ในปี 2566 บริษัทฯ ได้ประกาศแผนความร่วมมือกับ IMAX Corporation ใน 5 ปี ตั้งแต่ปี 2566-ปี 2570 จะขยายสาขาใหม่ พร้อมอัปเกรดเครื่องฉายเป็นระบบ IMAX with Laser ทั้งหมด เนื่องจาก ได้เห็นการเติบโตของ IMAX ในประเทศไทย โดยมีจำนวนลูกค้าให้ความสนใจเข้าชมภาพยนตร์ในโรงภาพยนตร์ ไอแมกซ์ เพิ่มมากขึ้นอย่างต่อเนื่อง และจากผลการดำเนินงานในปี 2566 นับเป็นประวัติการณ์ของโรงภาพยนตร์ไอแมกซ์ ที่มีจำนวนบัตรชมภาพยนตร์มากกว่า 500,000 ใบ และยังคงเติบโตต่อเนื่องโดยใน ไตรมาส 1 ของปี 2567 มีจำนวนบัตรชมภาพยนตร์โรงภาพยนตร์ไอแมกซ์มากถึง 149,000 ใบ
สำหรับผลการดำเนินงานในไตรมาส 1 ของปี 2567 เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปี 2566 มีจำนวน ผู้เข้าชมภาพยนตร์ในโรงภาพยนตร์ไอแมกซ์เพิ่มขึ้นกว่า 20 % สะท้อนให้เห็นภาพรวมว่าลูกค้าให้ความสนใจในการเลือกดูหนังที่ให้ความสมบูรณ์ทั้งภาพและเสียงที่คมชัดสมจริงยิ่งกว่า และหาดูไม่ได้จากแพลตฟอร์มอื่น ดังนั้น ทางบริษัทฯ พร้อมต่อยอดความสำเร็จของโรงภาพยนตร์ไอแมกซ์ ด้วยการขยายสาขาและอัปเกรดโรงภาพยนตร์ไอแมกซ์ให้เป็นระบบ IMAX with Laser ให้ครบทุกสาขา เพื่อรองรับความสนใจของลูกค้าที่สนใจการดูหนังในโรงภาพยนตร์ไอแมกซ์ที่เพิ่มสูงขึ้นเป็นอย่างมาก อีกทั้ง หนังฮอลีวู้ดเรื่องดังก็เตรียมเข้าฉายในโรงภาพยนตร์ไอแมกซ์อีกหลายเรื่อง อาทิ DEADPOOL & WOLVERINE, ALIEN : ROMULUS, VENOM : THE LAST DANCE, JOKER : FOLIE A DEUX, WICKED เป็นต้น
นรุตม์ กล่าวว่า เพื่อรองรับความต้องการของลูกค้าในย่านลาดพร้าว-บางกะปิ เมเจอร์ ซีนีเพล็กซ์ พร้อมเปิดให้บริการโรงภาพยนตร์ IMAX with Laser สาขาใหม่ ที่ โรงภาพยนตร์บางกะปิ ซีนีเพล็กซ์ ในวัน
เสาร์ที่ 29 มิถุนายน 2567 เป็นสาขาที่ 9 ในประเทศไทย ตั้งอยู่ที่ชั้น 3 เดอะมอลล์ไลฟ์สโตร์ บางกะปิ เป็นโรงภาพยนตร์ IMAX with Laser ที่มาพร้อมความคมชัดระดับ 4K ด้วยเทคโนโลยีเลเซอร์ เอกลักษณ์เฉพาะของไอแมกซ์ ที่ให้ภาพคมชัดที่เหนือกว่า มาพร้อมระบบเสียงใหม่ล่าสุดของโรงภาพยนตร์ IMAX 12 Channel Sound Technology ที่ให้เสียงทั้งความกระหึ่มและเสียงรอบทิศทางที่สมบูรณ์แบบที่สุด และเทคโนโลยี IMAX 3D ใหม่ที่เพิ่มความสบายตาในการรับชมมากขึ้น รองรับการฉายทั้งระบบ 2D และ 3D
โรงภาพยนตร์ IMAX with Laser บางกะปิ ซีนีเพล็กซ์ มีจำนวน 488 ที่นั่ง เป็นที่นั่งแบบเก้าอี้ พรีเมียม 302 ที่นั่ง และแบบเก้าอี้เอ็กซ์คลูซีฟ 186 ที่นั่ง มีให้เลือกใช้บริการ 2 แบบ คือ เก้าอี้คู่ Tesseri มี 9 คู่ จำนวน 18 ที่นั่ง และ เก้าอี้เดี่ยว Optimus จำนวน 168 ที่นั่ง ซึ่งเป็นเก้าอี้ทำจากหนังคุณภาพสูงที่มีขนาดกว้างมากกว่าเก้าอี้ปกติ พนักผิงสามารถปรับเอนเพื่อรองรับแผ่นหลังช่วยเพิ่มความสบายมากขึ้นตลอดการชมภาพยนตร์ ซึ่งผิวสัมผัสของเก้าอี้ออกแบบตามหลักสรีรศาสตร์ช่วยลดความเมื่อยล้าให้การชมภาพยนตร์ได้อย่างเพลิดเพลิน
นอกจากนี้ พร้อมมอบโปรโมชั่นสุดเอ็กซ์คลูซีฟฉลองเปิด IMAX with Laser บางกะปิ ซีนีเพล็กซ์ สำหรับลูกค้า 999 คนแรก ที่ซื้อบัตรชมภาพยนตร์ทุก 1 ที่นั่ง ตั้งแต่วันที่ 29 มิถุนายน - 7 กรกฎาคม 2567 รับทันทีพวงกุญแจ Limited Edition ที่ทำจากจอหนังไอแมกซ์ ลูกค้าสามารถกดรับคูปองเพื่อแลกรับ พวงกุญแจได้ทางไลน์ @MAJORIMAX พร้อมแสดงบัตรชมภาพยนตร์กับพนักงานเพื่อรับพวงกุญแจ
ปัจจุบัน บริษัทฯ ได้เปิดให้บริการโรงภาพยนตร์ไอแมกซ์ จำนวน 10 สาขา เป็นระบบ IMAX with Laser จำนวน 7 สาขา ที่ พารากอน ซีนีเพล็กซ์, ควอเทียร์ ซีเนอาร์ต, ไอคอน ซีเนคอนิค, เมกา ซีนีเพล็กซ์, เมเจอร์ ซีนีเพล็กซ์ รัชโยธิน, เอสพลานาด ซีนีเพล็กซ์ งามวงศ์วาน-แคราย, บางกะปิ ซีนีเพล็กซ์ และเป็น ระบบ IMAX 3 สาขา ได้แก่ เวสต์เกต ซีนีเพล็กซ์, เมเจอร์ ซีนีเพล็กซ์ เซ็นทรัลเฟสติวัล เชียงใหม่ และ Aeon Mall Sen Sok City ประเทศกัมพูชา
ที่มา: เมเจอร์ ซีนีเพล็กซ์ กรุ้ป
