โดยกิจกรรมนี้ ทางบริษัทเราได้ดำเนินการร่วมกับทางตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย โดยตั้งเป้าดำเนินโครงการ "ปลูกป้อง Plant & Protect" ไว้ทั้งหมด 10 ปี ซึ่งแต่ละปีจะมีสถานที่ปลูกป่าที่แตกต่างกันออกไป ขึ้นอยู่กับทางกรมป่าไม้ที่จะจัดสรร หาพื้นป่าที่มีความจำเป็นในการเข้าร่วมกิจกรรม (ซึ่งแต่ละพื้นที่จะมีข้อกำหนดของทางกรมป่าไม้) ทั้งนี้ ที่ผ่านมา ทางเราได้ร่วมทำกิจกรรม "ปลูกป้อง Plant & Protect" ปีที่ 1 ที่จังหวัดนครราชสีมา โดย ได้ทำการปลูกต้นไม้ 15 ไร่ จำนวน 3,000 ต้น และปีนี้เป็นปีที่ 2 ที่จัดขึ้นที่จ.ชัยนาท ปลูกต้นไม้ 10 ไร่ จำนวน 2,000 ต้น รวมทั้งหมด ตอนนี้ ทางบริษัททีซีเอ็มซี ปลูกไป 25 ไร่ จำนวนต้นไม้ 5,000 ต้น
นับเป็นกิจกรรมดีๆที่ทาง TCMC ได้จัดขึ้น โดย "กิจกรรมที่จัดขึ้นในครั้งนี้ ไม่ได้เป็นเพียงแค่การมาทำกิจกรรม CSR ร่วมกันของพนักงาน แต่ยังเป็นการสร้างความสามัคคี การร่วมมือร่วมใจ และสร้างสังคมโดยการแบ่งปัน พร้อมเรียนรู้ร่วมกันอีกด้วย ที่สำคัญ เราตระหนักถึง การอยู่ร่วมกัน ของ มนุษย์ และ ธรรมชาติ แบบพึ่งพาอาศัยกัน ซึ่งกิจกรรมนี้ เป็นอีกหนึ่งกิจกรรมที่ร่วมกันสร้างอนาคตอย่างยั่งยืนให้กับโลก การปลูกป่านั้นเป็นเรื่องละเอียดอ่อน เป็นส่วนสำคัญของระบบนิเวศ เมื่อเป็นระบบนิเวศ แปลว่าย่อมเกี่ยวกับสารพัดชีวิต ดินที่เหมาะสม น้ำที่พอเพียง อากาศที่เหมาะสม ส่งผลต่อระบบนิเวศทั้งนั้น ช่วงแรก ๆ ป่าก็ต้องการการดูแล ก่อนที่จะสามารถเกื้อกูลชุมชนได้ ดังนั้น เรามองหาปัจจัยที่เกื้อกูล ทั้งพื้นที่ ชุมชน ความรู้เรื่องเกษตร กรมป่าไม้ และ ตลาดหลักทรัพย์ พาทุกปัจจัยมาเจอกัน อยากเห็นความร่วมมือของทุกฝ่าย สร้างจุดเปลี่ยนเล็กๆ และ หวังว่าจะเปลี่ยนสิ่งเล็กๆ นี้ สร้าง impact ที่ใหญ่ขึ้น ช่วยให้ชุมชนและป่าได้พึ่งพากัน ช่วยดูดซับคาร์บอนจากบรรยากาศ ลดผลกระทบของโลก มาร่วมมือร่วมใจกันปลูกฟื้นผืนป่าที่ยั่งยืนให้ลูกให้หลาน ดีใจที่กรมป่าไม้และสำนักจัดการป่าชุมชมจัดหาพื้นที่และพันธุ์ไม้ให้ และที่สำคัญดีใจที่ตลาดหลักทรัพย์เชื่อมให้ทุกคนมาพบกันและ เรา TCM Corporation ได้เป็นส่วนหนึ่งของโครงการดีๆ แบบนี้ ต่อๆ ไป" ปิยพร กล่าวทิ้งท้าย
สำหรับโครงการปลูกป่านี้นอกจากบริษัทจะได้ใช้ carbon credit เพื่อลด carbon 10% สุดท้ายแล้ว ยังช่วยสร้างความตระหนักรู้ในเรื่องของ climate change ให้แก่พนักงานขององค์กรทุกระดับ และยังช่วยให้ชุมชนโดยรอบได้พึ่งพาอาศัย ได้ใช้ประโยชน์จากป่านี้ด้วย
ที่มา: ฮิต ทู พับบลิค