UAC รุกพัฒนาโรงไฟฟ้าภูผาม่าน - โรงงานผลิต RDF3 ปั้นรายได้ปีนี้โตมากกว่า 15% - EBITDA แกร่งแตะ 20%

พฤหัส ๓๐ พฤษภาคม ๒๕๖๗ ๑๗:๑๒
บมจ.ยูเอซี โกลบอล ( UAC ) ใส่เกียร์ลุยพัฒนาโครงการโรงไฟฟ้าพืชพลังงานภูผาม่าน (PPM) ในส่วน Generator#2 กำลังการผลิต 1.5 MW. คาด COD ได้ไตรมาส 2/2567 นี้ ส่วนโครงการ PT Cahaya Yasa Cipta (CYC) ผลิตและจำหน่าย RDF3 มีกำลังการผลิต 40,000 ตัน/ปี คาด COD ได้ภายในปีนี้ หนุนรายได้ทั้งปี 67 โตมากกว่า 15% - EBITDA เพิ่มขึ้น 20%
UAC รุกพัฒนาโรงไฟฟ้าภูผาม่าน - โรงงานผลิต RDF3 ปั้นรายได้ปีนี้โตมากกว่า 15% - EBITDA แกร่งแตะ 20%
  1. โครงการโรงไฟฟ้าพืชพลังงานภูผาม่าน (PPM) ปัจจุบันเปิดดำเนินการเชิงพาณิชย์ (COD) เดินเครื่อง Generator#1 กำลังการผลิต 1.5 MW. เป็นที่เรียบร้อยแล้ว หลังจากได้รับสัญญาซื้อขายไฟฟ้า (PPA) จากการไฟฟ้าส่วนภูมิภาค (กฟภ.) เมื่อวันที่ 27 กุมภาพันธ์ 2566 ที่ผ่านมา ขณะที่ Generator#2 กำลังการผลิต 1.5 MW. จะดำเนินการเชิงพาณิชย์ (COD) ภายในไตรมาส 2/2567 นี้
  2. โครงการ PT Cahaya Yasa Cipta (CYC) ซึ่งเป็นการร่วมทุนในบริษัท PT Cahaya Cipta สัดส่วน 70% ของบริษัท ยูเอซี เอ็นเนอร์ยี่ จำกัด (บริษัทย่อย) เพื่อรองรับการดำเนินธุรกิจเกี่ยวกับการผลิตและจำหน่าย RDF3 ในสาธารณรัฐอินโดนีเซีย ภายใต้กำลังการผลิตประมาณ 40,000 ตัน/ปี โดยจะจำหน่ายให้กับโรงปูนซีเมนต์ในพื้นที่ใกล้เคียง ซึ่งปัจจุบันอยู่ระหว่างการก่อสร้างโรงงาน และคาดว่าจะสามารถเปิดดำเนินการเชิงพาณิชย์ (COD) ภายในปี 2567

"บริษัทฯ มุ่งเน้นสร้างโอกาสการเติบโตทางธุรกิจ โดยตั้งเป้าการเติบโตของรายได้ในปีนี้ที่มากกว่า 15% และมี EBITDA เพิ่มขึ้น 20% ของรายได้รวม ควบคู่กับการให้ความสำคัญในการดำเนินธุรกิจภายใต้หลักธรรมาภิบาล โปร่งใส ต่อต้านการทุจริตคอร์รัปชัน เคารพสิทธิมนุษยชน และคำนึงถึงผู้มีส่วนได้เสียเป็นสำคัญ พร้อมทั้งยังมุ่งให้ความสำคัญเรื่องความรับผิดชอบต่อสิ่งแวดล้อม สังคม และการกำกับดูแลกิจการ (ESG) เพื่อพัฒนาองค์กรให้เติบโตอย่างยั่งยืนตามหลักการ ESG ในทุกมิติ"

ด้านผลประกอบการในไตรมาส 1/2567 บริษัทฯ มีรายได้จากการขายและบริการ 468.09 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 12.51% เมื่อเทียบกับปีก่อน (YoY) จากการเพิ่มขึ้นของรายได้ในกลุ่มธุรกิจ Manufacturing - Petroleum และกลุ่มธุรกิจ Manufacturing - Energy ขณะที่ค่าใช้จ่ายจากการขายและบริหารเพิ่มขึ้น จากการขยายตัวทางธุรกิจของบริษัทและบริษัทย่อย ส่งผลให้มีกำไรส่วนที่เป็นของผู้ถือหุ้นของบริษัท และ EBITDA จำนวน 60.40 ล้านบาท และ 121.44 ล้านบาท ตามลำดับ ขณะเดียวกัน บริษัทฯ ยังได้รับส่วนแบ่งกำไรจากการลงทุนในบริษัทร่วมอย่างต่อเนื่อง จำนวน 21.14 ล้านบาท

นอกจากนี้ บริษัทฯ ยังคงให้ความสำคัญกับการรักษาสภาพคล่องกระแสเงินสด โดย ณ วันที่ 31 มีนาคม 2567 มีกระแสเงินสดในมือ จำนวน 236.04 ล้านบาท และอัตราส่วนหนี้สินรวมต่อส่วนของผู้ถือหุ้น (D/E) ที่ 1.06 เท่า ซึ่งเป็นไปตามกรอบนโยบายทางการเงินของบริษัทฯ ที่ไม่เกิน 2 เท่า

ที่มา: มีเดีย แพลนเนอร์ คอนซัลแทนท์

ข่าวประชาสัมพันธ์ล่าสุด

๒๐ ธ.ค. ASMT ผนึก TFT ร่วมลงนามด้านวิชาการด้านอุตสาหกรรมการบิน
๒๐ ธ.ค. กรมวิชาการเกษตร เดินหน้า ถ่ายทอดองค์ความรู้การผลิตอะโวคาโดคุณภาพ สร้างรายได้เพิ่มให้เกษตรกรกว่า 2 แสนบาท/ไร่
๒๐ ธ.ค. Dow มุ่งพัฒนาประสิทธิภาพผลิตภัณฑ์ Personal Care ควบคู่ความยั่งยืน ตอบโจทย์ผู้บริโภคตลาดเครื่องสำอางในภูมิภาคเอเชีย
๒๐ ธ.ค. โอซีซี มอบความรู้ พัฒนาอาชีพให้ผู้ต้องขังหญิง
๒๐ ธ.ค. ดร.นุชนารถ ชลคงคา นำทีมสถาบัน ESTC จัดอบรมให้ Karmakamet
๒๐ ธ.ค. กนภ. เห็นชอบร่าง พรบ. การเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ กลไกสำคัญสู่เส้นทางเศรษกิจคาร์บอนต่ำ และมีภูมิคุ้มกันฯ
๒๐ ธ.ค. WePlay x คอลแลบตัวละครสุดปัง! พบกับมินิเกมใหม่ และการ์ตูนสุดน่ารักที่คุณจะต้องหลงรัก
๒๐ ธ.ค. เดลต้า ประเทศไทย และ WEnergy Global ร่วมลงนามบันทึกข้อตกลงเพื่อขับเคลื่อนอนาคตพลังงานสีเขียว
๒๐ ธ.ค. ความภาคภูมิใจของ ไลอ้อน กับ 3 รางวัลแห่งเกียรติยศ เผยผลงานโดดเด่นกับหลายรางวัลที่ได้รับในปี 2567
๒๐ ธ.ค. NOBLE คว้าเรทติ้งสูงสุด ระดับ AAA SET ESG Ratings ประจำปี 2567 ยกระดับองค์กรสู่ความยั่งยืนภายในแนวคิด Live Different ตามกรอบ