"เรารู้สึกตื่นเต้นที่ได้เฉลิมฉลองในโอกาสครบรอบ 36 ปีของซีบีอาร์อี ประเทศไทย รวมถึงการเปิดสำนักงานแห่งใหม่อย่างยิ่งใหญ่ ซีบีอาร์อี ประเทศไทย ได้แสดงให้เห็นถึงความเป็นเลิศในอุตสาหกรรมอสังหาริมทรัพย์มาโดยตลอด ความมุ่งมั่นของซีบีอาร์อี ประเทศไทยในการสร้างสภาพแวดล้อมการทำงานที่ส่งเสริมความคิดสร้างสรรค์ การทำงานร่วมกัน และประสิทธิภาพการทำงานนั้นเห็นได้ชัดจากสำนักงานใหญ่แห่งใหม่นี้ ซึ่งเป็นตัวอย่างของแนวคิดที่ก้าวหน้าที่จะช่วยให้ซีบีอาร์อี ประเทศไทย สามารถสร้างผลงานที่ยอดเยี่ยมให้กับลูกค้า และรักษาตำแหน่งผู้นำในตลาดอสังหาริมทรัพย์ต่อไป" นายอันชูมาน แม็กกาซีน ประธานและประธานเจ้าหน้าที่บริหาร ซีบีอาร์อี อินเดีย เอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ตะวันออกกลาง และแอฟริกา กล่าว
ตลอดระยะเวลา 36 ปีที่ผ่านมา ซีบีอาร์อี ประเทศไทยเป็นบริษัทผู้ให้บริการอสังหาริมทรัพย์แบบครบวงจรที่เติบโตและขยายการบริการอย่างต่อเนื่อง เพื่อตอบสนองความต้องการของลูกค้าแต่ละกลุ่มที่หลากหลายและแตกต่างกันไป บริการของซีบีอาร์อี ประเทศไทยนั้นรวมถึงการวิจัยตลาด การประเมินราคาที่ดินและอาคาร ธุรกรรมอสังหาริมทรัพย์ที่อยู่อาศัย ธุรกรรมอสังหาริมทรัพย์ในต่างประเทศ การให้คำปรึกษาด้านการลงทุน ตลอดจนการขายและปล่อยเช่า พื้นที่สำนักงาน พื้นที่ค้าปลีก โรงแรม โรงงานอุตสาหกรรม คลังสินค้า และดาต้าเซ็นเตอร์ นอกจากนี้ ในช่วงห้าปีที่ผ่านมา ซีบีอาร์อี ประเทศไทย ได้ขยายสู่บริการเพิ่มเติม เช่น กลยุทธ์พื้นที่ทำงาน และการให้คำปรึกษาด้านอาคารเขียว เพื่อตอบสนองความต้องการของตลาดที่เพิ่มขึ้นและความตระหนักด้านสิ่งแวดล้อมที่เพิ่มมากขึ้นในสังคม การเติบโตและขยายการบริการอย่างต่อเนื่องนั้นส่งเสริมความแข็งแกร่งของซีบีอาร์อีในตลาดอสังหาริมทรัพย์ของประเทศไทย
"บริการที่ครอบคลุมของซีบีอาร์อี ประเทศไทย ตอบสนองความต้องการของตลาดที่เพิ่มขึ้น และตอกย้ำถึงความมุ่งมั่นในการมอบผลลัพธ์ที่เป็นเลิศด้วยการบริการที่เป็นมืออาชีพด้วยค่านิยม RISE ของบริษัทฯที่ประกอบด้วยความเคารพ (Respect) ความซื่อสัตย์ (Integrity) การบริการ (Service) และความเป็นเลิศ (Excellence) เรามุ่งมั่นในการสร้างความไว้วางใจและความมั่นใจให้แก่ลูกค้าอย่างยั่งยืน ปีนี้เป็นปีที่ 36 ของซีบีอาร์อี ประเทศไทย และเป็นก้าวสำคัญที่สะท้อนถึงความทันสมัยขององค์กร บริษัทฯ ได้ย้ายสำนักงานใหญ่ไปยังอาคารวัน ซิตี้ เซ็นเตอร์ (One City Centre) ชั้น 46 และ 45 ซึ่งสำนักงานแห่งนี้ไม่เพียงแต่มีเพดานสูงและสามารถมองเห็นวิวเส้นขอบฟ้าที่สวยงาม แต่ยังให้ความสำคัญกับนวัตกรรมที่ส่งเสริมคุณภาพชีวิตและประสิทธิภาพในการทำงานของพนักงาน อีกทั้งให้ความสำคัญกับความยั่งยืนด้านสิ่งแวดล้อมและสุขภาพที่ดีของพนักงาน ด้วยการเลือกอาคารสำนักงานที่ได้รับการรับรองมาตรฐาน LEED Gold และ Fitwel ระดับ 2 ดาว นอกจากนี้ ยังได้นำกลยุทธ์ด้านความยั่งยืนและการมีสุขภาวะที่ดีมาใช้ภายในพื้นที่สำนักงาน ส่งผลให้สำนักงานใหญ่ของซีบีอาร์อี ประเทศไทย ได้รับการรับรองมาตรฐาน LEED Gold ภายใต้หัวข้อ การออกแบบภายในและการก่อสร้าง: การตกแต่งภายในเชิงพาณิชย์ และบริษัทฯ ยังตั้งเป้าหมายที่จะได้รับการรับรองมาตรฐาน WELL ระดับแพลตตินัม อีกด้วย นอกจากนี้ ซีบีอาร์อี ประเทศไทย ยังคงมุ่งมั่นที่จะบรรลุเป้าหมาย Net Zero ภายในปี 2583 ซึ่งเป็นมาตรฐานที่ซีบีอาร์อีทั่วโลกยึดถือ" นางสาวรุ่งรัตน์ วีระภาคย์การุณ กรรมการผู้จัดการ ซีบีอาร์อี ประเทศไทย กล่าว
ด้วยตลาดมีความต้องการอาคารอัจฉริยะและความยั่งยืนเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง ซีบีอาร์อี ประเทศไทยจึงมุ่งมั่นที่จะเป็นผู้นำในการตอบสนองการเปลี่ยนแปลงที่สำคัญนี้ โดยช่วยสนับสนุนลูกค้าในการสร้างพื้นที่ทำงานที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมและนำเทคโนโลยีขั้นสูงเข้ามาใช้ บริษัทฯ ตระหนักถึงความสำคัญของการนำแนวทางปฏิบัติที่ยั่งยืนมาใช้กับสถานที่ทำงาน เพื่อลดผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมและส่งเสริมความเป็นอยู่ที่ดีของพนักงาน "ในปัจจุบัน สำนักงานของเรามีพื้นที่สำหรับการทำงานร่วมกันเพิ่มขึ้นถึงสี่เท่า และมีพื้นที่ทำงานที่สามารถรองรับพนักงานที่ประจำในสำนักงานเพิ่มขึ้น 25% ได้โดยการจัดสรรพื้นที่ที่มีประสิทธิภาพ ในขณะที่ตลาดสำนักงานยังคงมีการพัฒนาอย่างต่อเนื่อง เราจึงมุ่งมั่นที่จะก้าวนำเทรนด์ด้านสถานที่ทำงานและจัดหาโซลูชั่นใหม่ ๆ ที่ออกแบบตามความต้องการของบริษัทต่าง ๆ" นายชาญวิชญ์ พสุวัต หัวหน้าแผนกที่ปรึกษากลยุทธ์พื้นที่ทำงานและพัฒนาการออกแบบโครงการ ซีบีอาร์อี ประเทศไทย กล่าวเสริม
สำนักงานแห่งใหม่ของซีบีอาร์อี ประเทศไทย ที่อาคารวัน ซิตี้ เซ็นเตอร์ ได้รับการออกแบบอย่างพิถีพิถันเพื่อส่งเสริมประสิทธิภาพการทำงานของพนักงาน ความเป็นอยู่ที่ดี และความยืดหยุ่น พร้อมด้วยคุณสมบัติที่ส่งเสริมความยั่งยืน สำนักงานแห่งใหม่นี้ได้สะท้อนให้เห็นถึงความมุ่งมั่นของบริษัทฯ ในการแสดงให้เห็นถึงตัวอย่างการใช้พื้นที่อย่างมีประสิทธิภาพ โดยรองรับสภาพแวดล้อมการทำงานที่มีความยืดหยุ่นในช่วงหลังการแพร่ระบาดของโควิด-19
"ในยุคนี้ซึ่งเป็นยุคของการพัฒนาปรับเปลี่ยนสถานที่ทำงาน มีสองปัจจัยสำคัญที่จะช่วยส่งเสริมความเสร็จของธุรกิจในอนาคต ประการแรกคือ การวิเคราะห์กลยุทธ์สถานที่ทำงาน 80 เปอร์เซ็นต์ของผู้ตอบแบบสำรวจ Global Occupancy ของซีบีอาร์อี ระบุว่า พวกเขามีการวิเคราะห์อัตราการใช้พื้นที่เมื่อวางกลยุทธ์พอร์ตโฟลิโอ ประการที่สอง ขั้นตอนต่าง ๆ จะต้องดำเนินการโดยผู้เชี่ยวชาญด้านกลยุทธ์พื้นที่ทำงานซึ่งเข้าใจถึงความต้องการเฉพาะด้านและปัญหาของแต่ละบริษัท ไม่ว่าจะเป็นบริษัทข้ามชาติหรือบริษัทในประเทศ" นายชาญวิชญ์ กล่าว
จากการสำรวจของซีบีอาร์อี ยังพบอีกว่า 62% ของผู้เช่าพื้นที่สำนักงานแสดงความสนใจที่จะลดขนาดพอร์ตโฟลิโอของตนเอง โดยการทำงานแบบผสมผสาน (Hybrid Working) และค่าใช้จ่ายในการดำเนินงานถือเป็นเหตุผลหลัก ด้วยแนวโน้มที่เพิ่มขึ้นนี้จึงสามารถวางแผนและออกแบบกลยุทธ์ในการจัดพื้นที่ทำงานให้สอดคล้องกับเป้าหมายของบริษัทนั้น ๆ ได้ ซึ่งจะส่งเสริมการตัดสินใจเกี่ยวกับการย้ายที่ตั้งสำนักงาน และ/หรือการต่อสัญญาเช่า การออกแบบสำนักงานใหม่สามารถช่วยเพิ่มพื้นที่ส่วนกลางได้มากกว่า 30% และเพิ่มพื้นที่การทำงานร่วมกันได้ 44% โดยปรับให้เหมาะกับจุดประสงค์ของแต่ละบริษัท
ที่มา: เอ พับลิซิสท์