TIA ลุยจัด Class Action สัญจร ครั้งที่ 4 จังหวัดสุราษฏร์ธานี

จันทร์ ๑๗ มิถุนายน ๒๕๖๗ ๑๘:๑๐
สมาคมส่งเสริมผู้ลงทุนไทย (TIA)  ล่องใต้ จัด Class Action สัญจรครั้งที่ 4 จังหวัดสุราษฏร์ธานี ดึงทนายความอาชีพภาค 8 รวม 7 จังหวัด  ร่วมอบรม การดำเนินคดีแบบกลุ่มคดีเกี่ยวกับหลักทรัพย์  รับข้อมูลและแนวทางปฏิบัติตรงจากผู้พิพากษาศาลสูง อบรมจบรับวุฒิบัตรทันทีใช้ เป็นใบเบิกทางเข้าสู่ทนายความอาชีพที่ผ่านการอบรมความรู้คดี Class Action ด้านตลาดทุน  
TIA ลุยจัด Class Action สัญจร ครั้งที่ 4 จังหวัดสุราษฏร์ธานี

คุณสิริพร จังตระกุล เลขาธิการ สมาคมส่งเสริมผู้ลงทุนไทย (TIA) องค์กรตัวแทนผู้ถือหุ้นรายบุคคล "ทำหน้าที่ สนับสนุนการพัฒนาตลาดทุน เพื่อความยั่งยืน ที่อยู่คู่ตลาดทุนไทยมากว่า 35 ปี เปิดเผยว่า สมาคม ยังคงเดินหน้าให้ความรู้ เรื่อง การดำเนินคดีแบบกลุ่ม (Class Action)  อย่างต่อเนื่อง ครั้งนี้นับเป็นครั้งที่ 4 จังหวัดที่ 4 ที่ จังหวัดสุราษฏร์ธานี  จาก ที่ผ่านมาดำเนินการมาแล้ว  3 จังหวัด และยังคงได้รับความสนใจจาก ทนายความอาชีพเข้าร่วมอบรบเกือบ 100 รายซึ่งรวมกับการสัญจรที่ผ่านมา มีทนายความอาชีพ ผ่านการอบรมเกือบ 500 กว่าคนแล้ว และคาดหวังว่า การฟ้องคดีแบบกลุ่ม - Class Action" จะเป็นเครื่องมือในการปกป้องนักลงทุนที่ให้ได้รับความไม่เป็นธรรมจากการลงทุน

"การจัดสัญจรปีนี้ ทาง TIA ได้รับการสนับสนุนด้านงบประมาณทั้งหมดจาก กองทุนส่งเสริมการพัฒนาตลาดทุน (CMDF) เป้าหมายของการจัดสัญจรให้ความรู้เชิงลึกทั้งทางทฤษฎีและแนวทางปฎิบัติและการนำมาใช้ในอาชีพจริง ให้กับทนายความอาชีพทั่วประเทศไทย ในการนำกฎหมาย Class Action มาใช้ในตลาดทุนไทย เพื่อเป็นเครื่องมือในการดูแลและปกป้องนักลงทุน ดังนั้นการเติมความรู้ ความเข้าใจ เกี่ยวกับธุรกิจหลักทรัพย์ เพื่อเป็นส่วนสำคัญให้การบังคับใช้กฏหมายให้มีประสิทธิภาพ" เลขาธิการ TIA กล่าว

นอกจากนี้การมาสัญจรที่สุราษฏร์ธานีซึ่งครอบคลุมพื้นที่ภาคใต้ตอนบน 7 จังหวัดและมีบริษัทหลักทรัพย์(บล) มาเปิดห้องค้า12 แห่ง ซึ่งถือว่าเป็นพื้นที่ที่มีนักลงทุนและมีการลงทุนดั งนั้นการให้ความรู้ Class Action กับทนายความจะเป็นกลไกในการดูแลนักลงทุนได้

 คุณจักรชัย บุญยะวัตร ผู้จัดการกองทุนส่งเสริมการพัฒนาตลาดทุน (CMDF) กล่าวว่า  การเดินสายสัญจรให้ความรู้เป็นหนึ่งในภารกิจสำคัญของกองทุน และการสัญจรให้ความรู้เรื่อง Class Action  ถือว่าเป็นการต่อยอดและสร้างองค์ความรู้ ให้กับผู้ที่เกี่ยวข้องและทำให้การดำเนินคดีแบบกลุ่มมีประสิทธิภาพได้

"กองทุนเราตั้งมา 2562 ผ่านมา 5 ปี แล้วเราเป็นองค์กรอิสระ และมีภารกิจสำคัญ 4 ข้อ และการให้ความรู้เกี่ยวกับตลาดทุนต่อบุคคลทั่วไปเป็นหนึ่งในภารกิจหลักด้วย เพื่อได้นำไปปกป้องและดูแลนักลงทุนได้"

คุณวันชัย บุญฤทธิ์ ประธานสภาทนายความ จังหวัดสุราษฏร์ธานี กล่าวว่า ต้องขอขอบคุณ TIA ที่มาสัญจร ภาคใต้ตอนบน นำความรู้มาเผยแพร่ และเป็นเรื่องใกล้ตัวและนำความรู้ที่เกิดขึ้นมาเป็นประโยชน์ในอาชีพ "เติมความรู้ใหม่ให้กับทนายความ เพราะอาวุธเราคือความรู้ที่ต้องมี และนำไปประกอบอาชีพได้และนี้คือโอกาสดีที่จะได้เติมความรู้ใหม่ๆเรื่อง Class Action ให้กับอาชีพ"

ด้าน ท่านพงษ์เดช วานิชกิตติกูล รองประธานศาลอุธรณ์  ช่วยทำงานชั่วคราวในตำแหน่งผู้พิพากษาศาลฎีกา ได้บรรยายให้ความรู้เบื้องต้นเกี่ยวกับคดีกลุ่มกับทนายอาชีพที่เข้าร่วมอบรม ว่า บทบาทของ กฎหมาย ClassAction จะมีความสำคัญมากขึ้นในยุคนี้ที่ทุกประเทศทั่วโลกให้ความสนใจ ซึ่งประเทศไทยเรามีกฎหมายนี้มาตั้งแต่ปี 2558 ดังนั้นการที่ TIA  จัดโครงการอบรมถือเป็นเรื่องที่ดีมาก

อย่างไรก็ตามคดีที่จะเข้าลักษณะการดำเนินคดีแบบกลุ่ม คือ สิทธิผู้บริโภค ,หลักทรัพย์และการแข่งขันทางการค้า ,สิ่งแวดล้อม ,คดีละเมิดที่มีผู้เสียหายจำนวนมากและสิทธิพลเมือง เป็นต้น

ขณะที่กลุ่มบุคคลที่จะเข้าลักษณะการดำเนินคดีแบบกลุ่ม คือบุคคลตั้งแต่ 2 คนขึ้นไปไม่จำกัดจำนวนสูงสุด สิทธิเรียกร้องต่อจำเลยต้องเหมือนกัน อาศัยข้อเท็จจริงและหลักกฎหมายเดียวกัน ความเสียหายของแต่ละคนไม่เหมือนและไม่เท่ากันได้ "นับตั้งแต่เริ่มที่จะดำเนินคดีแบบกลุ่มขอแนะนำให้ทำรายละเอียดทั้งหมดของกลุ่มบุคคลที่เข้ามา และทำรายการค่าใช้จ่ายที่เกิดขึ้นเกี่ยวกับการทำคดีทั้งหมด เพราะเมื่อถึงวันที่ศาลมีคำสั่งให้ดำเนินคดีแบบกลุ่ม ประเด็นเหล่านี้ก็ต้องพร้อมที่จะเปิดเพื่อการพิจารณา เพราะตามกฎหมายนั้นผลตอบแทนของคดีที่จะได้รับ 30% ของมูลฟ้องนั้นทนายความจะต้องถูกนำมาพิจารณาทั้งหมด"

ด้าน ท่านชลวัชร อัศวพิริยอนันต์ รองเลขานุการศาลฏีกา กล่าวว่า  การดำเนินคดีแบบกลุ่มจะมีประโยชน์โดยรวมมากเพราะเป็นการดำเนินการครั้งเดียวแต่คำพิพากษาจะครอบคลุมทั้งหมด  ทั้งผู้เสียหายที่เป็นสมาชิกกลุ่ม และไม่ได้เป็นสมาชิกกลุ่ม บนสิทธิ และข้อเท็จจริงเหมือนกัน ภายใต้หลักกฎหมายเดียวกัน รวมทั้งมีระยะเวลาที่เร็วกว่าและค่าใช้จ่ายที่ถูกกว่าการดำเนินคดีตามขบวนการปกติ เพราะคำตัดสินของศาลอุทธรณ์ถือว่าเป็นที่สุดแล้ว

ทั้งนี้ การดำเนินคดีแบบกลุ่มในคดีหลักทรัพย์จะมีลักษณะความผิด 2 ลักษณะคือ ผิดสัญญาที่จะครอบคลุมทั้งเรื่องของหุ้น และหุ้นกู้ที่ออกแล้วผู้ออกไม่ทำตามสัญญา  ส่วนการละเมิดนั้นคือการบอกกล่าวข้อมูลอันเป็นเท็จ และข้อมูลที่เป็นถูกนำไปใช้ในการวิเคราะห์นำไปเผยแพร่ต่อทำให้เกิดการเข้าใจผิด การสร้างราคาและปั่นหุ้น สามารถดำเนินคดีแบบกลุ่มได้ "การเข้ามาเป็นสมาชิกกลุ่มเมื่อคำตัดสินของศาลออกมาไม่ว่าคดีนั้นจะมีผลชนะหรือแพ้คำตัดสินจะครอบคลุมทั้งหมดและคนที่ไม่เป็นสมาชิกกลุ่มหรือคนที่เป็นสมาชิกกลุ่มก็ไม่สามารถฟ้องในคดีเดียวกันได้อีก"

นอกจากนี้การดำเนินคดีแบบกลุ่มในคดีหลักทรัพย์ การแบ่งกลุ่มเป็นเรื่องสำคัญมากในการทำคดีซึ่งในกรณีซื้อขายหลักทรัพย์จะแบ่งได้ 3 กลุ่มคือ กลุ่มคนที่เข้าซื้อหุ้น และยังคงถือหุ้นอยู่เต็มจำนวนที่ซื้อ 2. กลุ่มที่เข้าซื้อก่อน และระหว่างทางมีการขายออก แต่ไม่ได้ขายทั้งหมดและยังมีหุ้นถืออยู่ ซึ่งกลุ่มนี้จะมีความยากในการคิดและประเมินมูลค่า และ 3. ขายหุ้นออกทั้งหมดแล้ว ซึ่งกลุ่มนี้ส่วนใหญ่จะเป็นนิติบุคคลที่เข้าลงทุนหุ้นที่มีปัญหาซึ่งกลุ่มนี้จะมีการจัดการเพราะมีผู้เกี่ยวข้องหลายฝ่าย ดังนั้นจึงจำเป็นต้องมีการจัดการก่อนเมื่อเห็นว่าเกิดปัญหา

ที่มา: สมาคมส่งเสริมผู้ลงทุนไทย

ข่าวประชาสัมพันธ์ล่าสุด

๒๐ ธ.ค. ASMT ผนึก TFT ร่วมลงนามด้านวิชาการด้านอุตสาหกรรมการบิน
๒๐ ธ.ค. กรมวิชาการเกษตร เดินหน้า ถ่ายทอดองค์ความรู้การผลิตอะโวคาโดคุณภาพ สร้างรายได้เพิ่มให้เกษตรกรกว่า 2 แสนบาท/ไร่
๒๐ ธ.ค. Dow มุ่งพัฒนาประสิทธิภาพผลิตภัณฑ์ Personal Care ควบคู่ความยั่งยืน ตอบโจทย์ผู้บริโภคตลาดเครื่องสำอางในภูมิภาคเอเชีย
๒๐ ธ.ค. โอซีซี มอบความรู้ พัฒนาอาชีพให้ผู้ต้องขังหญิง
๒๐ ธ.ค. ดร.นุชนารถ ชลคงคา นำทีมสถาบัน ESTC จัดอบรมให้ Karmakamet
๒๐ ธ.ค. กนภ. เห็นชอบร่าง พรบ. การเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ กลไกสำคัญสู่เส้นทางเศรษกิจคาร์บอนต่ำ และมีภูมิคุ้มกันฯ
๒๐ ธ.ค. WePlay x คอลแลบตัวละครสุดปัง! พบกับมินิเกมใหม่ และการ์ตูนสุดน่ารักที่คุณจะต้องหลงรัก
๒๐ ธ.ค. เดลต้า ประเทศไทย และ WEnergy Global ร่วมลงนามบันทึกข้อตกลงเพื่อขับเคลื่อนอนาคตพลังงานสีเขียว
๒๐ ธ.ค. ความภาคภูมิใจของ ไลอ้อน กับ 3 รางวัลแห่งเกียรติยศ เผยผลงานโดดเด่นกับหลายรางวัลที่ได้รับในปี 2567
๒๐ ธ.ค. NOBLE คว้าเรทติ้งสูงสุด ระดับ AAA SET ESG Ratings ประจำปี 2567 ยกระดับองค์กรสู่ความยั่งยืนภายในแนวคิด Live Different ตามกรอบ