กรมวิชาการเกษตร แจ้งเตือน "ผู้ส่งออกผลิตภัณฑ์เสริมอาหาร" หากมีส่วนผสมสารสกัดจากพืชในบัญชีแนบท้ายอนุสัญญาไซเตส ต้องขอหนังสืออนุญาต

จันทร์ ๒๐ พฤษภาคม ๒๕๖๗ ๐๙:๓๖
ดร.ภัสชญภณ หมื่นแจ้ง รองอธิบดีกรมวิชาการเกษตร ในฐานะโฆษกกรมวิชาการเกษตร เปิดเผยว่า ขณะนี้กรมวิชาการเกษตรในฐานะหน่วยงานที่รับผิดชอบในการควบคุมการค้าพืชในบัญชีแนบท้ายอนุสัญญาไซเตส ได้รับการแจ้งเตือนจากสหภาพยุโรปว่ามีการส่งออกผลิตภัณฑ์เสริมอาหารที่มีส่วนผสมของสารสกัดจากพืชในบัญชีแนบท้ายอนุสัญญาไซเตสจำนวนมากไปยังสหภาพยุโรป (EU) โดยไม่มีหนังสืออนุญาตไซเตส (CITES Permit) ส่งผลให้ผลิตภัณฑ์ดังกล่าวได้รับการปฏิเสธไม่ให้เข้าไปยังสหภาพยุโรป ถูกกักยึดทำลาย และยังถูกดำเนินคดีปรับเป็นเงินจำนวนมากในประเทศปลายทางอีกด้วย
กรมวิชาการเกษตร แจ้งเตือน ผู้ส่งออกผลิตภัณฑ์เสริมอาหาร หากมีส่วนผสมสารสกัดจากพืชในบัญชีแนบท้ายอนุสัญญาไซเตส ต้องขอหนังสืออนุญาต

ดังนั้น กรมวิชาการเกษตร จึงขอประชาสัมพันธ์ให้บริษัทผู้ผลิต ผู้ส่งออกผลิตภัณฑ์เสริมอาหารที่มีส่วนผสมของสารสกัดจากพืชในบัญชีแนบท้ายอนุสัญญาไซเตส รวมถึงประชาชนทั่วไป ได้ทราบว่าสารสกัดจากพืชในบัญชีแนบท้ายอนุสัญญาไซเตส โดยเฉพาะสารสกัดจากกระบองเพชรทุกชนิด และพืชสมุนไพรอีกหลายชนิดที่อยู่ในการควบคุมของอนุสัญญาไซเตส และเป็นพืชอนุรักษ์ตามพระราชบัญญัติพันธุ์พืช พ.ศ. 2518 และที่แก้ไขเพิ่มเติม ฉบับที่ 2 พ.ศ. 2535 การส่งออกผลิตภัณฑ์เสริมอาหารที่มีส่วนผสมของสารสกัดจากพืชในบัญชีแนบท้ายอนุสัญญาไซเตสไปนอกราชอาณาจักร จะต้องได้รับหนังสืออนุญาตไซเตสจากกรมวิชาการเกษตร สำหรับผู้ฝ่าผืนไม่ปฏิบัติตามนอกจากจะทำให้ผลิตภัณฑ์ดังกล่าวได้รับการปฏิเสธการเข้าประเทศปลายทางและถูกกักยึดทำลายแล้ว ยังมีบทลงโทษสำหรับผู้ส่งออกที่ไม่ขอหนังสืออนุญาตไซเตส ตามพระราชบัญญัติพันธุ์พืช พ.ศ. 2518 และที่แก้ไขเพิ่มเติม ฉบับที่ 2 พ.ศ. 2535 โดยกำหนดโทษจำคุกไม่เกิน 3 เดือน ปรับไม่เกิน 3,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ อีกด้วย

"ผู้ประกอบการและผู้ส่งออกผลิตภัณฑ์เสริมอาหาร สามารถตรวจสอบพืชหรือสารสกัดจากพืชที่อยู่ในการควบคุมของอนุสัญญาไซเตสได้จากประกาศกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ เรื่อง พืชอนุรักษ์ พ.ศ. 2564 หรือที่เว็บไซต์ https://checklist.cites.org/#/en โดยชนิดพืชในบัญชีไซเตสที่นิยมใช้เป็นส่วนผสมของผลิตภัณฑ์สำเร็จรูป ต่าง ๆ เช่น กระบองเพชร ใช้เป็นส่วนผสมในผลิตภัณฑ์เสริมอาหาร หรือกาแฟลดน้ำหนัก กล้วยไม้และว่านหางจระเข้แอฟริกาเป็นส่วนผสมในโลชั่น ครีมบำรุงผิว กฤษณาและโกฐกระดูก เป็นส่วนผสมในยาหอม ทั้งนี้ สามารถสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่กลุ่มวิจัยอนุสัญญาไซเตสด้านพืช สำนักคุ้มครองพันธุ์พืช กรมวิชาการเกษตร โทรศัพท์ 0-2940-5687 อีเมล [email protected] หรือไลน์ไอดี citesflora.th หรือเพจ CITES Flora Thailand" โฆษกกรมวิชาการเกษตร กล่าว

ที่มา: กรมวิชาการเกษตร

ข่าวประชาสัมพันธ์ล่าสุด

๐๘:๑๗ เขตป้อมปราบฯ กวดขันดูแลความปลอดภัย-จอดรถกีดขวางทางสัญจรรอบงานวัดภูเขาทอง
๐๘:๔๕ คณะผู้แทนไทย สรุปความก้าวหน้า 10 ประเด็นการเจรจา COP29 ช่วงสัปดาห์แรก เตรียมพร้อมก่อนการประชุม High-level
๐๘:๓๐ เมื่อโลกของสื่อ.ต้องพลิกโฉมด้วยพลัง AI ไทยพีบีเอสชวนส่องอนาคตสื่อในงาน AI Horizons: The Future of Media
๐๘:๕๙ ต้อนรับการกลับมาอีกครั้งของร้าน Madison Steak Avenue
๐๘:๐๙ อาจารย์และศิษย์เก่าวิทยาลัยดุสิตธานี เป็นตัวแทนไทยเข้าแข่งขัน Global Chef Challenge Final 2024 ที่สิงคโปร์
๐๘:๔๙ ฉลองเปิด SIN Rooftop Bar
๐๘:๒๘ กทม. เน้นย้ำการปฏิบัติตามมาตรการส่วนบุคคล-เฝ้าระวังการแพร่ระบาดโรคไอกรนในสถานศึกษา
๐๘:๔๙ กทม. ขับเคลื่อนแผนป้องกันฝุ่น PM2.5 - ตรวจสอบสถานประกอบกิจการ-แหล่งกำเนิดมลพิษทางอากาศ
๐๘:๑๖ เฮอร์บาไลฟ์ ปล่อยของ! ฟอร์มูล่า วัน ซีเล็คท์ โปรตีนจากพืชใหม่ล่าสุด ตอบโจทย์คนรักสุขภาพยุคใหม่
๐๘:๓๓ อำพลฟูดส์ ร่วมส่งเสริมทักษะประกอบอาชีพผู้พิการจังหวัดราชบุรี หวังสร้างรายได้ให้ผู้พิการ และยกระดับคุณภาพชีวิตในท้องถิ่นอย่างเท่าเทียม