ผศ.ดร.อมลวรรณ กล่าวต่อไปว่า สำหรับ 18 สนามสอบประกอบด้วย 1.มหาวิทยาลัยราชภัฏเชียงราย 2.มหาวิทยาลัยแม่โจ้ 3.มหาวิทยาลัยราชภัฏเพชรบูรณ์ 4.มหาวิทยาลัยราชภัฏลำปาง 5.มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ 6. มหาวิทยาลัยราชภัฏพระนคร 7.มหาวิทยาลัยราชภัฎสวนสุนันทา 8.มหาวิทยาลัยราชภัฏกาญจนบุรี 9.มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลธัญบุรี 10.มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ศูนย์รังสิต 11.มหาวิทยาลัยราชภัฏรำไพพรรณี 12.มหาวิทยาลัยราชภัฏนครราชสีมา 13.มหาวิทยาลัยราชภัฏบุรีรัมย์ 14.มหาวิทยาลัยราชภัฏอุดรธานี 15.มหาวิทยาลัยราชภัฏอุบลราชธานี 16.มหาวิทยาลัยวลัยลักษณ์ 17.มหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์ วิทยาเขตปัตตานี และ 18.มหาวิทยาลัยทักษิณ โดยกำหนดสอบ 4 วัน ใน 8 รอบสอบ ระหว่างวันที่ 17 - 18 สิงหาคม 2567 และวันที่ 31 สิงหาคม - 1 กันยายน 2567 สอบวันละ 2 รอบ ในช่วงเช้า เวลา 9.00-12.00 น. และช่วงบ่าย เวลา 14.30 -17.30 น.
"ในการสอบทุกรอบใช้แบบทดสอบฉบับภาษาไทย และได้เพิ่มแบบทดสอบภาษาอังกฤษให้เลือกสอบได้ในรอบที่ 4 และรอบที่ 8 ใน 4 สนามสอบ คือ มหาวิทยาลัยแม่โจ้ มหาวิทยาลัยราชภัฏพระนคร มหาวิทยาลัยราชภัฏนครราชสีมาและมหาวิทยาลัยทักษิณ เพื่อให้ผู้สมัครชาวต่างชาติสามารถเข้ารับการทดสอบในครั้งนี้ได้ด้วย ขอให้กำลังใจแก่ผู้เตรียมประกอบวิชาชีพทุกคนที่จะเข้าสอบเพื่อรับใบอนุญาตประกอบวิชาชีพ ให้ตั้งใจ มั่นใจและคิดว่าถ้าผ่านการสอบได้จะมีองค์ความรู้พื้นฐานที่สามารถนำไปประกอบวิชาชีพครูได้ในอนาคตข้างหน้า" ผศ.ดร.อมลวรรณ กล่าว
ด้าน ผศ.ดร.พลรพี ทุมมาพันธ์ รองเลขาธิการคุรุสภา กล่าวว่า กรณีผู้มีสิทธิสมัครเข้ารับการทดสอบเป็นผู้ที่ข้อมูลในระบบสารสนเทศผู้ประกอบวิชาชีพทางการศึกษา (TEPIS) หรือเป็นผู้ผ่านการรับรองความรู้ หรือเป็นผู้ไม่ผ่านเกณฑ์การทดสอบ ที่ไม่สามารถสมัครได้ ให้ยื่นคำร้องขอมีสิทธิสมัครเข้ารับการทดสอบ ได้ระหว่างวันที่ 29 มิถุนายน - 3 กรกฎาคม 2567 และสามารถชำระค่าสมัครเข้ารับการทดสอบ ผ่านระบบแอปพลิเคชันได้ทุกธนาคาร ระหว่างวันที่ 28 มิถุนายน - 7 กรกฎาคม 2567 และเมื่อดำเนินการเรียบร้อยแล้วสามารถตรวจสอบรายชื่อผู้เข้ารับการทดสอบ ได้ในวันที่ 2 สิงหาคม 2567 เป็นต้นไป ผ่านเว็บไซต์ https://ksp67-2.thaijobjob.com
"สำหรับการทดสอบในครั้งนี้ขอย้ำ จัดสอบระบบอิเล็กทรอนิกส์ในทุกสนามสอบ ซึ่งได้เตรียมความพร้อมเป็นอย่างดี โดยร่วมกับมหาวิทยาลัยที่จัดสอบทั่วประเทศ ที่สำคัญมีการเพิ่มและกระจายสนามสอบให้ครอบคลุมทั่วทุกภูมิภาค เพิ่มรอบสอบทั้งภาคเช้าและภาคบ่าย เพื่อให้ผู้เข้าสอบมีโอกาสเข้ารับการทดสอบและมีความสะดวกในการเดินทางมากขึ้น รวมทั้งเพิ่มแบบทดสอบฉบับภาษาอังกฤษ เพื่อรองรับผู้เข้าสอบชาวต่างชาติ นอกจากนี้หลังการสอบก็จะเปิดให้ดูกระดาษคำตอบได้เช่นเดิมและมีมาตรการควบคุมการรั่วไหลของข้อสอบ ส่วนแผนการในอนาคตนั้น จะใช้ระบบอัตโนมัติ หรือ AI มาสนับสนุนการจัดสอบทั้งด้านการแสดงผลสอบให้ผู้เข้าสอบได้ทราบทันที เพื่อความรวดเร็วและโปร่งใส รวมทั้งการเปิดเผยข้อสอบ การเฉลยข้อสอบและการดำเนินงานอื่นที่เกี่ยวข้อง อย่างไรก็ตามหากมีข้อสงสัยเกี่ยวข้องกับการทดสอบฯ สามารถติดต่อได้ที่ โทร. 0-2257-7159 กด 3 หรือไลน์ไอดี @Thaijobjob ในวันจันทร์ - ศุกร์ เวลา 8.30-17.30 น." รองเลขาธิการคุรุสภา กล่าว.
ที่มา: เอยู คอมมิวนิเคชั่น