สมาคมประกันวินาศภัยไทย ขอย้ำเตือนกรณีที่มีการเผยแพร่ข้อความเท็จเกี่ยวกับรายชื่อบริษัทประกัน (รถยนต์) ที่ถูก Black List ซึ่งปัจจุบันบริษัทประกันภัยที่ถูกกล่าวถึงนั้น จำนวน 6 บริษัท ได้ถูกเพิกถอนใบอนุญาตการประกอบธุรกิจประกันวินาศภัย หรือปิดกิจการไปแล้ว ส่วนบริษัทประกันภัยที่ถูกกล่าวถึงอีก 2 บริษัท ยังคงดำเนินการประกอบธุรกิจประกันวินาศภัยตามปกติอยู่ในปัจจุบัน และมีสถานะทางการเงินที่สูงกว่าเกณฑ์มาตรฐานขั้นต่ำที่สำนักงาน คปภ. กำหนด ได้แก่
- บริษัท มิตรแท้ประกันภัย จำกัด (มหาชน) ดำเนินธุรกิจเข้าสู่ปีที่ 77 มีทุนจดทะเบียนและชำระแล้ว 1,518 ล้านบาท ข้อมูล ณ วันที่ 31 มีนาคม 2567 มีอัตราส่วนความเพียงพอของเงินกองทุนร้อยละ 607.33 และอัตราส่วนสินทรัพย์สภาพคล่องร้อยละ 340 ซึ่งสูงกว่าเกณฑ์ที่สำนักงาน คปภ. ได้กำหนดไว้ โดยมีสำนักงานตั้งอยู่เลขที่ 295 ถนนสี่พระยา แขวงสี่พระยา เขตบางรัก กรุงเทพฯ โทรศัพท์: 0 2640 7777 Hotline: 1741 www.mittare.com
- บริษัท เอราวัณประกันภัย จำกัด (มหาชน) ปัจจุบันได้มีการเปลี่ยนชื่อเป็น บริษัท อินชัวร์เวิร์ส จำกัด (มหาชน) เมื่อวันที่ 20 มกราคม 2566 ซึ่งดำเนินธุรกิจเข้าสู่ปีที่ 42 มีทุนจดทะเบียน 670 ล้านบาท ข้อมูล ณ วันที่ 31 มีนาคม 2567 มีอัตราส่วนความเพียงพอของเงินกองทุนร้อยละ 238.05 และอัตราส่วนสินทรัพย์สภาพคล่องร้อยละ 3,714.41 โดยมีสำนักงานตั้งอยู่เลขที่ 1115 อาคารทิพยประกันภัย (สำนักงานใหญ่) ชั้นที่ 24 ถนนพระราม 3 แขวงช่องนนทรี เขตยานนาวา กรุงเทพมหานคร 10120 โทรศัพท์ 0 2118 4750 www.insurverse.co.th
ปัจจุบันเทคโนโลยีในการสื่อสารมีความสะดวก รวดเร็วมากขึ้น การตรวจสอบข้อมูลเกี่ยวกับสถานะความมั่นคงของบริษัทประกันภัย ประชาชนสามารถทำได้ง่าย สมาคมฯ ขอแนะนำวิธีตรวจสอบข้อมูลความมั่นคงและความน่าเชื่อถือของบริษัทประกันภัย เพื่อป้องกันการหลงเชื่อหรือการแชร์ข้อความเท็จที่ส่งต่อกันมา ซึ่งประชาชนสามารถตรวจสอบได้ด้วยตนเอง ดังนี้
- ตรวจสอบรายชื่อและข้อมูลของบริษัทประกันภัย
ประชาชนสามารถตรวจสอบรายชื่อและข้อมูลในการประกอบธุรกิจประกันภัยของบริษัทต่าง ๆ ที่เป็นปัจจุบัน ผ่านทางช่องทางของบริษัทประกันวินาศภัยโดยตรง หรือทางเว็บไซต์ของ สำนักงานคณะกรรมการกำกับและส่งเสริมการประกอบธุรกิจประกันภัย (คปภ.) www.oic.or.th และเว็บไซต์ของ สมาคมประกันวินาศภัยไทย www.tgia.org - ฐานะทางการเงินของบริษัท
บริษัทประกันภัยทุกบริษัท จะต้องเปิดเผยงบแสดงฐานะทางการเงินในเว็บไซต์ของบริษัท เพื่อให้ลูกค้าสามารถเข้าไปตรวจสอบได้ โดยเฉพาะอัตราส่วนความเพียงพอของเงินกองทุน" หรือ Capital Adequacy Ratio หรือเรียกสั้น ๆ ว่า CAR อัตราส่วนนี้เป็นอัตราส่วนที่บอกถึงความสามารถของบริษัทประกันภัยในการชำระหนี้สิน ยิ่งตัวเลขอัตราส่วนความพอเพียงของเงินกองทุนมีค่าสูงมาก ยิ่งแสดงถึงความสามารถในการบริหารที่ดี และบ่งบอกถึงความมั่นคงของฐานะทางการเงินของบริษัทประกันภัย ทั้งนี้ สำนักงานคณะกรรมการกำกับและส่งเสริมการประกอบธุรกิจประกันภัย (คปภ.) ได้มีการกำหนดให้ทุกบริษัทประกันภัยต้องมีอัตราส่วนความพอเพียงของเงินกองทุนไม่ต่ำกว่าร้อยละ 140 และต้องเปิดเผยตัวเลข CAR ให้สาธารณชนได้รับทราบ
ทุกวันนี้มีข่าวปลอมและข่าวเท็จที่ส่งต่อเผยแพร่กันในอินเทอร์เน็ตและโซเชียลมีเดียมีอยู่เป็นจำนวนมาก ประชาชนผู้รับข่าวสารควรตรวจสอบข้อเท็จจริงของข่าวจากแหล่งข้อมูลที่เชื่อถือได้ก่อนส่งต่อหรือแชร์ทุกครั้ง ดังนั้นหากท่านได้รับข้อมูลข่าวสารเกี่ยวกับบริษัทประกันวินาศภัยที่ส่งต่อมาทางโซเชียลมีเดียและมีข้อสงสัย สามารถสืบค้นข้อเท็จจริงของข้อมูลด้านการประกันภัยได้ที่เว็บไซต์ของสำนักงาน คปภ. (www.oic.or.th) และเว็บไซต์ของสมาคมประกันวินาศภัยไทย (www.tgia.org) หรือติดต่อสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่สายด่วน คปภ. 1186 หรือ สมาคมประกันวินาศภัยไทย โทร. 0 2108 8399
ที่มา: สมาคมประกันวินาศภัยไทย