นายไตรรัตน์ ทองปลอด ประธานเจ้าหน้าที่ปฏิบัติการ กลุ่มธุรกิจโปรตีน บริษัท เบทาโกร จำกัด (มหาชน) หรือ BTG เปิดเผยว่า เบทาโกรเข้าใจถึงความต้องการของผู้ประกอบการด้านอาหาร จึงให้ความสำคัญการส่งมอบวัตถุดิบคุณภาพ สด สะอาด และปลอดภัย ด้วยมาตรฐานเบทาโกร ทั้งผลิตภัณฑ์โปรตีน หมู ไก่ ไข่ ปลา ผลิตภัณฑ์พร้อมปรุง เพื่อให้ผู้ประกอบการเข้าถึงวัตถุดิบอาหารที่ดีกว่า ซึ่งเป็นหัวใจสำคัญที่นำธุรกิจไปสู่ความสำเร็จ
โดยบริษัทฯ มีแผนที่จะขยายฐานลูกค้าในกลุ่มผู้ให้บริการด้านอาหาร (Food Service) ประกอบด้วย ร้านอาหาร โรงแรม และคาเฟ่-จัดเลี้ยง (HORECA) รวมทั้งสตรีทฟู้ด โรงพยาบาล และโรงเรียน เนื่องจากเป็นช่องทางจำหน่ายที่มีศักยภาพเติบโต โดยเบทาโกรจะนำเสนอวัตถุดิบคุณภาพเหมาะกับตามความต้องการที่แตกต่างกันในแต่ละท้องถิ่นของภูมิภาคของประเทศ และจัดตั้งศูนย์กระจายสินค้า (Distribution Center) ตามหัวเมืองใหญ่ในภูมิภาคต่าง ๆ เพื่อยกระดับคุณภาพบริการส่งมอบสินค้าให้ผู้ประกอบการได้ทุกที่และทุกเวลา พร้อมขยายกำลังการผลิตโรงงานแปรรูปเนื้อสัตว์เพื่อรองรับดีมานด์ความต้องการวัตถุดิบที่เพิ่มขึ้น
นอกจากนี้ เบทาโกรพร้อมเป็นเพื่อนคู่คิด สนับสนุนผู้ประกอบการร้านอาหารให้เติบโต และประสบความสำเร็จไปด้วยกัน โดยการส่งมอบ "Business Solutions" ผ่านการทำงานของทีมส่งเสริมความสัมพันธ์ลูกค้าองค์กร (BETAGRO CRM) และทีมขายที่เข้าถึงและดูแลลูกค้าได้อย่างครอบคลุม อาทิ "แดรี่ โฮม" และ "โอ้กะจู๋" ที่เบทาโกรได้พัฒนาวัตถุดิบผลิตภัณฑ์โปรตีนแปรรูปที่เหมาะกับอาหารที่เป็นผัก ตลอดจนการบริหารจัดการอย่างเป็นระบบ จึงสามารถส่งผลิตภัณฑ์ได้อย่างรวดเร็วตอบโจทย์ของดีมานด์ของผู้บริโภคในแต่ละสาขา และ "ปั้น คำ หอม" ที่ร่วมกันต่อยอดธุรกิจ พัฒนาผลิตภัณฑ์ใหม่ที่ตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์ของผู้บริโภคยุคใหม่ สนับสนุนองค์ความรู้และเทคโนโลยี และการบริหารจัดการด้านต่าง ๆ ช่วยเพิ่มขีดความสามารถการแข่งขันทางธุรกิจ
นายไตรรัตน์ กล่าวว่า จากภาพรวมธุรกิจร้านอาหารที่คาดการณ์ว่าปี 2567 จะมีมูลค่าราว 6.69 แสนล้านบาท ซึ่งมีปัจจัยบวกมาจากธุรกิจร้านอาหารสามารถขยายพื้นที่บริการได้โดยอาศัยแพลตฟอร์มบริการจัดส่งอาหาร ประกอบกับการท่องเที่ยวฟื้นตัวอย่างต่อเนื่อง (ข้อมูลศูนย์วิเคราะห์เศรษฐกิจ ทีทีบี) บริษัทฯ จึงเดินหน้าขยายช่องทางจำหน่ายร้าน เบทาโกร ช็อป โดยโฟกัสโลเคชั่นที่มีศักยภาพตามสถานที่ท่องเที่ยวที่มีร้านอาหารเป็นจำนวนมาก และมีแผนที่จะเปิดสาขาเพิ่ม 10 สาขา จากปัจจุบันมีอยู่ 235 สาขา ขณะเดียวกันยังมุ่งขยายร้านเนื้อสัตว์อนามัย จำหน่ายเนื้อหมู เนื้อไก่ อาหารพร้อมปรุงมาตรฐานเบทาโกรในรูปแบบคีออส เข้าสู่ช่องทางตลาดสด โดยมีแผนที่จะเปิดสาขาใหม่ 150 สาขา จากเดิมที่มี 1,150 สาขา ทั้งนี้ในปี 2567 บริษัทฯ ตั้งเป้ายอดขายร้านเบทาโกร-ช็อป เติบโต 19% ขณะที่ร้านเนื้อสัตว์อนามัย เติบโต 12%
เบทาโกรเชื่อว่าการสนับสนุนผู้ประกอบการให้เข้าถึงวัตถุดิบคุณภาพอย่างสม่ำเสมอ นอกจากจะเป็นส่วนสำคัญในการสร้างการเติบโตของธุรกิจ ยังเป็นการส่งมอบอาหารคุณภาพสู่ผู้บริโภคในวงกว้างยิ่งชึ้น ตอกย้ำการเป็นบริษัทอาหารครบวงจรชั้นนำของไทยที่มุ่งมั่นเพิ่มคุณค่าชีวิตทุกคน ด้วยอาหารที่ดีกว่า เพื่อชีวิตที่ยั่งยืน
ที่มา: เอ็มที มัลติมีเดีย