ไทยยูเนี่ยนเผยแพร่รายงานความยั่งยืนประจำปี 2566 ตอกย้ำความมุ่งมั่นเพื่อขับเคลื่อนธุรกิจให้เติบโตภายใต้กลยุทธ์ความยั่งยืน SeaChange(R) 2030

อังคาร ๐๔ มิถุนายน ๒๕๖๗ ๑๕:๒๖
บริษัท ไทยยูเนี่ยน กรุ๊ป จำกัด (มหาชน) เผยแพร่รายงานความยั่งยืนประจำปี 2566 เพื่อรายงานผลความก้าวหน้าการดำเนินงานตามเป้าหมายกลยุทธ์ความยั่งยืน SeaChange(R) 2030
ไทยยูเนี่ยนเผยแพร่รายงานความยั่งยืนประจำปี 2566 ตอกย้ำความมุ่งมั่นเพื่อขับเคลื่อนธุรกิจให้เติบโตภายใต้กลยุทธ์ความยั่งยืน SeaChange(R) 2030

รายงานความยั่งยืนฉบับนี้สรุปภาพรวมผลการดำเนินงานเพื่อการบรรลุเป้าหมายด้านความยั่งยืนของไทยยูเนี่ยน และการผลักดันเพื่อสร้างความเปลี่ยนแปลงในโครงการต่าง ๆ ตอกย้ำถึงความมุ่งมั่นและตั้งใจในการดูแลสิ่งแวดล้อม ความรับผิดชอบต่อสังคม และการพัฒนาอย่างยั่งยืน

นายธีรพงศ์ จันศิริ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ไทยยูเนี่ยน กรุ๊ป จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า "ไทยยูเนี่ยนให้ความสำคัญกับพันธกิจด้านความยั่งยืน และเราจะยังคงมุ่งมั่นสร้างความแข็งแกร่งให้กับงานด้านนี้ให้มากยิ่งขึ้นในแต่ละปี ซึ่งจากรายงานและผลความก้าวหน้าที่เราสามารถทำได้ในปี 2566 นับเป็นเครื่องยืนยันถึงความทุ่มเทของเรา ในการสร้างการเปลี่ยนแปลงเชิงบวกให้แก่อุตสาหกรรมอาหารทะเล ซึ่งกลยุทธ์ SeaChange(R) 2030 ของเราไม่เพียงแต่มีการตั้งเป้าหมาย แต่เรามีกระบวนการที่ชัดเจนเพื่อนำไปสู่การบรรลุเป้าหมาย ดังนั้นเราจึงยังมีภารกิจที่ต้องทำอีกมาก ซึ่งผมก็ภูมิใจในความก้าวหน้าของโครงการต่าง ๆ และเราจะยังคงมุ่งมั่นอย่างเต็มที่ ที่จะผลักดันไม่ใช่แค่ในการดำเนินงานของเราแต่เพื่ออุตสาหกรรมอาหารทะเลทั่วโลก"

สำหรับผลงานด้านความยั่งยืนตามกลยุทธ์ SeaChange(R) 2030 ในปี 2566 ที่โดดเด่น ประกอบด้วย

  • ลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกในขอบเขตที่ 1 และ 2 ลง 8.8 เปอร์เซ็นต์ในปี 2566 เมื่อเทียบกับปี 2565
    • เพิ่มสัดส่วนการรับซื้อปลาทูน่าจากเรือประมงที่มีอุปกรณ์ตรวจสอบอิเล็กทรอนิกส์ และมีผู้สังเกตการณ์ จากเดิมที่ 71 เปอร์เซ็นต์ในปี 2564 เป็น 79 เปอร์เซ็นต์
    • 85 เปอร์เซ็นต์ของปริมาณปลาทูน่าทั้งหมดของบริษัทที่จัดซื้อ มาจากแหล่งประมงที่ผ่านการรับรองและการประเมินผลตามมาตรฐานจาก MSC หรือโครงการพัฒนาการประมง (Fishery Improvement Program; FIPs) ซึ่งเพิ่มขึ้น 4 เปอร์เซ็นต์จากปี 2566
    • การลงนามร่วมในโครงการสิ่งแวดล้อมระดับโลก 2 โครงการ ได้แก่ Ocean Breakthroughs และ Transforming our Food Systems ระหว่างการประชุมองค์การสหประชาชาติว่าด้วยการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ ครั้งที่ 27 (COP27)
  • เปิดตัวโครงการลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกในฟาร์มกุ้ง ร่วมกับ องค์กรอนุรักษ์ธรรมชาติระดับโลก The Nature Conservancy (TNC) และ บริษัท อาโฮลด์ เดอแลซ สหรัฐอเมริกา (Ahold Delhaize USA) หนึ่งในกลุ่มธุรกิจค้าปลีกระดับโลก เพื่อลดปริมาณการปล่อยก๊าซเรือนกระจกที่เกิดจากกระบวนการเลี้ยงกุ้ง
  • เผยแพร่ผลของกระบวนการประเมินความเสี่ยงด้านสิทธิมนุษยชน พร้อมปรับปรุงนโยบายสิทธิมนุษยชน

กลยุทธ์ความยั่งยืน SeaChange(R) 2030 คือ ความมุ่งมั่นสร้างความเปลี่ยนแปลงเชิงบวกในวงกว้างให้แก่อุตสาหกรรมอาหารทะเลเพื่อผู้คนและโลก สอดคล้องกับแผนการพัฒนาที่ยั่งยืนของสหประชาชาติ (UN SDGs) โดยเป้าหมายของกลยุทธ์ความยั่งยืน SeaChange(R)?2030 ประกอบด้วย ลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกลง 42 เปอร์เซ็นต์ในขอบเขตที่ 1, 2 และ 3 ภายในปี 2573 และปล่อยก๊าซเรือนกระจกสุทธิเป็นศูนย์ในปี 2593 การฟื้นฟูระบบนิเวศ โดยไทยยูเนี่ยนจะสนับสนุนงบประมาณ 250 ล้านบาท (มากกว่า 7 ล้านเหรียญสหรัฐ) เพื่อปกป้องและฟื้นฟูระบบนิเวศสำคัญ นอกจากนี้ ยังลดการปล่อยน้ำเสียสู่สิ่งแวดล้อมเป็นศูนย์ พัฒนากระบวนการผลิตที่เป็นเลิศ ไทยยูเนี่ยนได้ปรับปรุงระบบภายในโรงงานเพื่อลดการปล่อยน้ำเสียเป็นศูนย์ ลดของเสียฝังกลบเป็นศูนย์ และลดการสูญเสียอาหารเป็นศูนย์ ในโรงงานหลักห้าแห่งทั้งในและต่างประเทศ รวมถึงการทำประมงอย่างรับผิดชอบ โดย 100 เปอร์เซ็นต์ของอาหารทะเลที่จับจากธรรมชาติจะต้องผลิตอย่างมีความรับผิดชอบ และไทยยูเนี่ยนยังคงเดินหน้าสร้างสถานที่ทำงานที่ปลอดภัย มีคุณค่า ยอมรับความแตกต่างและหลากหลาย มีความเท่าเทียม

นายอดัม เบรนนัน ผู้อำนวยการกลุ่มด้านการพัฒนาที่ยั่งยืน บริษัท ไทยยูเนี่ยน กรุ๊ป จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า "เราพยายามเดินหน้าขยายขอบเขตด้านความยั่งยืนในอุตสาหกรรมอย่างต่อเนื่องทุกปี และจากรายงานความยั่งยืนฉบับล่าสุดของเรา แสดงให้เห็นถึงความตั้งใจในการดำเนินธุรกิจอย่างยั่งยืน ภายใต้กลยุทธ์ SeaChange(R) 2030 เพื่อเดินหน้าปกป้องมหาสมุทรและผู้คน เพื่อโลกของเรา และภารกิจที่สำคัญและท้าทายนี้จะสำเร็จไม่ได้หากปราศจากความร่วมมือจากทุกภาคส่วนในอุตสาหกรรมอาหารทะเลทั่วโลก"

ไทยยูเนี่ยนมุ่งมั่นสร้างการเปลี่ยนแปลงเชิงบวกอย่างต่อเนื่อง โดยในปี 2566 บริษัทฯ ได้รับคัดเลือกให้เป็นสมาชิกดัชนีความยั่งยืนดาวโจนส์ หรือ DJSI เป็นปีที่ 10 ติดต่อกัน และยังครองอันดับ 1 ดัชนีอาหารทะเลยั่งยืน Seafood Stewardship Index (SSI) ติดต่อกัน 3 ปีซ้อน ตอกย้ำความเป็นผู้นำในด้านความยั่งยืนและเป็นส่วนหนึ่งในการบรรลุเป้าหมายการพัฒนาอย่างยั่งยืนขององค์การสหประชาชาติ และต้นปี 2567 บริษัทยังได้รับผลการประเมินดัชนีชี้วัดความยั่งยืนระดับ B จากสถาบันประเมินความยั่งยืนที่น่าเชื่อถือระดับโลก Carbon Disclosure Project (CDP) สะท้อนความความโปร่งใสและการดำเนินงานด้านการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ

ที่มา: ไทยยูเนี่ยน กรุ๊ป

ข่าวประชาสัมพันธ์ล่าสุด

๒๐ ธ.ค. ASMT ผนึก TFT ร่วมลงนามด้านวิชาการด้านอุตสาหกรรมการบิน
๒๐ ธ.ค. กรมวิชาการเกษตร เดินหน้า ถ่ายทอดองค์ความรู้การผลิตอะโวคาโดคุณภาพ สร้างรายได้เพิ่มให้เกษตรกรกว่า 2 แสนบาท/ไร่
๒๐ ธ.ค. Dow มุ่งพัฒนาประสิทธิภาพผลิตภัณฑ์ Personal Care ควบคู่ความยั่งยืน ตอบโจทย์ผู้บริโภคตลาดเครื่องสำอางในภูมิภาคเอเชีย
๒๐ ธ.ค. โอซีซี มอบความรู้ พัฒนาอาชีพให้ผู้ต้องขังหญิง
๒๐ ธ.ค. ดร.นุชนารถ ชลคงคา นำทีมสถาบัน ESTC จัดอบรมให้ Karmakamet
๒๐ ธ.ค. กนภ. เห็นชอบร่าง พรบ. การเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ กลไกสำคัญสู่เส้นทางเศรษกิจคาร์บอนต่ำ และมีภูมิคุ้มกันฯ
๒๐ ธ.ค. WePlay x คอลแลบตัวละครสุดปัง! พบกับมินิเกมใหม่ และการ์ตูนสุดน่ารักที่คุณจะต้องหลงรัก
๒๐ ธ.ค. เดลต้า ประเทศไทย และ WEnergy Global ร่วมลงนามบันทึกข้อตกลงเพื่อขับเคลื่อนอนาคตพลังงานสีเขียว
๒๐ ธ.ค. ความภาคภูมิใจของ ไลอ้อน กับ 3 รางวัลแห่งเกียรติยศ เผยผลงานโดดเด่นกับหลายรางวัลที่ได้รับในปี 2567
๒๐ ธ.ค. NOBLE คว้าเรทติ้งสูงสุด ระดับ AAA SET ESG Ratings ประจำปี 2567 ยกระดับองค์กรสู่ความยั่งยืนภายในแนวคิด Live Different ตามกรอบ