นางสาวสมสกุล หลิมศุทธพรรณ รองกรรมการผู้จัดการ ฝ่ายพัฒนาธุรกิจและบริหารสินทรัพย์ บริษัท พลัส พร็อพเพอร์ตี้ จำกัด เปิดเผยว่า "พลัสฯ ได้รับความไว้วางใจจากบริษัท เอ็ม บี เค ดีเวลลอปเม้นท์ จำกัด ให้บริหารงานขายโครงการควินน์ สุขุมวิท 101 มูลค่าโครงการมากกว่า 2,450 ล้านบาท พลัสฯมั่นใจถึงความสำเร็จในการขายโครงการครั้งนี้ว่าสามารถปิดการขายโครงการได้ในอีก 2 ปีข้างหน้า ด้วยประสบการณ์ในการขายในย่านสุขุมวิทที่เรียกว่าพลัสฯเข้าใจตลาดและลูกค้าเป็นอย่างดี รวมถึงศักยภาพของโครงการที่อยู่ติดสถานีรถไฟฟ้าปุณณวิถีเพียง 0 เมตร เป็นแหล่งงาน Digital Hub ขนาดใหญ่ รวมทั้งยังรายล้อมไปด้วยสถานศึกษาชั้นนำ อย่างโรงเรียนนานาชาติแองโกสิงคโปร์, โรงเรียนนานาชาตินิสท์ มีห้างสรรพสินค้าขนาดใหญ่อย่าง The Em District, Ture Digital Park รวมถึงในอนาคตกำลังจะมี Bangkok Mall ตัวโครงการมีความเป็นส่วนตัวสูงมีเพียง 347 ยูนิต ออกแบบห้องพักให้เลือกถึง 4 แบบ ตั้งแต่ 1 Bedroom ขนาดเริ่มต้น 35 ตร.ม. 2 Bedroom ขนาดเริ่มต้น 54 ตร.ม. ห้อง Combine ขนาดเริ่มต้น 70 ตร.ม. และเพนต์เฮาส์ ขนาดเริ่มต้น 125 ตร.ม. แต่ละแบบแยกสัดส่วนห้องนอน ห้องนั่งเล่น และมี Double Skin กึ่ง Semi Outdoor ที่สามารถปรับเปลี่ยนฟังก์ชันได้ตามความต้องการของผู้พักอาศัย พื้นที่ส่วนกลางรองรับการใช้งานแบบจัดเต็ม ไม่ว่าจะเป็น Lobby, Private Meeting Room, Fitness, Sky Lounge, Game Room, Theatre Room และSky garden ความพิเศษของโครงการควินน์ สุขุมวิท 101 คือมีองค์ประกอบที่ลงตัว และเป็นแรร์ไอเทมของที่อยู่อาศัยในย่านนี้อีกแห่งหนึ่ง"
ทั้งนี้ ตัวโครงการก็ยังคงให้ความสำคัญสำหรับนักลงทุน นายกาจพงศ์ พงศ์พนรัตน์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหารธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ บริษัท เอ็ม บี เค ดีเวลลอปเม้นท์ จำกัด กล่าวว่า "ด้วยประสบการณ์จากลูกค้าที่ผ่านมา โครงการได้มีโอกาสดูแลเจ้าของห้องที่ฝากห้องกับโครงการไว้เพื่อปล่อยเช่า (คิดเป็นจำนวน 30% ของจำนวนห้องที่โครงการโอนกรรมสิทธิ์ไปแล้ว) และปัจจุบันจำนวนห้องเช่าที่ฝากโครงการไว้มีปริมาณไม่เพียงพอกับลูกค้าที่ walk in เข้ามาถามหาห้องเช่า จึงได้มีการออกแคมเปญพิเศษสำหรับนักลงทุน Program 8% Yield 3 ปี ที่ช่วยเพิ่มมูลค่าให้กับทรัพย์สิน เจ้าของห้องพักอาศัยสามารถทำรายได้จากห้องชุดต่อเดือนสูงถึง 40,000 บาท ตลอดระยะเวลา 3 ปีเลยทีเดียว"
ปัจจุบันได้เริ่มเปิดขายโครงการควินน์ สุขุมวิท 101 ไปแล้ว ถือว่าได้รับการตอบรับจากกลุ่มกำลังซื้อที่ดี กำลังซื้อหลักของโครงการนี้จะเป็นกลุ่มผู้มีรายได้ปานกลางถึงรายได้ค่อนข้างสูง และเป็นกลุ่มคนที่ทำงานทั้งชาวไทยและต่างชาติในพื้นที่ใกล้เคียง ได้แก่ ย่านสุขุมวิท ทองหล่อ เอกมัย คาดว่าในไตรมาสที่ 3 จะได้รับการตอบรับของตลาดทำให้การขายเร็วขึ้น เพื่อดูดซับความต้องการของกำลังซื้อที่มีการกระตุ้นเศรฐกิจในปัจจุบัน สำหรับลูกค้าที่สนใจเยี่ยมชมโครงการพร้อมรับสิทธิ์พิเศษ สามารถลงทะเบียนได้ที่ https://www.plus.co.th/corporate/sole-agent/" นางสาวสมสกุล กล่าว
ที่มา: พลัส พร็อพเพอร์ตี้