกองทุน JPMorgan Investment Funds - Global Dividend Fund (กองทุนหลัก) ในหน่วยลงทุนชนิด Class C (acc) USD ในอัตราส่วนโดยเฉลี่ยรอบปีบัญชีไม่น้อยกว่าร้อยละ 80 ของมูลค่าทรัพย์สินสุทธิของกองทุน โดยกองทุนหลักบริหารจัดการโดย JPMorgan Asset Management (Europe) ที่มีนโยบายลงทุนในตราสารทุนของบริษัททั่วโลกรวมถึงตลาดเกิดใหม่ที่สามารถสร้างรายได้ในระดับสูง ไม่ต่ำกว่าร้อยละ 67 ของมูลค่าทรัพย์สินของกองทุนหลัก ทั้งนี้ในบางช่วงเวลากองทุนหลักอาจมีการลงทุนกระจุกตัวในบางหลักทรัพย์ หมวดอุตสาหกรรมหรือกลุ่มประเทศ โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อสร้างผลตอบแทนจากเงินลงทุน และมีการลงทุนใน derivative เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการบริหารการลงทุน (Efficient Portfolio Management) โดยกองทุนเปิดอีสท์สปริง Global Dividend Equity (ES-GDIV) จดทะเบียนกองทรัพย์สินเมื่อวันที่ 31 มกราคม 2566 และมีการจ่ายเงินปันผลต่อหน่วยลงทุนครั้งแรกเมื่อวันที่ 18 สิงหาคม 2566 ในอัตรา 0.2000 บาทต่อหน่วย ปี 2567 อยู่ที่ 0.2000 บาทต่อหน่วย โดยรวมกับการจ่ายปันผลงวดนี้อีก 0.2000 บาทต่อหน่วย รวมเป็นยอดจ่ายเงินปันผลทั้งสิ้น 0.6000 บาทต่อหน่วย (ที่มา: บลจ.อีสท์สปริง ณ วันที่ 17 พ.ค.67)
และสุดท้าย กองทุนเปิด MTrack Energy ETF (ENGY) มีนโยบายลงทุนในหุ้นเต็มอัตรา (fully invested) โดยอาจเลือกใช้วิธี Full Replication หรือ Optimization และจะใช้กลยุทธ์การบริหารกองทุนเชิงรับ (Passive Management Strategy) เพื่อให้สามารถสร้างผลตอบแทนที่ใกล้เคียงกับดัชนีหลักทรัพย์กลุ่มพลังงานและสาธารณูปโภค (SET Energy & Utilities Index) ให้มากที่สุดเท่าที่จะทำได้ โดยมีการจ่ายเงินปันผลต่อหน่วยลงทุนย้อนหลัง 5 ปี คือปี 2566 อยู่ที่ 0.22 บาทต่อหน่วย เมื่อรวมกับการจ่ายปันผลงวดนี้อีก 0.10 บาทต่อหน่วย รวมเป็นยอดจ่ายเงินปันผลทั้งสิ้น 0.32 บาทต่อหน่วย (ที่มา: บลจ.อีสท์สปริง ณ วันที่ 7 พ.ค.67)
ผู้สนใจสามารถดูรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ www.eastspring.co.th หรือโทร 1725 ในวันและเวลาทำการ หรือผ่านช่องทางการขายของบลจ.อีสท์สปริง หรือผู้สนับสนุนการขายและรับซื้อคืนที่ได้รับการแต่งตั้ง และผู้ลงทุนควรทำความเข้าใจลักษณะสินค้า เงื่อนไขผลตอบแทน และความเสี่ยง ก่อนการตัดสินใจลงทุน และผลการดำเนินงานในอดีตมิได้เป็นสิ่งยืนยันถึงผลการดำเนินงานในอนาคต กองทุนไม่ได้ป้องกันความเสี่ยงอัตราแลกเปลี่ยนทั้งจำนวน ผู้ลงทุนอาจจะขาดทุนหรือได้รับกำไรจากอัตราแลกเปลี่ยนหรือได้รับเงินคืนต่ำกว่าเงินลงทุนเริ่มแรกได้
ที่มา: พีอาร์ดีดี