"บริทาเนีย" เปิดตัวหุ้นกู้ล็อตใหม่ 2 ชุด อายุ 2 ปี และ 3 ปี อัตราดอกเบี้ย [4.85-5.25]% ต่อปี จ่ายดอกเบี้ยทุก 3 เดือน คาดเสนอขาย 9 - 11 กรกฎาคม นี้ ผ่าน 5 สถาบันการเงิน อันดับความน่าเชื่อถือของหุ้นกู้และบริษัท "BBB/Stable" จากทริสเรทติ้ง เดินหน้าแผนธุรกิจปี 2567 "Crafting for Everlasting Growth" รังสรรค์เพื่อการเติบโตอย่างมั่นคง
นายธีรเดช เกิดสำอางค์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท บริทาเนีย จำกัด (มหาชน) หรือ BRI ผู้นำในการพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ ที่มุ่งมั่นพัฒนาที่อยู่อาศัยเพื่อสังคมที่ดีอย่างยั่งยืน เปิดเผยว่า ทางบริทาเนียเตรียมเสนอขายหุ้นกู้ชนิดระบุชื่อผู้ถือ ประเภทไม่ด้อยสิทธิ ไม่มีประกัน และมีผู้แทนผู้ถือหุ้นกู้ เสนอขายต่อผู้ลงทุนสถาบัน และผู้ลงทุนทั่วไป (Public Offering) โดยหุ้นกู้ที่ออกจำหน่ายครั้งนี้แบ่งเป็น 2 ชุด ประกอบด้วย หุ้นกู้ชุดที่ 1 อายุ 2 ปี ครบกำหนดไถ่ถอนปี 2569 อัตราดอกเบี้ยคงที่ [4.85-5.00]% ต่อปี (อัตราดอกเบี้ยสุดท้ายจะประกาศให้ทราบอีกครั้ง) และหุ้นกู้ชุดที่ 2 อายุ 3 ปี ครบกำหนดไถ่ถอนปี 2570 อัตราดอกเบี้ยคงที่ 5.25% ต่อปี จ่ายดอกเบี้ยทุก 3 เดือน ราคาเสนอขายหน่วยละ 1,000 บาท จองซื้อขั้นต่ำ 100,000 บาท และทวีคูณครั้งละ 100,000 บาท
โดยคาดว่าหุ้นกู้ของบริษัทจะเสนอขายระหว่างวันที่ 9 - 11 กรกฎาคม 2567 และออกหุ้นกู้ในวันที่ 12 กรกฎาคม 2567 นี้ โดยบริษัทจะนำเงินที่ได้จากการเสนอขายหุ้นกู้ในครั้งนี้ไปใช้ชำระคืนหนี้และหุ้นกู้ของบริษัทที่ครบกำหนดและใช้เป็นเงินทุนในการขยายกิจการ
ขณะเดียวกัน บริทาเนียและหุ้นกู้ดังกล่าวได้รับการจัดอันดับความน่าเชื่อถือจากบริษัท ทริสเรทติ้ง จำกัด เมื่อวันที่ 23 เมษายน 2567 ที่ระดับ "BBB" ด้วยแนวโน้มอันดับเครดิต "Stable" หรือ "คงที่" ซึ่งเป็นระดับลงทุนได้หรือ Investment Grade เนื่องจากบริทาเนียเป็นผู้นำในธุรกิจพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ที่มีศักยภาพในการเติบโตอย่างต่อเนื่องและเป็นบริษัทลูกที่สำคัญของบริษัท ออริจิ้น พร๊อพเพอร์ตี้ จำกัด (มหาชน) หรือ ORI ในการพัฒนาโครงการที่อยู่อาศัยแนวราบโดยเฉพาะ
นายธีรเดช กล่าวเพิ่มเติมว่า สำหรับผลการดำเนินงานของ BRI ในไตรมาส 1 ปี 2567 ที่ผ่านมา บริษัทมีรายได้อยู่ที่ 1,269 ล้านบาท และมีกำไรสุทธิอยู่ที่ 296 ล้านบาท โดยมียอดโอนกรรมสิทธิ์อยู่ที่ 983 ล้านบาท และมีแผนที่จะเปิดตัวโครงการในปี 2567 ที่ 20 โครงการ มูลค่ารวมกว่า 17,000 ล้านบาท ครอบคลุมกรุงเทพฯ และปริมณฑล พร้อมรุกตลาดต่างจังหวัด 6 จังหวัด อาทิ ชลบุรี ระยอง นครราชสีมา อุบลราชธานี อุดรธานี และขอนแก่น พร้อมชูโมเดลพันธมิตรร่วมกับ Landlord ในพื้นที่ ครอบคลุมทุกทำเลศักยภาพ โดยในปี 2567 บริษัทมีแผนธุรกิจ "Crafting for Everlasting Growth" หรือ "รังสรรค์เพื่อการเติบโตอย่างมั่นคง" พร้อมเดินหน้า 3 กลยุทธ์ คือ 1.รังสรรค์ธุรกิจสู่ความยั่งยืนคือกระจายการเติบโตไปยังหลากหลาย เซ็กเมนท์ 2.รังสรรค์เพื่อความสุขคือการสร้างแบรนด์บริทาเนียให้เป็นแบรนด์แห่งความสุข ด้วยหลากหลายนวัตกรรมและบริการภายในบ้าน ตอบโจทย์การใช้ชีวิตยุคใหม่อย่างมีความสุขของทุกคนในครอบครัว และ 3.รังสรรค์สิ่งที่ดีที่สุดสู่สังคมคือการใส่ใจรังสรรค์ความยั่งยืนเพื่อชุมชน สังคม และสิ่งแวดล้อม ทั้งภายในโครงการ และภายนอกโครงการ ทั้ง 3 กลยุทธ์เป็นการวางรากฐานเพื่อผู้บริโภค สังคม ธุรกิจ สู่การเติบโตอย่างมั่นคง และมั่นใจว่าจะได้รับการตอบรับที่ดีจากลูกบ้านบริทาเนียทุกคน
ปัจจุบัน บริษัทฯ อยู่ระหว่างการยื่นแบบแสดงรายการข้อมูลและร่างหนังสือชี้ชวนซึ่งยังไม่มีผลบังคับใช้ เนื่องจากอยู่ระหว่างการพิจารณาของสำนักงาน ก.ล.ต. ผู้ลงทุนสามารถศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ www.sec.or.th หรือติดต่อผ่านผู้จัดการการจัดจำหน่ายหุ้นกู้ ดังนี้
- ธนาคารกสิกรไทย จำกัด (มหาชน) ทุกสาขา โทร. 02-888-8888 กด 869 หรือจองซื้อทางออนไลน์ผ่าน www.kasikornbank.com/kmyinvest (ยกเว้นบุคคลสัญชาติต่างด้าว และนิติบุคคล สามารถจองซื้อผ่านสำนักงานใหญ่และสาขา) และรวมถึงบริษัทหลักทรัพย์ กสิกรไทย จำกัด (มหาชน) ในฐานะหน่วยงานขายของธนาคารกสิกรไทย จำกัด (มหาชน)
- ธนาคารกรุงไทย จำกัด (มหาชน) โทร. 02-111-1111 หรือจองซื้อทางออนไลน์ ผ่านแอปพลิเคชัน Krungthai Next หรือ ผ่าน Money Connect by Krungthai (https://moneyconnect.krungthai.com/)
- ธนาคารซีไอเอ็มบี ไทย จำกัด (มหาชน) (โดยบุคคลธรรมดาสามารถจองซื้อทางออนไลน์ผ่าน Mobile Application - CIMB Thai Digital Banking ได้อีก 1 ช่องทาง) โทร. 02-626-7777
- บริษัทหลักทรัพย์ หยวนต้า (ประเทศไทย) จำกัด โทร. 02-009-8351-56
- บริษัทหลักทรัพย์ เอเซีย พลัส จำกัด โทร. 02-680-4004
สำหรับบริษัท บริทาเนีย จำกัด (มหาชน) หรือ BRI เป็นผู้พัฒนาบ้านจัดสรรภายใต้คอนเซปต์ CRAFT a life you love ดีที่สุดคือใช้ชีวิตในแบบที่รัก พัฒนาทั้งบ้านเดี่ยว บ้านซีรีส์ใหม่ ทาวน์โฮม ครอบคลุมผู้บริโภคทุกเซ็กเมนท์ ภายใต้ 5 แบรนด์และกลุ่มเซ็กเมนต์ ได้แก่ 1.เบลกราเวีย (Belgravia) บ้านเดี่ยวลักชัวรี ระดับราคา 20-50 ล้านบาท 2.แกรนด์ บริทาเนีย (Grand Britania) บ้านเดี่ยวและบ้านแฝดระดับ High-End ราคา 8-20 ล้านบาท 3.บริทาเนีย (Britania) บ้านเดี่ยว บ้านแฝด และทาวน์โฮม ระดับ Mid-end ราคา 4-8 ล้านบาท และ 4.ไบรตัน (Brighton) บ้านแฝด และทาวน์โฮม ระดับเริ่มต้น (Entry) ราคา 2.5-4 ล้านบาท 5.กลุ่มแบรนเด็ด เรสซิเดนซ์ วิลล่า (Branded Residences Villa) บ้านพักตากอากาศระดับ Luxury ราคา 19-60 ล้านบาท โดย ณ สิ้นไตรมาส 1/2567 พัฒนาโครงการมาแล้วทั้งสิ้น 43 โครงการ คิดเป็นมูลค่าโครงการสหะสม 54,122 ล้านบาท
ที่มา: ธนาคาร ซีไอเอ็มบี ไทย