บริษัทหลักทรัพย์ ดาโอ (ประเทศไทย) จำกัด เผยแพร่บทวิเคราะห์ แนะนำ ซื้อ หุ้นบริษัท กันกุลเอ็นจิเนียริ่ง จำกัด (มหาชน) (GUNKUL) และให้ราคาเป้าหมาย 5.00 บาท อิง SOTP โดยยังมีมุมมองเป็นกลาง หลังธุรกิจมีพัฒนาการตามแผนและยังไม่มีประเด็นใหม่ สรุปดังนี้ 1) โครงการ โรงไฟฟ้าพลังงานทดแทนในไทยรอบล่าสุดที่บริษัทได้มาจะเริ่ม COD ในปี 2569E (3 โครงการ 177 MW) ซึ่งโครงการดังกล่าวอยู่ระหว่างดำเนินการตามขั้นตอนเพื่อรอก่อสร้างต่อไป 2) ธุรกิจ EPC ปัจจุบันมี Backlog ราว 6 พันล้านบาท ตั้งเป้าปี 2567E ประมูลงานเพิ่มราว 4 พันล้านบาท โดยมีงานโครงการใหญ่จากภาครัฐมูลค่ารวมกว่า 2.2 หมื่นล้านบาท เป็น potential projects 3) ธุรกิจ Trading มี outlook ที่ดีจากการลงทุนเพิ่มเติมของหน่วยงานรัฐฯ และจากโครงการพลังงานทดแทนในไทยที่จะเริ่มทยอย COD ในปี2567E-73E (เฟสแรก 5.2GW และ 3.6GW เฟสสอง ซึ่งคาดว่าจะเห็นความชัดเจนในต้นปี 2568E)
ด้านราคาหุ้น underperform SET ราว -15% ในช่วง 3 เดือนที่ผ่านมาคาดยังไร้ key catalyst ระยะสั้น อย่างไรก็ตาม ฝ่ายวิจัยคาดราคาหุ้นมีโอกาสกลับไป outperform SET ได้จากโอกาสในการได้งาน EPC โรงไฟฟ้าเพิ่มเติม หลังโครงการพลังงานทดแทน 5.2GW จะเริ่มทยอย COD ในปี2567E เป็นต้นไป รวมถึงโอกาสในการได้โครงการเพิ่มในเฟสถัดไป 3.6GW เป็นอีก catalyst
นอกจากนี้ ผลประกอบการกลับเข้าสู่ภาวะขาขึ้นจากการทยอยรับรู้รายได้ โครงการพลังงานทดแทนใหม่ซึ่งจะทยอย COD ในปี 2569E ถึง 2573E หนุนกำลังการผลิตจากปี 2566 ที่ 0.6GW สู่ระดับ 1.5GW (ราคาเป้าหมายของเรารวมกำลังการผลิตไว้ 1.3GW เหลือโรงไฟฟ้าพลังงานลม 180MW เป็น upside หลังรอลงนาม PPA)
ด้านบริษัทหลักทรัพย์ หยวนต้า (ประเทศไทย) จำกัด ระบุว่า มีมุมมองเป็นบวกต่อแนวโน้มกำไรของ GUNKUL โดยคาดกำไรปกติไตรมาส 2/2567 จะเติบโตต่อเนื่องเมื่อเทียบกับไตรมาสที่ผ่านมา ตามปัจจัยฤดูกาลของโครงการพลังงานแสงอาทิตย์ในประเทศไทยและความเร็วลมที่ยังทรงตัวอยู่ในระดับใกล้เคียงไตรมาส 1/2567
อย่างไรก็ตาม คาดว่ากำไรปกติจะลดลงเมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน จากฐานที่สูงในปีก่อนหลังค่า FT ที่ปรับตัวลง และความเร็วลมที่ลดลงสู่ระดับใกล้เคียงปกติส่งผลให้ความสามารถในการทำกำไรของโรงไฟฟ้าพลังงานหมุนเวียนในไทยลดลง หากมองไปช่วงครึ่งหลังปี 2567 คาดว่ากำไรปกติสามารถเติบโตได้ทั้ง HoH และ YoY ตามปัจจัยฤดูกาลของโครงการพลังงานลมและการเติบโตของธุรกิจ Trading และ EPC
สำหรับธุรกิจโรงไฟฟ้า GUNKUL คงเป้าหมายการขยายกำลังการผลิตเป็น 2,000 Mwe ภายในปี 2567 ผ่านการลงทนในโครงการพลังงานหมุนเวียนในประเทศและต่างประเทศ (ทั้งแบบ Greenfield และ M&A) เบื้องต้นคาดแผน PDP ฉบับใหม่จะมีการเปิด Public Hearing ในช่วง 1-2 เดือนข้างหน้าและมีการประกาศใช้อย่างเป็นทางการในช่วงครึ่งหลังปี 2567โดยฝ่ายวิจัยมองว่าแผนดังกล่าวจะเป็นปัจจัยที่ช่วยหนุนการเติบโตของ GUNKUL ทั้งในธุรกิจไฟฟ้า (มีโอกาสเพิ่มเติมในการขยายกำลังการผลิต) และธุรกิจ EPC (เพิ่มโอกาสในการได้รับ Backlogs เพิ่มเติม) แนะนำ ซื้อ ให้ราคาเหมาะสม ปี 2567 ที่ 4.20 บาทต่อหุ้น
ที่มา: ไออาร์เน็ตเวิร์ค