ขณะเดียวกันได้เตรียมความพร้อมเจ้าหน้าที่จัดเก็บขยะตะแกรงท่อระบายน้ำ ขยะหน้าตะแกรงสถานีสูบน้ำและบ่อสูบน้ำในขณะที่มีฝนตก เพื่อเร่งระบายน้ำให้ไหลเข้าระบบได้สะดวกรวดเร็วขึ้น รวมถึงตรวจสอบและบำรุงรักษาเครื่องสูบน้ำไฟฟ้า ตู้เมนไฟฟ้า ตู้ควบคุมเครื่องสูบน้ำของ สนน. 477 แห่ง และเครื่องสูบน้ำดีเซลของสำนักงานเขต 421 เครื่อง สามารถใช้งานได้ตามปกติ พร้อมทั้งเตรียมความพร้อมอุปกรณ์สนับสนุน เช่น เครื่องกำเนิดไฟฟ้า รถโมบายยูนิต เครื่องสูบน้ำ และหน่วยเคลื่อนที่เร็ว (หน่วย BEST) เข้าแก้ไขสถานการณ์และช่วยเหลือประชาชน อีกทั้งได้เตรียมความพร้อมระบบระบายน้ำ โดยมีแผนล้างทำความสะอาดท่อระบายน้ำ 4,234 กิโลเมตร (กม.) ขุดลอกคูคลอง 217 กม. เปิดทางน้ำไหล จัดเก็บขยะวัชพืช 1,965 กม. รวมถึงแก้ไขสิ่งกีดขวางทางน้ำบริเวณใต้สะพานและท่อลอดต่าง ๆ ดำเนินการแล้วเสร็จ 13 แห่ง อยู่ระหว่างดำเนินการ 2 แห่ง ได้แก่ คลองลำชะล่า (เขตคันนายาว) และคลองเปรมประชากร จากคลองบางตลาดถึงคลองบ้านใหม่ ตลอดจนจัดตั้งศูนย์อำนวยการป้องกันและแก้ไขปัญหาน้ำท่วมในพื้นที่กรุงเทพฯ เพื่อเตรียมพร้อมรับมือฤดูฝน เฝ้าระวังจุดเสี่ยงน้ำท่วมและพื้นที่เศรษฐกิจของกรุงเทพฯ โดยให้ตั้งศูนย์ช่วยเหลือประชาชนที่เกิดเหตุน้ำท่วม หรืออื่น ๆ ที่เกี่ยวข้องทั้ง 50 เขตตั้งแต่วันที่ 1 มิ.ย. 67 เป็นต้นไป
สำหรับจุดเสี่ยงน้ำท่วมในพื้นกรุงเทพฯ ปี 2565 มีจำนวน 737 แห่ง โดยเป็นจุดเสี่ยงน้ำฝน 617 จุด และเป็นจุดเสี่ยงแนวริมแม่น้ำ (น้ำเหนือ น้ำทะเลหนุน) 120 จุด ใช้งบประมาณในปี 2565-2566 แก้ไขไปแล้ว 179 แห่ง อยู่ระหว่างดำเนินการ 231 แห่ง คาดว่า จะแล้วเสร็จทันฝนปีนี้จำนวน 190 แห่ง ส่วนปี 2567 ได้รับงบประมาณ 72 แห่ง คาดว่า จะแล้วเสร็จทันฝนปีนี้ 4 แห่ง ส่วนปี 2568 อยู่ระหว่างของบประมาณ 75 แห่ง คงเหลือที่อยู่ในระหว่างสำรวจและหาแนวทางแก้ไขอีก 180 แห่ง อย่างไรก็ตาม กทม. ได้ตรวจสอบประสิทธิภาพการทำงานของท่อระบายน้ำ ทางระบายน้ำ และระบบระบายน้ำในพื้นที่ โดยเฉพาะบริเวณถนนสายหลักที่มีการก่อสร้างโครงการก่อสร้างรถไฟฟ้าและโครงการขนาดใหญ่ โดยแจ้งและกำชับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เช่น การรถไฟฟ้าขนส่งมวลชนแห่งประเทศไทย (รฟม.) และผู้รับจ้างโครงการล้างทำความสะอาดท่อระบายน้ำในพื้นที่ก่อสร้างและรายงานผลการดำเนินงานให้ สนน. ทราบเป็นประจำทุกเดือน รวมทั้งตรวจสอบการเบี่ยงแนวท่อระบายน้ำ (By Pass) ให้น้ำสามารถไหลได้สะดวก หากมีปัญหาอุปสรรคในการระบายน้ำจะประสานแจ้งโครงการติดตั้งเครื่องสูบน้ำเพิ่มเติมในจุดก่อสร้าง เพื่อเร่งระบายน้ำเข้าระบบระบายน้ำของ กทม. ต่อไป
นอกจากนี้ ได้ประสานหน่วยงานโครงการก่อสร้างต่าง ๆ ในพื้นที่กรุงเทพฯ ที่ยังไม่แล้วเสร็จให้เร่งแก้ไขปัญหา เพื่อไม่ให้เกิดผลกระทบต่อระบบระบายน้ำของ กทม. รวมทั้งได้ประชุมหารือร่วมกับเทศบาลนครนนทบุรี กรมทางหลวง เทศบาลนครปากเกร็ด เทศบาลเมืองคูคต กรมชลประทาน และเทศบาลตำบลสำโรงเหนือ เพื่อบูรณาการแก้ไขปัญหาน้ำท่วมและบรรเทาความเดือดร้อนให้ประชาชนพื้นที่รอยต่อให้กลับเข้าสู่ภาวะปกติโดยเร็ว อีกทั้งยังได้เปิดช่องทางการแจ้งเตือนสถานการณ์ฝนในพื้นที่กรุงเทพฯ ให้ประชาชนรับทราบแบบเรียลไทม์ ตลอดจนช่องทางแจ้งเหตุ เพื่อขอรับความช่วยเหลือผ่านเว็บไซต์ https://dds.bangkok.go.th/, https://pr-bangkok.com/, Facebook : @BKK.BEST และ X(Twitter) : @BKK_BEST รวมถึงรับแจ้งเหตุปัญหาน้ำท่วมขังในพื้นที่กรุงเทพฯ ได้ที่ศูนย์ควบคุมระบบป้องกันน้ำท่วม โทร.02 248 5115 หรือแจ้งผ่านระบบ Traffy Fondue
ที่มา: กรุงเทพมหานคร