นายวิกิจ กันฉาย ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการใหญ่สายงานขายในประเทศ บริษัท จระเข้ คอร์ปอเรชั่น จำกัด กล่าวว่า ภาพรวมตลาดสีทาอาคารในประเทศไทยเมื่อปี 2566 มีมูลค่าประมาณ 3 หมื่นล้านบาท และมีแนวโน้มที่จะขยายตัวต่อเนื่อง
โดยคาดการณ์ว่าในปี 2567 นี้ ตลาดสีทาอาคารในประเทศไทย น่าจะมีการเติบโตขึ้นประมาณ 3-5% ซึ่งก็ขึ้นอยู่กับหลากหลายปัจจัย ไม่ว่าจะเป็นเรื่องของการเติบโตในกลุ่มธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ การลงทุนของรัฐบาล ตลอดจนทิศทางการเติบโตของเศรษฐกิจโดยรวมในประเทศอีกด้วย
อย่างไรก็ตามหลายคนอาจจะคุ้นเคยกับภาพจำว่าจระเข้ เป็นผู้นำในกลุ่มสินค้าผลิตภัณฑ์ก่อสร้าง ทั้งในกลุ่มผลิตภัณฑ์ปูกระเบื้อง ผลิตภัณฑ์เคมีก่อสร้าง และผลิตภัณฑ์จระเข้อีซี่ แต่จริง ๆ แล้วจระเข้มีผลิตภัณฑ์สีด้วย โดยผลิตภัณฑ์สีจระเข้มีความคลุมทั้งสีทาภายใน สีทาภายนอก สีเท็กเจอร์ สีสร้างลายต่างๆ และสีรองพื้น โดยแต่ละกลุ่มผลิตภัณฑ์ก็จะมีการใช้นวัตกรรมและเทคโนโลยีที่แตกต่างกัน ตามคุณสมบัติของสี ซึ่งผลิตภัณฑ์สีจระเข้นั้นได้รับการตอบรับที่ดีจากกลุ่มลูกค้ามาโดยตลอด
และเพื่อต่อยอดสีที่มีความปลอดภัย เราจึงได้พัฒนาผลิตภัณฑ์ใหม่ ๆ บนพื้นฐานของผลิตภัณฑ์ที่มีความปลอดภัยต่อผู้ใช้งาน ผู้อยู่อาศัย และมีความเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม จึงทำให้เกิดกลุ่มผลิตภัณฑ์ Natural Color ขึ้นมา
สำหรับกลุ่มผลิตภัณฑ์ Natural Color หรือกลุ่มสีธรรมชาตินั้นเป็นสีที่ผลิตจากวัตถุดิบที่คำนึงถึงความสมดุลของระบบนิเวศน์ หรือ Ecological คือ ปลอดภัยต่อผู้ใช้ ใส่ใจสิ่งแวดล้อม ด้วยการนำวัตถุดิบจากธรรมชาติอย่างหินไลม์สโตน (Limestone) หรือหินปูนธรรมชาติ คุณภาพสูงมาใช้ในรุ่นเรือธงอย่าง ไบโอสเฟียร์ พรีเมี่ยม (สีทาภายนอก) และอีโคสเฟียร์ พรีเมี่ยม (สีทาภายใน) โดยมีคุณสมบัติน่าสนใจดังนี้
- สีที่มีความปลอดภัย ปราศจากสารอินทรีย์ระเหยง่าย (Zero VOCs) และไม่มีสารก่อมะเร็ง (Non formaldehyde) ไร้กลิ่นฉุน สามารถเข้าอยู่ได้ทันทีหลังจากทาสีเสร็จเรียบร้อย
- สีที่ให้ความสบายตา จากเนื้อสีแมตต์ (สีด้าน) ที่ช่วยลดการสะท้อนของแสง ให้ความรู้สึกสบาย สร้างความผ่อนคลาย ให้แก่ผู้อยู่อาศัย
- สีที่มีส่วนช่วยในการลดภาวะโลกร้อน สำหรับสีจระเข้รุ่นไบโอสเฟียร์ พรีเมี่ยม และรุ่นอีโคสเฟียร์ พรีเมี่ยม สามารถดูดซับก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ หรือ CO2 ในขณะที่สีแห้งตัว โดยสีจระเข้ขนาด 15 ลิตร จำนวน 3 ถัง มีความสามารถในการดูดซับก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ เทียบเท่ากับการดูดซับก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ ของต้นไม้ขนาดใหญ่ ที่มีน้ำหนัก 250 กิโลกรัม ในระยะเวลา 1 ปี
- สีที่มีส่วนช่วยในการรักษาสิ่งแวดล้อมตามแนวคิดของการหมุนเวียนการบริโภค โดยสีจระเข้ รุ่น ไบโอสเฟียร์ พรีเมี่ยม, อีโคสเฟียร์ พรีเมี่ยม และ กราฟคลีน พรีเมี่ยม ผ่านการรับรองมาตรฐาน Cradle to Cradle โดยสถาบัน The Cradle to Cradle Products Innovation Institute เป็นการยืนยันว่าจะไม่มีการทำลายสิ่งแวดล้อมตั้งแต่การออกแบบผลิตภัณฑ์ไปจนถึงเมื่อสิ้นอายุของผลิตภัณฑ์
- สีที่มีความยืดหยุ่น ด้วยกราฟีนเทคโนโลยี มีความสามารถในยึดเกาะสูง และมีความยืดหยุ่น สามารถปกปิดพื้นผิวจากรอยแตกขนาดเล็กได้เป็นอย่างดี
- สีที่สามารถระบายความชื้นได้ มีส่วนช่วยในการลดโอกาสในการเกิดปัญหาสีโป่งพอง สีลอกล่อน ช่วยให้สีสวยงามยาวนานยิ่งขึ้น
นายวิกิจ กล่าวอีกว่า ล่าสุดเราได้เปิดตัวกลุ่มสีปลอดภัย สีแมตต์ที่เช็ดล้างง่าย สีจระเข้ อีซี่คลีน พรีเมี่ยม (SEE Jorakay EasyClean) ที่นำมาจัดแสดงในงานสถาปนิก 67 ที่ผ่านมา ซึ่งได้รับความสนใจจากผู้เข้าร่วมชมบูธเป็นอย่างมาก จะเห็นได้ว่าสีจระเข้เป็นผลิตภัณฑ์ที่มีความแตกต่างจากสีทาอาคารทั่ว ๆ ไป ในปัจจุบัน ในช่วงนี้ทางบริษัทฯ จึงมุ่งเน้นทำการตลาดด้วยการสื่อสารเพื่อให้ผู้บริโภคทราบถึงคุณสมบัติ จุดเด่นของผลิตภัณฑ์ และตัวตนของสีจระเข้ โดยเฉพาะการผลิตภัณฑ์ที่มีความใส่ใจในสิ่งแวดล้อม มีความตระหนักถึง สุขภาวะอนามัยของผู้ใช้งาน และผู้อยู่อาศัยอย่างครบวงจร
อย่างไรก็ตามในอนาคตอันใกล้นี้ เรามองว่าผลิตภัณฑ์ที่มีความใส่ใจสิ่งแวดล้อมในทุก ๆ กระบวนการจะได้รับความนิยมอย่างต่อเนื่อง ตามพฤติกรรมของผู้บริโภคที่เปลี่ยนไป ทำให้สีทาอาคารไม่ใช่เพียงผลิตภัณฑ์เพื่อความสวยงามเพียงอย่างเดียว แต่จะเปลี่ยนแปลงไปเป็นผลิตภัณฑ์เพื่อผู้บริโภคและสิ่งแวดล้อมในอนาคต
ร่วมเปิดไอเดียแต่งบ้านให้โดนใจไปกับโลกแห่งสีสันที่ไม่ตกเทรนด์ ปลอดภัย และเป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อมจากสีธรรมชาติ สีจระเข้ พร้อมติดตามกิจกรรมต่างๆ รวมถึงอัปเดตเทรนด์สีใหม่ๆ ไปกับสีจระเข้ได้ทาง www.seejorakay.com หรือสามารถติดต่อได้ที่ LINE: @seejorakay และ Contact Center 02-720-1112
ที่มา: FourHundred