นางสาวนันทวรรณ สุวรรณเดช ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ดู เดย์ ดรีม จำกัด (มหาชน) หรือ DDD เปิดเผยผลการดำเนินงานไตรมาสที่ 1 ปี 2567 โดยบริษัทฯ มีรายได้จากการขายอยู่ที่ 398 ล้านบาท เพิ่มขึ้นร้อยละ 2.10 จากเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน มียอดขายสูงขึ้นในทุกกลุ่มธุรกิจ โดยรายได้จากผลิตภัณฑ์บำรุงผิวเติบโตอัตราร้อยละ 2.84 จากช่วงเดียวกันของปีก่อน การเติบโตหลักดังกล่าวมาจากการขายต่างประเทศในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้เพิ่มเติมที่มีการเติบโตอัตราร้อยละ 12.30
ในขณะที่ต้นทุนสินค้าและบริการสำหรับไตรมาสที่ 1 ปี 2567 มีมูลค่า 180 ล้านบาท หรือคิดเป็นร้อยละ 45.21 ของรายได้จากการขาย โดยเพิ่มขึ้นร้อยละ 8.64 point เมื่อเทียบกับไตรมาส 1 ปี 2566 ที่มีต้นทุนสินค้าและบริการ 142 ล้านบาท หรือร้อยละ 36.57 ของรายได้จากการขาย ผลสืบเนื่องจากต้นทุนขายสินค้าในต่างประเทศที่เพิ่มสูงขึ้นจากภาวะการแข่งขันในตลาด การปรับราคาวัตถุดิบเพิ่มสูงขึ้น ประกอบกับการขายสินค้ารายการพิเศษ (Big lot) ให้กับคู่ค้ารายหลักในต่างประเทศ
ด้านค่าใช้จ่ายในการขายและบริหารสำหรับไตรมาส 1 ปี 2567 มีมูลค่า 210 ล้านบาท หรือคิดเป็นร้อยละ 52.75 ของรายได้จากการขาย เพิ่มขึ้นร้อยละ 1.41 point เมื่อเทียบกับไตรมาส 1 ปี 2566 ที่มีค่าใช้จ่ายในการขายและบริหาร 200 ล้านบาท หรือร้อยละ 51.34 ของรายได้จากการขาย โดยเพิ่มขึ้นจากค่าใช้จ่ายเกี่ยวกับพนักงานเพื่อรองรับการขยายตัวและการเติบโตของแบรนด์สินค้าและผลิตภัณฑ์ใหม่ รวมไปถึงการขยายช่องทางการขายเพิ่มเติมในต่างประเทศ ทั้งนี้ บริษัทฯ คงนโยบายควมคุมค่าใช้จ่ายตามแผน Synergy Roadmap ภายในกลุ่มบริษัทโดยเฉพาะด้านคลังสินค้าและค่าใช้จ่ายด้านการขายเพื่อลดความซ้ำซ้อนและเพิ่มประสิทธิภาพการดำเนินงานภายในกลุ่มบริษัทอย่างต่อเนื่อง
จากปัจจัยข้างต้น บริษัทฯ มีผลกำไรสุทธิ (Net Profit) ในไตรมาส 1 ปี 2567 มูลค่า 10 ล้านบาท โดยเพิ่มขึ้นร้อยละ 317 เมื่อเทียบกับไตรมาส 1 ปี 2566 ที่มีผลกำไรสุทธิ 2 ล้านบาท
นอกจากนี้ที่ประชุมคณะกรรมการบริษัทฯ มีมติอนุมัติจ่ายเงินปันผลระหว่างกาลในอัตราหุ้นละ 0.025 บาท กำหนดขึ้น XD วันที่ 23 พฤษภาคม 2567 และจ่ายเงินปันผลวันที่ 7 มิถุนายนนี้
สำหรับ แนวโน้มทิศทางธุรกิจไตรมาส 2 ปี 2567 ยังเติบโตต่อเนื่องจากไตรมาสแรก โดยบริษัทมุ่งเน้นสร้างการเติบโตของยอดขายและกำไรอย่างต่อเนื่อง ทั้งในช่องทางออฟไลน์และออนไลน์ รวมถึงกับเดินหน้าจับมือพันธมิตรเพื่อเพิ่มขีดความสามารถพัฒนาธุรกิจ เพื่อสร้างความแข็งแกร่งในธุรกิจให้เติบโตในอนาคต โดยภาพรวมแผนการดำเนินธุรกิจในปี 2567 บริษัทฯ มีแผนการสร้างการเติบโตอย่างต่อเนื่องของธุรกิจเดิม (Organic Growth) จากนวัตกรรมที่ทันสมัย โดยเตรียมเปิดตัวแบรนด์พรีเมี่ยมจากยุโรปและเบรนด์ยอดนิยมจากประเทศญี่ปุ่นภายในไตรมาส 3 ปี 2567 นอกจากนี้ บริษัทฯ มีแผนสร้างการเติบโตจากธุรกิจใหม่ (Inorganic Growth) ซึ่งอยู่ระหว่างการเจรจาและศึกษาความเป็นไปได้ เพื่อมุ่งเน้นการขยายกลุ่มผลิตภัณฑ์ให้ครอบคลุมและสอดคล้องกับวิถีการดำเนินชีวิตของผู้บริโภค ทั้งยังช่วยส่งเสริมคุณภาพชีวิตและสุขภาวะที่ดีให้กับผู้บริโภคได้อย่างยั่งยืน
ที่มา: เดอะเวย์ คอมมิวนิเคชั่น