การผ่าตัดกระเพาะอาหารเพื่อลดน้ำหนักด้วยเทคนิค แผลเล็ก เจ็บน้อย หายไว โดยใช้เทคโนโลยีการส่องกล้อง โดยการผ่าตัดลดขนาดกระเพาะอาหารเพื่อทำให้รู้สึกอิ่มเร็ว รับประทานอาหารได้น้อยลง ลดการดูดซึมแคลอรี่ พร้อมทั้งปรับระดับฮอร์โมนที่ควบคุมความหิว วิธีการผ่าตัดมีหลายรูปแบบ โดยศูนย์ผ่าตัดโรคอ้วน โรงพยาบาลแพทย์รังสิต สามารถผ่าตัดได้ทุกรูปแบบ โดยหัตถการที่นิยมกันทั่วไปได้แก่ แบบ Sleeve (Laparoscopic Sleeve Gastrectomy) ผ่าตัดลดขนาดกระเพาะให้เล็กลงอย่างเดียว และแบบบายพาส (Roux-en-Y Gastric Bypass) ซึ่งคนไข้ที่อ้วนมาก อ้วนน้อย จะมีวิธีการที่เหมาะกับตัวเองแตกต่างกัน อีกหนึ่ง Hightlight ของโรงพยาบาลแพทย์รังสิต เปิดตัวคนไข้ที่ได้รับการรักษาผ่าตัดกระเพาะเพื่อลดน้ำหนัก แบบ Sleeve (Laparoscopic Sleeve Gastrectomy) และประสบความสำเร็จ คือ คุณรุ่งรัตน์ บุญเฟรือง ซึ่งเป็นรายแรก (เคสรีวิว) ของทางโรงพยาบาล
อย่างไรก็ตาม ผู้ป่วยที่มีภาวะโรคอ้วนโดยเฉพาะผู้ที่มี BMI สูง เป็นผู้ที่มีความเสี่ยงต่อการเกิดภาวะแทรกซ้อนจากการระงับความรู้สึกขณะผ่าตัด เพื่อความปลอดภัยผู้ป่วยผ่าตัดลดอ้วนทุกรายควรได้รับการผ่าตัดในโรงพยาบาลที่มีมาตรฐาน เพื่อให้ได้รับบริการที่มีความปลอดภัย ตั้งแต่ขั้นตอนการเตรียมผ่าตัด มาตรฐานห้องผ่าตัด การดูแลหลังผ่าตัดในห้องไอซียู และการดูแลโดยทีมสหสาขาผู้เชี่ยวชาญ
ผู้ป่วยที่มีข้อบ่งชี้ทางการแพทย์ในการผ่าตัดลดขนาดกระเพาะอาหารเพื่อลดน้ำหนัก ได้แก่ ผู้ที่มี BMI มากกกว่า 32.5 และมีโรคประจำตัว เช่น เบาหวาน ความดันโลหิต เป็นต้น การผ่าตัดมีหลายวิธีขึ้นอยู่กับผู้ป่วยแต่ละกลุ่มน้ำหนัก โดยรพ.แพทย์รังสิตสามารถให้บริการผ่าตัดได้ทุกวิธี ทั้งผ่าตัดกระเพาะแบบสลีฟ (Sleeve Gastrectomy: SG) การผ่าตัดกระเพาะแบบบายพาส (Roux-en-Y Gastric Bypass) รวมถึงกรณีผู้ป่วยเคยผ่าลดขนาดกระเพาะอาหารมาแล้วก็สามารถให้การรักษาต่อได้
ส่วนภาวะแทรกซ้อนที่อาจเกิดขึ้นได้ เช่น การเกิดภาวะรั่ว การเกิดเลือดออกซ้ำ การต้องมาผ่าตัดซ้ำ ซึ่งผู้ป่วยที่มาผ่าตัดที่รพ.การแพทย์รังสิตซึ่งดำเนินการมาแล้วกว่า 100 ราย ราว 90 % เป็นคนไทย อีก 10 %เป็นชาวต่างชาติ กลุ่ม CLMV ไม่เคยมีกรณีที่ผู้ป่วยต้องผ่าตัดซ้ำหรือมีภาวะแทรกซ้อนรุนแรงเกิดขึ้น
ที่มา: กลอรี่ แบรนดิ้ง